คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5843/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการมรดกต้องใช้เสียงข้างมากของผู้จัดการมรดก สัญญาเช่าที่ทำโดยผู้จัดการมรดกคนเดียวไม่ผูกพันกองมรดก
ผู้จัดการมรดกของ พ.มีสามคน คือ อ. ช. และจำเลย ขณะจำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์ในคดีนี้ อ.และ ช.ผู้จัดการมรดกอีกสองคนถึงแก่กรรมแล้ว ดังนี้จำเลยแต่เพียงผู้เดียวย่อมไม่มีอำนาจจัดการมรดกต่อไปตามลำพัง เพราะในกรณีมีผู้จัดการมรดกหลายคนจะต้องจัดการโดยถือเอาเสียงข้างมากของผู้จัดการมรดกร่วมกัน สัญญาเช่าที่พิพาทจึงไม่ผูกพันกองมรดก การที่ศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการ-มรดกแต่เพียงผู้เดียวในภายหลังไม่มีผลทำให้สัญญาเช่าที่พิพาทผูกพันกองมรดก
โจทก์ฎีกาอ้างเพียงว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า ทายาทของ พ.ได้เชิดจำเลยให้แสดงออกว่าจำเลยเป็นตัวแทนจัดการทรัพย์มรดกของ พ.แต่เพียงผู้เดียว โดยโจทก์มิได้ฎีกาโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5286-5287/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือไม่ขอรับมรดกเป็นสัญญาแบ่งปันมรดกได้ตามกฎหมาย
หนังสือไม่ขอรับมรดกซึ่งท. ลงลายมือชื่อให้ไว้แก่เจ้าพนักงานที่ดินระบุว่าตนเป็นบุตรของเจ้ามรดกมีสิทธิรับมรดกในที่ดินโฉนดที่เท่าใดตั้งอยู่ที่ไหนไม่มีความประสงค์ที่จะรับมรดกที่ดินแปลงดังกล่าวและตกลงยินยอมให้จำเลยที่1รับจึงเป็นหนักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญเป็นสัญญาแบ่งปันมรดกมีผลใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา850,852และ1750

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5070/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนมรดกตามพินัยกรรมเกินขนาดที่ดิน และการฟ้องขับไล่จากผู้ซื้อสิทธิในมรดก
คดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224วรรคสอง การที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ทราบดีว่าที่ดินพิพาทมีคดีจนสู่ศาลฎีกาการรับโอนที่ดินจากการซื้อขายมาเป็นของโจทก์แล้วฟ้องขับไล่จำเลย จึงมิได้เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และการกระทำใดสุจริตหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงและมิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนการที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้จึงชอบแล้ว
พินัยกรรมระบุเนื้อที่ดินตามที่ปรากฏในโฉนด และกำหนดจำนวนเนื้อที่ของผู้รับพินัยกรรมแต่ละคนไว้ชัดแจ้งแน่นอน แม้เจ้ามรดกจะระบุเนื้อที่ที่ดินที่ยกให้โดยพินัยกรรมมากกว่าที่เจ้ามรดกมีอยู่ก็ตาม ก็ยังมีผลในส่วนของเจ้ามรดกโดยส่วนแบ่งของผู้รับพินัยกรรมก็ต้องลดลงตามสัดส่วนที่เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้นั้น พินัยกรรมไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา 1706 (3) จึงไม่เป็นโมฆะ เมื่อเจ้ามรดกไม่ได้ระบุให้แบ่งให้แก่จำเลย จำเลยย่อมไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกนั้น เมื่อโจทก์ได้ซื้อที่ดินเฉพาะส่วนของ ส. ที่มีสิทธิได้รับตามพินัยกรรมจากส. โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองมรดกโดยทายาทโดยไม่ปรากฏทายาทอื่น ทายาทที่มาภายหลังพ้นกำหนดอ้างสิทธิ
โจทก์ที่ 2 เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดก และไม่ปรากฏว่ามีทายาทคนใดแสดงตนเข้าครอบครองโดยให้โจทก์ที่ 2 ครอบครองแทน จึงถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 ครอบครองเพื่อตน ช่วงที่โจทก์ที่ 2 ครอบครองไม่มีทายาทมาแสดงสิทธิขอรับมรดกตามสิทธิเลย จำเลยทั้งห้าเพิ่งยื่นคำร้องขอรับมรดกหลังจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรมไปแล้วเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี จำเลยทั้งห้าย่อมสิ้นสิทธิเรียกร้องเอามรดกจากโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทด้วย ตาม ป.พ.พ. มาตรา1754 วรรคสี่ โจทก์ที่ 2 จึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาทแต่เพียงผู้เดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง: การรับมรดกแทนที่
การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่รับวินิจฉัยปัญหาใดโดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น หากจำเลยไม่เห็นด้วยก็ชอบที่จะฎีกาคัดค้านว่าไม่ถูกต้องอย่างไร ที่ถูกต้องแล้วจะต้องวินิจฉัยอย่างไร ด้วยเหตุผลใดแต่หาได้ทำเช่นนั้นไม่ คงฎีกาว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง เพราะจำเลยได้ยกขึ้นต่อสู้มาตั้งแต่ต้นและเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลสูงย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้นั้น เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ม.และโจทก์ที่ 1 ได้แสดงความเกี่ยวข้องฉันบิดากับบุตรโดยให้ความอุปการะเลี้ยงดูให้ใช้นามสกุลเดียวกัน เป็นพฤติการณ์ที่รู้กันโดยทั่วไปตลอดมาว่าโจทก์ที่ 1 เป็นบุตร โจทก์ที่ 1 จึงเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของ ม. แต่เมื่อ ม.ซึ่งเป็นบุตรของเจ้ามรดกตายไปก่อนเจ้ามรดก โจทก์ที่ 1 จึงมีสิทธิรับมรดกของเจ้ามรดกแทนที่ม.ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยตรงของทายาทเมื่อทายาทก่อนเสียชีวิตและสิทธิในการจัดการมรดก
เมื่อ ผ. ถึงแก่ความตายทรัพย์มรดกของ ผ. จึงตกได้แก่บุตรทั้งหกคนของ ผ. แต่ยังไม่ทันที่จะจัดการแบ่งทรัพย์มรดกกันระหว่างทายาท ล.ก็ถึงแก่ความตายเสียก่อน ทรัพย์มรดกส่วนที่เป็นของ ล. จึงตกได้แก่ผู้คัดค้านที่ 1ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 กรณีเป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับมรดกของ ล.โดยตรง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่ 1 เข้ารับมรดกแทนที่ ตาม ป.พ.พ. มาตรา1639 ผู้คัดค้านที่ 1 จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของ ผ. ผู้ตาย ชอบที่จะร้องขอให้จัดการมรดกของ ผ.ผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยตรงและลำดับทายาท: ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
เมื่อผ. ถึงแก่ความตายทรัพย์มรดกของผ. จึงตกได้แก่บุตรทั้งหกคนของผ. แต่ยังไม่ทันที่จะจัดการแบ่งทรัพย์มรดกกันระหว่างทายาทล. ก็ถึงแก่ความตายเสียก่อนทรัพย์มรดกส่วนที่เป็นของล. จึงตกได้แก่ผู้คัดค้านที่1ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1599กรณีเป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่1ได้รับมรดกของล. โดยตรงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่1เข้ารับมรดกแทนที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1639ผู้คัดค้านที่1จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผ. ผู้ตายชอบที่จะร้องขอให้จัดการมรดกของผ. ผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกและขอบเขตพินัยกรรม: สิทธิในทรัพย์สินและอำนาจผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านฎีกาว่าทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ส. มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับ ต. เฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่5195ตำบล บ้านไผ่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้นส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่736ตำบล บ้านไผ่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นมีชื่อ ต. เป็นเจ้าของคนเดียวซึ่งเมื่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ไม่ใช่ของ ส. พินัยกรรมดังกล่าวจึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1646ฟังไม่ได้ว่าเป็นพินัยกรรมนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็หาทำให้พินัยกรรมเอกสารหมายร.1เป็นโมฆะไม่เพราะพินัยกรรมเฉพาะที่ดินในส่วนที่เป็นสิทธิของเจ้ามรดกย่อมสมบูรณ์ทั้งชั้นนี้เป็นเพียงการขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้นยังไม่มีประเด็นเรื่องการแบ่งมรดกซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3750/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนมรดกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวม และข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองแสนบาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 ไปขอรับโอนมรดกที่ดิน แล้วแบ่งขายให้แก่จำเลยที่ 2 อันเป็นทรัพย์มรดกของข.ซึ่งตกได้แก่โจทก์กับจำเลยที่ 1 มีส่วนคนละกึ่งหนึ่งเมื่อไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ผู้เป็นเจ้าของรวมย่อมไม่ผูกพันส่วนของโจทก์ จำเลยที่ 1 ผู้โอนจึงไม่มีสิทธิที่จะโอนมาแก่จำเลยที่ 2 พิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนมรดกของจำเลยที่ 1 และให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ด้วย เมื่อจำเลยที่ 2ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3โดยมิให้เพิกถอนการโอนที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2ซึ่งที่ดินดังกล่าวมีราคา 200,000 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3718/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัว ระงับเมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรม สิทธิไม่ตกทอดไปยังทายาท
การร้องขอให้ศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกโดยสภาพเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ร้องเมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายสิทธินั้นย่อมระงับไม่ตกทอดไปยังทายาทฉะนั้น จ. ซึ่งเป็น ทายาทผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนผู้ร้องหาได้ไม่เมื่อไม่อาจเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ได้ จ. จึงเป็น บุคคลนอกคดีไม่อยู่ในฐานะที่จะฎีกาได้
of 179