พบผลลัพธ์ทั้งหมด 460 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอม: การตีความระยะทางตามเอกสาร และขอบเขตสิทธิในการสร้างสะพาน
จดทะเบียนภารจำยอมเป็นทางยาวประมาณ 10 เมตร รูปแผนที่มีเส้นขีดยาวตามมาตราส่วน 35 เมตร แต่มีอักษรเขียนว่ายาว 10 เมตร จะถือตามมาตราส่วนว่า 35 เมตร ไม่ได้ และจะทำสะพานลงน้ำหน้าที่ดินเพื่อบรรทุกของลงเรือก็เป็นการเพิ่มภาระ ทำไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984-985/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ทางภารจำยอมขยายถึงผู้เช่าซื้อและผู้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินสามยทรัพย์
ที่ดินที่จดทะเบียนเป็นภารจำยอมให้ใช้ทางเข้าออกนั้นคำว่า บริวาร หมายความรวมถึงบุคคลผู้อาศัยสิทธิของผู้อยู่ในที่ดินสามยทรัพย์ด้วยไม่ใช่เฉพาะแต่บุตรภริยาเท่านั้น จึงรวมถึงผู้เช่าซื้อและผู้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินสามยทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความใช้ยันผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ได้ แม้ไม่ได้จดทะเบียน เพราะเป็นการโต้เถียงสิทธิระหว่างผู้ได้ภารจำยอมกับเจ้าของภารยทรัพย์
ได้ภารจำยอมเป็นทางเดินมาโดยอายุความ ไม่ได้จดทะเบียนก็บริบูรณ์และใช้ยันผู้จดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์สามยทรัพย์อันมิใช่เถียงกันในการได้ทรัพยสิทธิอย่างเดียวกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาจดทะเบียนภารจำยอมผิดพลาด: ศาลพิพากษายืนตามเจตนาเดิมของคู่กรณี แม้การจดทะเบียนไม่ตรงตามความจริง
โจทก์จำเลยมีเจตนาจดทะเบียนช่องทางเดินผ่านที่ดินภารยทรัพย์ด้านเหนือมาแต่แรก บันทึกและรูปจำลองของเจ้าพนักงานที่ดินผิดจากเจตนาแท้จริงของคู่กรณี เป็นสารสำคัญของนิติกรรม ศาลพิพากษาให้จดทะเบียนภารจำยอมใหม่ให้ตรงตามเจตนาที่เป็นจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องภารจำยอมต้องระบุระยะเวลาการใช้ทางต่อเนื่อง 10 ปี เพื่อแสดงสิทธิเรียกร้อง
โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่า โจทก์ได้เดินเข้าออกฝ่ายที่ดินของจำเลยตั้งแต่ที่ดินแปลงนี้ยังเป็นของ ข. ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าโจทก์ได้ภารจำยอมมาโดยอายุความซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401, 1382 โจทก์จะต้องใช้ทางเดินดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จึงจะได้ภารจำยอมในที่ดินของจำเลยตามทางเดินนั้น ระยะเวลา 10 ปี จึงเป็นสารสำคัญแห่งข้ออ้างที่โจทก์พึงอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องของโจทก์ เมื่อคำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงระยะเวลาดังกล่าวอันเป็นสารสำคัญแห่งข้ออ้างที่จะอาศัยเป็นหลักในการที่จะบังคับให้จำเลยจดทะเบียนภารจำยอม จึงต้องถือว่าเป็นคำฟ้องซึ่งมิได้แสดงให้เห็นสิทธิของโจทก์ที่จะขอให้บังคับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่ชัดเจนเรื่องอายุความภารจำยอม ทำให้ศาลไม่รับคำฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่า โจทก์ได้เดินเข้าออกผ่านที่ดินของจำเลยตั้งแต่ที่ดินแปลงนี้ยังเป็นของ ช. ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าโจทก์ได้ภารจำยอมมาโดยอายุความซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401,1382 โจทก์จะต้องใช้ทางเดินดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จึงจะได้ภารจำยอมในที่ดินของจำเลยตามทางเดินนั้น ระยะเวลา 10 ปี จึงเป็นสารสำคัญแห่งข้ออ้างที่โจทก์พึงอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องของโจทก์เมื่อคำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงระยะเวลาดังกล่าวอันเป็นสารสำคัญแห่งข้ออ้างที่จะอาศัยเป็นหลักในการที่จะบังคับให้จำเลยจดทะเบียนภารจำยอม จึงต้องถือว่าเป็นคำฟ้องซึ่งมิได้แสดงให้เห็นสิทธิของโจทก์ที่จะขอให้บังคับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาและการยกข้ออ้างภายหลังการไต่สวน
จำเลยกับโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิการจำยอมเป็นถนนผ่านที่ดินจำเลย โดยโจทก์ต้องทำถนนให้เสร็จภายในเวลา 2 นับแต่วันที่ได้จดทะเบียนสิทธิภารจำยอม ถ้าไม่ทำจนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวถือว่าสัญญาประนีประนอมยอมความยกเลิกไป และโจทก์จะต้องไปจดทะเบียนถอนภารจำยอมออกจากที่ดินดังกล่าว เมื่อต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์มิได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาศาลสอบถามโจทก์ โจทก์ยืนยันว่าได้ทำถนนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว ศาลจึงดำเนินการไต่สวนและเดินเผชิญสืบตรวจดูสถานที่ ได้ความว่า โจทก์ไม่ได้ทำถนนแต่อย่างใดเลยโจทก์กลับมายกข้ออ้างขึ้นใหม่ภายหลังที่เดินเผชิญสืบเสร็จการไต่สวนแล้วว่ามีบันทึกซึ่งจำเลยที่ 3 ทำขึ้นนอกศาลตกลงขยายเวลาทำถนนให้โจทก์ ซึ่งขัดกันที่โจทก์แถลงไว้เดิม จึงรับฟังไม่ได้ ศาลบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนภารจำยอมออกจากโฉนดที่ดินของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอม: การวางสายไฟฟ้าเพิ่มภาระเกินขอบเขตเดิม เจ้าของที่ดินมีสิทธิรื้อได้ หากไม่มีการจ่ายค่าทดแทน
ที่ดินจำเลยตกอยู่ในภารจำยอมพียงให้เป็นทางคนเดินผ่าน ให้ล้อเกวียนโคกระบือผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะ และหน้าน้ำใช้เรือพายผ่านเข้าออกเท่านั้น การที่โจทก์วางสายไฟฟ้าผ่านทางภารจำยอมนั้นเป็นการทำการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์ ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์โจทก์จึงไม่มีสิทธิทำได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 เจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อกันก็ตาม แต่เจ้าของที่ดินจะต้องยอมก็ต่อเมื่อเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้วด้วย เมื่อในคำฟ้องของโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 ได้หรือไม่
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 เจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อกันก็ตาม แต่เจ้าของที่ดินจะต้องยอมก็ต่อเมื่อเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้วด้วย เมื่อในคำฟ้องของโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 ได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมจำกัดสิทธิการใช้ที่ดิน การวางสายไฟฟ้าถือเป็นการเพิ่มภาระ จำเป็นต้องได้รับค่าทดแทน
ที่ดินจำเลยตกอยู่ภายใต้ภารจำยอมเพียงให้เป็นทางคนเดินผ่าน ให้ล้อเกวียนโคกระบือผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะ และหน้าน้ำใช้เรือพายผ่านเข้าออกเท่านั้น การที่โจทก์วางสายไฟฟ้าผ่านทางภารจำยอมนั้นเป็นการทำการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์ ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์โจทก์จึงไม่มีสิทธิทำได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 เจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อกันก็ตามแต่เจ้าของที่ดินจะต้องยอมก็ต่อเมื่อเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้วด้วย เมื่อในคำฟ้องของโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 ได้หรือไม่
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 เจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อกันก็ตามแต่เจ้าของที่ดินจะต้องยอมก็ต่อเมื่อเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้วด้วย เมื่อในคำฟ้องของโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 ได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ และภารจำยอม กรณีผู้ซื้อที่ดินทราบการครอบครองปรปักษ์ก่อนซื้อ
ก่อนที่จำเลยจะซื้อที่ดินจากผู้จัดการมรดกของ น. ปรากฏว่ามีสะพานไม้จากที่ดินนั้นข้ามคูของโจทก์ออกสู่ซอยสาธารณะอยู่แล้ว เมื่อจำเลยซื้อมาแล้วก็ได้ใช้สะพานนี้เข้าออกตลอดมา ภายหลังจึงรื้อสะพานนั้นออกแล้วสร้างเป็นสะพานคอนกรีตลงในที่เดิมรวมเป็นเวลาเกินสิบปีแล้ว ที่ดินของโจทก์จึงตกอยู่ในภารจำยอม
จำเลยถมคูทำรั้วรุกล้ำที่ดินของโจทก์เพียงบางส่วน และได้ครอบครองที่ดินนั้นมาโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินสิบปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
โจทก์ทราบความจริงถึงการครอบครองปรปักษ์ของจำเลยแล้ว ยังซื้อที่แปลงนั้นมาอีก การจดทะเบียนสิทธิของโจทก์จึงไม่สุจริต แม้จำเลยจะยังมิได้จดทะเบียนสิทธิในที่พิพาทจำเลยก็ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ยันโจทก์ได้ โจทก์ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
จำเลยถมคูทำรั้วรุกล้ำที่ดินของโจทก์เพียงบางส่วน และได้ครอบครองที่ดินนั้นมาโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินสิบปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
โจทก์ทราบความจริงถึงการครอบครองปรปักษ์ของจำเลยแล้ว ยังซื้อที่แปลงนั้นมาอีก การจดทะเบียนสิทธิของโจทก์จึงไม่สุจริต แม้จำเลยจะยังมิได้จดทะเบียนสิทธิในที่พิพาทจำเลยก็ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ยันโจทก์ได้ โจทก์ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง