คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตัว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การยิงผู้ที่วิ่งหนีโดยไม่มีท่าทีจะหันกลับมาต่อสู้
จำเลยติดตามคนร้ายที่ลักเหล้าไปพบผู้ตายนั่งกินเหล้าอยู่ผู้ตายลุกขึ้นก้าวถอยหลังหนีแล้วควักปืนยิงจำเลย 1 นัด แล้วหันหลังวิ่ง แม้ขณะผู้ตายวิ่งไปได้ราว 3 วาเศษ ผู้ตายจะหักลำกล้องปืนและเอามือล้วงกระเป๋า ซึ่งปรากฏภายหลังว่ามีกระสุนปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย 4 ลูก แต่ผู้ตายก็มิได้แสดงกิริยาว่าจะหันกลับมาต่อสู้ พอห่างจำเลย 16 - 17 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายขณะผู้ตายกำลังวิ่งหันหลังให้ กระสุนปืนถูกผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: จำเลยยิงผู้ตายขณะวิ่งหนีหลังชักปืน แต่ไม่มีท่าทีหันกลับมาต่อสู้
จำเลยติดตามคนร้ายที่ลักเหล้าไปพบผู้ตายนั่งกินเหล้าอยู่ผู้ตายลุกขึ้นก้าวถอยหลังหนีแล้วควักปืนยิงจำเลย 1 นัด แล้วหันหลังวิ่ง แม้ขณะผู้ตายวิ่งไปได้ราว 3 วาเศษ ผู้ตายจะหักลำกล้องปืนและเอามือล้วงกระเป๋า ซึ่งปรากฏภายหลังว่ามีกระสุนปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย 4 ลูก แต่ผู้ตายก็มิได้แสดงกิริยาว่าจะหันกลับมาต่อสู้ พอห่างจำเลย 16-17 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายขณะผู้ตายกำลังวิ่งหันหลังให้ กระสุนปืนถูกผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การแย่งมีดและการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากผู้ที่ยังคงมีเจตนาทำร้าย
ผู้ตายเมาสุราใช้มีดปลายแหลมแทงด้วยเจตนาฆ่า ถูกจำเลยทางด้านหลังก่อนจำเลยจึงเข้าแย่งมีดมาได้ แล้วผู้ตายกลับเข้ากอดปล้ำแย่งมีดจากจำเลยอีก เช่นนี้ แสดงว่าผู้ตายยังติดตามคิดจะทำร้ายจำเลยให้ถึงตายตามที่มีเจตนาแต่แรก ดังนั้น การที่จำเลยเสือกมีดไปถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 3 แผล ลึก 5 เซนติเมตร ถึงแก่ความตายในขณะที่ผู้ตายกับจำเลยกำลังแย่งมีดกันอย่างชุลมุนในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จึงเป็นการกระทำป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การแย่งมีดและการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงภยันตรายจากผู้ที่ยังคงมีเจตนาทำร้าย
ผู้ตายเมาสุราใช้มีดปลายแหลมแทงด้วยเจตนาฆ่า ถูกจำเลยทางด้านหลังก่อนจำเลยจึงเข้าแย่งมีดมาได้ แล้วผู้ตายกลับเข้ากอดปล้ำแย่งมีดจากจำเลยอีก เช่นนี้ แสดงว่าผู้ตายยังติดตามคิดจะทำร้ายจำเลยให้ถึงตายตามที่มีเจตนาแต่แรก ดังนั้น การที่จำเลยเสือกมีดไปถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 3 แผล ลึก 5 เซนติเมตรถึงแก่ความตายในขณะที่ผู้ตายกับจำเลยกำลังแย่งมีดกันอย่างชุลมุนในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จึงเป็นการกระทำป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821-1822/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการยกฟ้องจำเลยร่วม: การป้องกันตัวเป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่ขยายผลถึงจำเลยอื่น
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทุกคนสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันนั้น แม้จำเลยเพียงบางคนเท่านั้นอุทธรณ์ แต่ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่มิได้อุทธรณ์กระทำโดยป้องกันอันเป็นเหตุยกเว้นความผิด ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์นั้น แล้วยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัวจำเลยที่มิได้อุทธรณ์นั้นได้ โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ไม่ใช่เหตุลักษณะคดีตามมาตรา 213
จำเลยผู้ร่วมกระทำผิดย่อมไม่อยู่ในฐานะผู้เสียหายย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อสกัดกั้นการประทุษร้ายจากผู้ที่ร่างกายแข็งแรงกว่า
ผู้ตายไม่พอใจจำเลยที่จำเลยยั่วเย้าผู้ตายในการเล่นมอญซ่อนผ้าจึงได้ต่อว่าจำเลยและเตะจำเลย 1 ทีก่อน แล้วชักเหล็กแหลมยาว 1 คืบ วิ่งไล่ทำร้ายจำเลยซึ่งมีอายุ 17 ปี และรูปร่างเล็กกว่าผู้ตาย จำเลยเอี้ยวตัวหลบแล้วใช้มีดพกปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายเพื่อสกัดกั้นมิให้ผู้ตายทำร้ายจำเลยไป 1 ที ถูกราวนมซ้ายใต้รักแร้ทะลุเข้าภายในช่องอกแล้ววิ่งหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อสกัดกั้นการทำร้ายจากผู้ที่อายุและรูปร่างใหญ่กว่า ถือเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายไม่พอใจจำเลยที่จำเลยยั่วเย้าผู้ตายในการเล่นมอญซ่อนผ้าจึงได้ต่อว่าจำเลยและเตะจำเลย 1 ทีก่อน แล้วชักเหล็กแหลมยาว 1 คืบวิ่งไล่ทำร้ายจำเลยซึ่งมีอายุ 17 ปีและรูปร่างเล็กกว่าผู้ตาย จำเลยเอี้ยวตัวหลบแล้วใช้มีดพกปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายเพื่อสกัดกั้นมิให้ผู้ตายทำร้ายจำเลยไป 1 ที ถูกราวนมซ้ายใต้รักแร้ทะลุเข้าภายในช่องอกแล้ววิ่งหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังเกินสมควรแม้ถูกทำร้ายก่อน
จำเลยกับผู้ตายเคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อนแล้วแยกกัน วันเกิดเหตุผู้ตายชักชวนจำเลยให้กลับไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามเดิม จำเลยไม่ยอมไป ผู้ตายก็เข้าจับมือจะฉุดลากเอาตัวไป การที่ผู้ตายจะเข้าฉุดลากเอาตัวจำเลยไป ผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำป้องกันตนแต่การที่จำเลยใช้มีดง้าวตัวมีดยาว 1 ศอก ด้ามยาว 1 ศอก เหวี่ยงไปมาเพื่อกันมิให้ผู้ตายเข้าจับตัวจำเลย ถูกผู้ตายที่คอด้านหน้าข้างซ้ายลึกตัดกระดูกคอหลอดลม เส้นคอขาดถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังป้องกันเมื่อถูกฉุดลาก แม้มีสิทธิป้องกัน แต่ต้องสมควรแก่เหตุ
จำเลยกับผู้ตายเคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อนแล้วแยกกันวันเกิดเหตุผู้ตายชักชวนจำเลยให้กลับไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามเดิมจำเลยไม่ยอมไป ผู้ตายก็เข้าจับมือจะฉุดลากเอาตัวไป การที่ผู้ตายจะเข้าฉุดลากเอาตัวจำเลยไป ผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำป้องกันตน แต่การที่จำเลยใช้มีดง้าว ตัวมีดยาว1 ศอก ด้ามยาว 1 ศอกเหวี่ยงไปมาเพื่อกันมิให้ผู้ตายเข้าจับตัวจำเลยถูกผู้ตายที่คอด้านหน้าข้างซ้ายลึกตัดกระดูกคอหลอดลม เส้นคอขาดถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในกรณีถูกบุกรุกทำร้าย: การกระทำพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายบุกรุกขึ้นไปบนบ้านและเข้าไปในห้องนอนของจำเลยซึ่งเป็นหญิงที่อยู่บ้านแต่ลำพังคนเดียวในเวลาวิกาลและมืดเมื่อจำเลยวิ่งหนีออกมา ผู้ตายก็เข้ากอดปล้ำจนกระทำมิดีมิร้ายจำเลยจำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายไปในขณะนั้นเพื่อให้ปล่อยผู้ตายไม่ปล่อย จำเลยแทงซ้ำจนผู้ตายปล่อยจำเลย เป็นบาดแผลที่หน้าอก 2 แผล ที่ชายโครง 3 แผล ลึก 2 เซ็นติเมตร ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
of 89