คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้จัดการมรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5843/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ทำกับผู้จัดการมรดกที่ไม่มีอำนาจ ผู้จัดการมรดกต้องจัดการโดยเสียงข้างมาก สัญญาไม่ผูกพันกองมรดก
ผู้จัดการมรดกของ พ.มีสามคนคืออ.ช. และจำเลยขณะจำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์ในคดีนี้ อ.และช.ผู้จัดการมรดกอีกสอบคนถึงแก่กรรมแล้ว ดังนี้จำเลยแต่เพียงผู้เดียวย่อมไม่มีอำนาจจัดการมรดกต่อไปตามลำพัง เพราะในกรณีมีผู้จัดการมรดกหลายคนจะต้องจัดการโดยถือเอาเสียงข้างมากของผู้จัดการมรดกร่วมกัน สัญญาเช่าที่พิพาทจึงไม่ผูกพันกองมรดก การที่ศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียวในภายหลังไม่มีผลทำให้สัญญาเช่าที่พิพาทผูกพันกองมรดก โจทก์ฎีกาอ้างเพียงว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่าทายาทของ พ. ได้เชิดจำเลยให้แสดงออกว่าจำเลยเป็นตัวแทนจัดการทรัพย์มรดกของ พ.แต่เพียงผู้เดียวโดยโจทก์มิได้ฎีกาโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5628/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องจัดการมรดก: นับแต่วันจัดการมรดกเสร็จสิ้น แม้มีเหตุอาจถอดถอนผู้จัดการมรดก
แม้การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกจะเป็นกรณีที่ศาลอาจถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังมิได้มีคำสั่งถอดถอน จำเลยที่ 1 ก็ยังคงมีอำนาจในการจัดการมรดกได้ เมื่อทรัพย์มรดกมีเพียงที่ดินกับเงินฝากธนาคารและจำเลยที่ 1ได้โอนที่ดินดังกล่าวและถอนเงินออกมาทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี 2528จึงถือได้ว่าการจัดการมรดกได้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ปี 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในปี 2535 เกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกเสร็จคดีจึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5496/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย และจัดการข้อโต้แย้งสิทธิในทรัพย์มรดกที่เกิดขึ้นใหม่
ในคดีที่ขอจัดการมรดกศาลจะพิจารณาว่า ผู้ขอมีสิทธิขอจัดการมรดกและสมควรตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ เมื่อศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อดำเนินการแล้วหากมีข้อโต้แย้งสิทธิในทรัพย์สินของผู้ตายแต่ประการใด เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกจะต้องดำเนินเป็นคดีอีกต่างหาก เพราะเป็นการโต้แย้งสิทธิในเรื่องทรัพย์มรดกที่เกิดขึ้นใหม่ มิใช่การร้องขอให้ศาลชี้ขาดในเรื่องเดิมที่ขอจัดการมรดกอย่างคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5284/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ผู้จัดการมรดกต้องโอนตามสัญญา ไม่สามารถเกี่ยงค่าใช้จ่ายได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามโอนที่ดินมีโฉนดแก่โจทก์โดยอ้างว่าปู่และย่าได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่บิดาโจทก์โดยไม่ได้จดทะเบียน แต่ได้มอบการครอบครองให้เป็นเวลาเกิน 10 ปี โจทก์เป็นผู้รับมรดกที่ดินพิพาทจากบิดาแล้วครอบครองต่อมาจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382เมื่อจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลรับว่าจะโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้ว จะเกี่ยงให้โจทก์ชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้จำเลยที่ 3 ก่อนโอนไม่ได้ ข้อที่จำเลยที่ 3 อ้างว่าเป็นบันทึกข้อตกลงให้ชำระค่าใช้จ่ายนั้น ความจริงเป็นเพียงบันทึกรายงานการประชุมเท่านั้น ประกอบกับจำเลยที่ 3 ไม่ได้ฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามาด้วย การที่จะให้โจทก์ชำระเงินค่าใช้จ่ายก่อนโอนนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 3 จะต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกสำหรับทายาทนอกกฎหมายและผู้เยาว์ โดยคำนึงถึงประโยชน์กองมรดก
การที่ศาลจะมีคำสั่งตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องได้นั้น ข้อเท็จจริงจะต้องได้ความว่า ผู้คัดค้านเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713 และมีเหตุที่จะแต่งตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 เมื่อผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายเกิดกับ ศ. และเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ย่อมเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิรับมรดกได้ จึงเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วย เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านยังเป็นผู้เยาว์ไม่สามารถจัดการงานด้วยตนเองได้ ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตาย ประกอบกับ ศ. มารดาผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 และมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตาย ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงสมควรตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง ส่วนที่ว่า ศ. มารดาผู้คัดค้านไม่มีความรู้เรื่องทรัพย์มรดกของผู้ตายและจะมีปัญหายุ่งยากในการจัดการมรดก ก็ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรอง และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกโดยคำนึงถึงประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ผู้คัดค้านเป็นบุตรผู้เยาว์ของ ศ. และเป็นบุตรนอกกฎหมายที่ผู้ตายซึ่งเป็นบิดารับรองแล้วเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกได้ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตายประกอบกับ ศ. มีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามเป็นผู้จัดการมรดกจึงสมควรตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการอุทธรณ์/ฎีกาของผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้ง และการยกประเด็นโดยศาลฎีกา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้ง ก. และ พ. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ก. มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ถูกกระทบสิทธิโดยคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือว่า ก. เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่อยู่ในฐานะที่จะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้ตั้ง ก. เป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องอุทธรณ์ฎีกาของผู้จัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาหากมิได้ถูกกระทบสิทธิโดยตรง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งก. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้ร้องจึงเป็นคู่ความในคดีนี้ส่วนก. มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ถูกกระทบสิทธิโดยคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือว่าก. เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่อยู่ในฐานะจะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ปัญหาว่าก. มีอำนาจฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5)ประกอบด้วยมาตรา246,247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5012/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้มีส่วนได้เสียร่วมจากธุรกิจที่ทำร่วมกับผู้ตาย
ผู้คัดค้านได้ร่วมประกอบธุรกิจการค้ากับผู้ตายทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการดังกล่าวจึงเป็นของผู้ตายและผู้คัดค้านร่วมกันเมื่อกิจการนั้นยังคงดำเนินอยู่ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1713วรรคแรกมีสิทธิร้องคัดค้านการที่ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้ ทรัพย์ใดจะเกิดจากการประกอบกิจการร่วมกันของผู้ตายกับผู้คัดค้านหรือไม่ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้ ผู้ร้องและผู้คัดค้านร่วมกันแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าคดีตกลงกันได้โดยจะขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันไม่คัดค้านกันอีกต่อไปตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่26มิถุนายน2535ข้อตกลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านดังกล่าวเป็นการตกลงกันในประเด็นแห่งคดีบางข้อแม้จะมีการสืบพยานผู้ร้องและผู้คัดค้านต่อไปก็เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงสิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกและคุณสมบัติของผู้จะเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายเมื่อฟังว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิและคุณสมบัติในการเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายแล้วก็จะต้องตั้งให้ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันไปตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา138วรรคแรกแม้จะได้ความจากคำเบิกความของผู้ร้องว่ายอมตกลงตามที่ผู้พิพากษาไกล่เกลี่ยก็ไม่ปรากฎว่าข้อตกลงนั้นฝ่าฝืนต่อกฎหมายการไกล่เกลี่ยของผู้พิพากษาเพื่อให้คู่ความตกลงกันเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของผู้พิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา20ซึ่งย่อมเป็นไปตามความสมัครใจของคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4902/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก: ผู้คัดค้านต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
ผู้คัดค้านมิได้เป็นทายาทของเจ้ามรดก ทั้งเหตุที่กล่าวอ้างมาในคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินที่ว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตาย และจะถูกผู้ร้องใช้สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกมาบังคับนั้นก็ยังฟังเป็นยุติไม่ได้ว่า ที่ดินตามที่กล่าวอ้างเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่เพียงใดซึ่งชอบที่จะไปว่ากล่าวกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก กรณียังถือไม่ได้ว่า ผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายอันจะก่อให้เกิดสิทธิในการร้องขอให้เพิกถอนผู้จัดการมรดกได้
of 111