พบผลลัพธ์ทั้งหมด 687 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันภัยรถยนต์: การรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่1เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ไปใช้โดยให้ช.ลูกจ้างของตนเป็นคนขับและห้างหุ้นส่วนจำกัดน.นำรถยนต์ดังกล่าวไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่2กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า'บริษัทจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายและบริษัทจะถือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง'ดังนี้การที่ช.ขับรถไปทำละเมิดต่อโจทก์ต้องถือว่าช.ขับรถโดยได้รับความยินยอมจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ผู้เอาประกันภัยมีฐานะเสมือนผู้เอาประกันภัยเองจำเลยที่2จึงต้องรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3185/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับประกันภัยค้ำจุนตามกรมธรรม์ แม้ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ครอบครองรถ แต่เกิดละเมิดจากการใช้งาน
เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยมิได้กำหนดเงื่อนไขไว้ว่าจำเลยที่ 4 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนจะใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกก็แต่เฉพาะในกรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ครอบครองและใช้รถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เท่านั้น ดังนั้น แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จะไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ครอบครองและใช้รถยนต์เพราะได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อไป แต่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 3 ยังต้องรับผิดดังกล่าว จำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ด้วย.
ตามกรมธรรม์ประกันภัยมิได้ระบุเป็นข้อยกเว้นไว้ว่า ผู้รับประกันภัยจะรับผิดแต่เฉพาะค่าซ่อมรถหรือค่าเสื่อมราคาเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดใช้ค่าเช่ารถและค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 4 ก็ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายดังกล่าวให้แก่โจทก์ด้วย
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2529)
ตามกรมธรรม์ประกันภัยมิได้ระบุเป็นข้อยกเว้นไว้ว่า ผู้รับประกันภัยจะรับผิดแต่เฉพาะค่าซ่อมรถหรือค่าเสื่อมราคาเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดใช้ค่าเช่ารถและค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 4 ก็ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายดังกล่าวให้แก่โจทก์ด้วย
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2529)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3185/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับประกันภัยค้ำจุนเมื่อผู้เอาประกันภัยเช่าซื้อรถยนต์ และความคุ้มครองค่าเช่ารถ/ขาดประโยชน์
เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยมิได้กำหนดเงื่อนไขไว้ว่าจำเลยที่4ผู้รับประกันภัยค้ำจุนจะใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกก็แต่เฉพาะในกรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ครอบครองและใช้รถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เท่านั้นดังนั้นแม้ขณะเกิดเหตุจำเลยที่3ผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่2และเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดจะไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ครอบครองและใช้รถยนต์เพราะได้ให้จำเลยที่2เช่าซื้อไปแต่จำเลยที่1ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่2ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายจำเลยที่3ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่2เมื่อจำเลยที่3ยังต้องรับผิดดังกล่าวจำเลยที่4จึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ด้วย. ตามกรมธรรม์ประกันภัยมิได้ระบุเป็นข้อยกเว้นไว้ว่าผู้รับประกันภัยจะรับผิดแต่เฉพาะค่าซ่อมรถหรือค่าเสื่อมราคาเท่านั้นฉะนั้นเมื่อจำเลยที่3ต้องรับผิดใช้ค่าเช่ารถและค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์จำเลยที่4ก็ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายดังกล่าวให้แก่โจทก์ด้วย. (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่5/2529).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เช่าโทรศัพท์ต้องรับผิดค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่ผู้เช่าห้องใช้ แม้เจ้าของบ้านจะไม่ทราบ
โจทก์มีหน้าที่เกี่ยวกับการบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศและบริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ได้มีระเบียบระบุไว้ในสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ และสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์นั้นจำเลยได้รับแจกจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยทุกปี จึงถือได้ว่าจำเลยได้ทราบระเบียบหรือแจ้งความในสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ว่าเครื่องโทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลยสามารถใช้พูดไปต่างประเทศได้ โดยโจทก์เป็นผู้เรียกเก็บเงินโดยตรง จำเลยอนุญาตให้ผู้เช่าบ้านใช้โทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยหรือของโจทก์ทราบว่าให้ใช้เฉพาะภายในประเทศ ไม่ให้ใช้พูดไปต่างประเทศถือได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้เช่าบ้านใช้เครื่องโทรศัพท์พูดไปต่างประเทศได้ด้วยเมื่อมีการใช้โทรศัพท์จากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเป็นผู้เช่าพูดไปต่างประเทศจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามระเบียบที่โจทก์กำหนดไว้และจำเลยได้ทราบแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ไปต่างประเทศที่ผู้เช่าบ้านของจำเลยใช้พูดจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3098/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับจ้างต้องรับผิดจากงานชำรุดบกพร่อง แม้จำเลยจะรับมอบงานบางส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600
โจทก์รับจ้างสร้างรั้ว แต่สร้างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาเป็นเหตุให้รั้วพังล้มลงแม้โจทก์จะอ้างว่าจำเลยรับมอบงานบางส่วนและจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ ถือว่าโจทก์ทำงานให้จนเสร็จเรียบร้อยตามทางการจ้างแล้วนั้นโจทก์ก็หาหลุดพ้นจากความรับผิดไม่เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 600โจทก์ยังต้องรับผิดแก่จำเลยจากงานที่ชำรุดบกพร่องตามที่ปรากฏขึ้นภายในหนึ่งปีนับแต่วันส่งมอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3047/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้เจ้ามรดก: ทายาทไม่ต้องรับผิดโดยตรง หากไม่ใช่ทรัพย์มรดก
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นหนี้ที่บิดาของจำเลยได้กระทำไว้ก่อนถึงแก่กรรมจึงเป็นหน้าที่และความรับผิดโดยเฉพาะของเจ้ามรดกมิใช่เป็นกองมรดกที่จะตกทอดแก่จำเลยผู้เป็นทายาทตามป.พ.พ.มาตรา1600จำเลยจึงมิใช่ลูกหนี้โดยตรงของโจทก์หากจำเลยได้รับมรดกก็รับผิดต่อเจ้าหนี้กองมรดกไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตนได้รับตามป.พ.พ.มาตรา1601โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้กองมรดกไม่อาจก้าวล่วงไปบังคับถึงทรัพย์สินของจำเลยที่มิใช่ทรัพย์มรดกจึงฟ้องจำเลยให้ล้มละลายไม่ได้แต่ชอบที่จะฟ้องขอให้จัดการมรดกของเจ้ามรดกตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯมาตรา82.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการรับผิดตามเช็ค: การที่จำเลยให้คำรับรองว่ารอฟังคำสั่งศาลถือว่าทราบคำสั่งแล้ว
หลังจากจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแล้ว จำเลยไม่ได้อยู่รอฟังคำสั่งแต่ได้ให้คำรับรองไว้ว่า ตนรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอก็ให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลชั้นต้นได้เกษียนสั่งในคำให้การของจำเลยในวันเดียวกันนั้นเองให้รับคำให้การจำเลยสำเนาให้โจทก์นัดพร้อมตัวความและสืบพยานโจทก์ ฯลฯ แม้เจ้าหน้าที่ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์โดยไม่มีลายมือชื่อฝ่ายจำเลยทราบวันสืบพยานโจทก์ในบัญชีนัดพิจารณาคดีของศาลก็ตาม แต่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ศาลที่กำหนดวันสืบพยานโจทก์นั้น ถือว่าได้กระทำหรือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลหรือตามคำสั่งศาล คดีจึงถือว่าจำเลยทราบคำสั่งศาลในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ที่จำเลยอ้างว่าป่วยไม่ได้มาศาลก่อนที่จำเลยทราบก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่จำเลยทราบคำสั่งแล้ว และถือว่าจำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์เป็นการจงใจขาดนัดพิจารณา
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็ค หรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลย ไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริต จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น แม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็ค หรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลย ไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริต จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น แม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2832/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยค้ำจุน: เงื่อนไขการรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดแม้ผู้เอาประกันภัยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
สัญญาประกันภัยค้ำจุนมีเงื่อนไขกำหนดให้ผู้รับประกันภัยร่วมรับผิดกับผู้เอาประกันภัยก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้นำหลักฐานมาแสดงแก่ผู้รับประกันภัยว่าขณะเกิดเหตุคนขับรถยนต์ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายแต่เงื่อนไขดังกล่าวตามสัญญามิได้ระบุชัดแจ้งว่าให้ผู้รับประกันภัยหลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาดังนั้นหากผู้เอาประกันภัยจะปฏิบัติผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างไรหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ผู้รับประกันภัยจะว่ากล่าวเอาแก่ผู้เอาประกันภัยผู้เป็นคู่สัญญาแต่จะยกเหตุแห่งการผิดเงื่อนไขดังกล่าวมาอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีสิทธิได้รับประโยชน์ตามสัญญาระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัยหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของคำฟ้องข่มขืนใจกรรโชกและการรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบข่มขืนใจกรรโชกให้ผู้เสียหายมอบเนื้อกระบือชำแหละแล้ว140กิโลกรัมให้แก่จำเลยกับพวกมิฉะนั้นจำเลยกับพวกจะยึดเนื้อกระบือชำแหละแล้ว500กิโลกรัมไปตรวจสอบอันจะเป็นเหตุให้เนื้อดังกล่าวเสียหายและจะจับกุมผู้เสียหายกับพวกทำให้ปราศจากเสรีภาพผู้เสียหายกับพวกจึงยอมมอบเนื้อ140กิโลกรัมให้จำเลยกับพวกไปเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงที่เป็นการกระทำของจำเลยที่กระทำต่อผู้เสียหายโดยละเอียดครบถ้วนในลักษณะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา148และมาตรา337แล้วทั้งบทบัญญัติแห่งกฎหมาย2มาตราดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุองค์ประกอบความผิดว่าผู้กระทำต้องมีเจตนาทุจริตด้วยคำบรรยายฟ้องจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องและได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหายคิดเป็นเงิน6,000บาทกรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา432คือจำเลยกับพวกต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้นคำว่า'ร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน'หมายความว่าแต่ละคนจะต้องชำระหนี้ทั้งหมดโดยสิ้นเชิงอันมีฐานะเช่นเดียวกับลูกหนี้ร่วม ฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมาชิกชมรมรับขนสินค้าต้องรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลักทรัพย์สินค้าตามระเบียบชมรม แม้มีการเจรจาต่อรองค่าเสียหาย
จำเลยเป็นสมาชิกชมรมสิบล้อพิษณุโลกซึ่งโจทก์กับพวกอีก5คนร่วมกันประกอบกิจการจำเลยรับขนสินค้าในนามและคำสั่งของชมรมฯระหว่างทางถูกคนร้ายลักสินค้าไปซึ่งจำเลยต้องรับผิดตามที่ตกลงไว้กับชมรมฯโจทก์กับพวกยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ส่งชอบที่จะได้รับช่วงสิทธิมาไล่เบี้ยเอากับจำเลยเมื่อพวกของโจทก์มีอำนาจฟ้องแล้วก็ย่อมมอบอำนาจนั้นให้โจทก์ฟ้องแทนได้ ฎีกาของจำเลยยกเหตุแห่งความเคลือบคลุมของคำฟ้องมาอ้างนอกเหนือไปจากที่ต่อสู้ไว้ในคำให้การศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยแต่ฎีกาของจำเลยที่ยกเหตุแห่งอำนาจฟ้องของโจทก์มาอ้างนอกเหนือไปจากที่ต่อสู้ไว้ในคำให้การเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาวินิจฉัยได้.