พบผลลัพธ์ทั้งหมด 477 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยทหารและการพิจารณาคดีต่อเนื่องเมื่อจำเลยรับทราบแล้ว
อัยการจังหวัดสกลนครโจทก์ ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้วขอให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่จังหวัดทหารบกอุดรธานี โดยแถลงว่าจำเลยเข้ารับราชการทหาร เป็นทหารประจำการอยู่ที่นั่น ศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ไปยังผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุดรจนล่วงเลยเวลามานานแล้ว ไม่ได้รับตอบศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ ๆ ว่าไม่สามารถส่งสำเนาอุทธรณ์ได้ เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจของทหาร เช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ทันได้รับตอบจากจังหวัดทหารบก จะถือว่าเป็นกรณีหาตัวจำเลยไม่พบ หรือหลบหนี หรือจงใจไม่รับอุทธรณ์ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 201 ยังไม่ถนัด เพราะเรื่องเช่นนี้โจทก์ควรจะได้พยานยามติดต่อกับทางทหารให้ได้ความชัดเจนว่าส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยได้หรือไม่ อย่างไร เพราะเป็นทางราชการด้วยกัน
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่เป็นทหารและการพิจารณาคดีต่อเมื่อจำเลยรับทราบแล้ว
อัยการจังหวัดสกลนครโจทก์ ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้วขอให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่จังหวัดทหารบกอุดรธานี โดยแถลงว่าจำเลยเข้ารับราชการทหารเป็นทหารประจำการอยู่ที่นั่น ศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ไปยังผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุดรจนล่วงเลยเวลามานานแล้วไม่ได้รับตอบ ศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ๆ ว่าไม่สามารถส่งสำเนาอุทธรณ์ได้ เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจของทหาร เช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ทันได้รับตอบจากจังหวัดทหารบก จะถือว่าเป็นกรณีหาตัวจำเลยไม่พบหรือหลบหนี หรือจงใจไม่รับอุทธรณ์ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 201 ยังไม่ถนัดเพราะเรื่องเช่นนี้โจทก์ควรจะได้พยายามติดต่อกับทางทหารให้ได้ความชัดเจนว่า ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยได้หรือไม่อย่างไร เพราะเป็นทางราชการด้วยกัน
ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไป ไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไป ไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องใช้ได้ในการพิจารณาคดี ศาลใช้ดุลพินิจในการรับฟัง
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งศาลต้องจดไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น เป็นพยานเอกสารอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์จึงชอบที่จะอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ ส่วนที่จะรับฟังหรือไม่เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาลที่พิจารณาจะวินิจฉัยอีกชั้นหนึ่ง
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมาย แต่อย่างใด
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมาย แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องใช้ได้ในการพิจารณาคดีได้ ศาลใช้ดุลพินิจรับฟัง
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งศาลต้องจดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น เป็นพยานเอกสารอย่างหนึ่งซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์จึงชอบที่จะอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ส่วนที่จะรับฟังหรือไม่เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาลที่พิจารณาจะวินิจฉัยอีกชั้นหนึ่ง
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาเฉพาะจำเลยที่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษา และการเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จับได้จำเลยเพียงคนเดียวศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ได้ตัวมากับโจทก์ฟังไปทีเดียวโดยยังไม่ครบกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันออกหมายจับโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดทุกคนในฐานความผิดที่หนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา เช่นนี้ ศาลฎีกาคงวินิจฉัยให้แต่สำหรับจำเลยที่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้นส่วนจำเลยที่ยังไม่ได้ตัวมาศาลฎีกายังไม่พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดีแพ่ง: ผลกระทบต่อสิทธิการสืบพยาน และการพิจารณาคดีต่อไป
ศาลสั่งให้โจทก์นำสืบก่อน ในวันสืบพยาน จำเลยไม่มาศาลได้ชื่อว่าขาดนัดพิจารณา
จำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลสืบพยานโจทก์และนัดตัดสินแม้ศาลยังจะต้องเรียกสำนวนจากอีกศาลหนึ่งมาตามที่โจทก์อ้างก็ได้ชื่อว่าการพิจารณาเสร็จแล้ว ก่อนตัดสินจำเลยจะร้องขอสืบพยานจำเลยไม่ได้
จำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลสืบพยานโจทก์และนัดตัดสินแม้ศาลยังจะต้องเรียกสำนวนจากอีกศาลหนึ่งมาตามที่โจทก์อ้างก็ได้ชื่อว่าการพิจารณาเสร็จแล้ว ก่อนตัดสินจำเลยจะร้องขอสืบพยานจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฎว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้ และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ป.วิ.อาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเนื่องจากจำเลยหลบหนี ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคดีในชั้นฎีกาได้
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน แต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงออกหมายจับ เมื่อไม่ได้ตัวมาหลัง 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาไป ทนายจำเลยได้ใช้สิทธิฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบ เพราะถือว่าจำเลยไม่มีตัวอยู่ขณะจะพิจารณาคดีในชั้นฎีกา กรณีไม่เข้า วิ.อาญา มาตรา 201 ซึ่งมีแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม วิ.อาญา พ.ศ. 2499 (ฎีกาที่ 223/2500) เพราะไม่ใช่เป็นกรณีที่ส่งสำเนาฟ้องให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเนื่องจากจำเลยหลบหนี ไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้ในชั้นฎีกา
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน แต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาฟัง คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงออกหมายจับเมื่อไม่ได้ตัวมาหลัง 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาไปทนายจำเลยได้ใช้สิทธิฎีกาแทนจำเลยศาลฎีกาสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบเพราะถือว่าจำเลยไม่มีตัวอยู่ขณะจะพิจารณาคดีในชั้นฎีกากรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 201ซึ่งมีแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2499(ฎีกาที่ 223/2500)เพราะไม่ใช่เป็นกรณีที่ส่งสำเนาฟ้องให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงนอกสำนวนห้ามนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีแพ่ง แม้มีคำพิพากษาอาญา
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน.