คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาเช่าซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 486 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทุนทรัพย์คดี, ข้อจำกัดการฎีกา, พยานหลักฐานสัญญาเช่าซื้อ (ขาดการปิดอากรแสตมป์)
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์ อันดับ 1 ซึ่งมีราคา 30,000 บาทเป็นของผู้ร้องที่ 1และอันดับที่ 2 ถึงที่ 9 รวมราคา 28,680 บาท เป็นของผู้ร้องที่ 2 แม้ผู้ร้องจะตีราคารวมกันมาในคำร้องเป็นจำนวนเงิน 58,680 บาท ก็ถือว่าคดีสำหรับผู้ร้องที่ 1 เป็นคดีมีทุนทรัพย์เพียง 30,000 บาทคดีสำหรับผู้ร้องที่ 2 มีทุนทรัพย์เพียง 28,680 บาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามมิให้ผู้ร้องทั้งสองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
เอกสารสัญญาเช่าซื้อแม้ผู้ร้องจะมิได้อ้างเป็นพยานหลักฐานเพื่อบังคับการตามสัญญาเช่าซื้อหากแต่อ้างมาประกอบพยานบุคคลว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดมาเพื่อการบังคับคดีเป็นของผู้ร้องโดยเช่าซื้อมานั้นก็จะต้องพิจารณาวินิจฉัยว่าผู้ร้องได้เช่าซื้อทรัพย์ดังกล่าวมาจริงหรือไม่ ซึ่งต้องพิเคราะห์จากสัญญาเช่าซื้อที่ผู้ร้องอ้างมา สัญญาเช่าซื้อดังกล่าวจึงเป็นพยานหลักฐานโดยตรงในคดี เมื่อไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย จึงใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาเช่าซื้อ: การกำหนดค่าสินไหมทดแทนล่วงหน้าและการลดเบี้ยปรับสูงเกินส่วน
คำว่า 'เบี้ยปรับ' ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 หมายถึงค่าสินไหมทดแทนที่คู่สัญญาได้ตกลงกำหนดกันไว้ล่วงหน้าการที่โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้ในหนังสือสัญญาเช่าซื้อถึงวิธีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงถือได้ว่าเป็นข้อสัญญาที่มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วน ก็ย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2295/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: การผิดสัญญาจากไม่ชำระเบี้ยประกันภัย ทำให้จำเลยมีสิทธิยึดรถคืนได้
การที่สัญญาเช่าซื้อกำหนดหน้าที่ให้โจทก์ต้องประกันภัยรถยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อจากจำเลยนั้น แม้โจทก์จะออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้จำเลยเพื่อชำระคืนเงินเบี้ยประกันภัยที่จำเลยได้ชำระแทนโจทก์ไปแล้วก็ตามแต่เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเช่นนี้ แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้ชำระเงินเบี้ยประกันภัยตามข้อตกลง และจำเลยได้ทวงถามแล้วแต่ โจทก์ ก็ไม่ปฏิบัติตามจึงเป็นการผิดข้อตกลงซึ่งในกรณีเช่นนี้ สัญญาเช่าซื้อ ดังกล่าวมีข้อสัญญาให้ถือว่าสัญญาเช่าซื้อเป็นอัน ยกเลิกสิ้นสุดลงทันที จำเลยจึงมีสิทธิเอาคืนและครอบครองรถ ที่โจทก์เช่าซื้อได้ การกระทำ ของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2037/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและการมีอำนาจฟ้องร้องเรียกคืนทรัพย์สิน
แม้จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 2 คราวติด ๆ กัน เป็นการผิดสัญญาเช่าซื้อข้อ 5 ซึ่งผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาและผู้เช่าซื้อต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนทันทีก็ตาม แต่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อหาได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาไม่ จำเลยจึงยังไม่มีหน้าที่ที่จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบคืนบ้านและที่ดินพิพาทและเรียกค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์จากการให้เช่าบ้าน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: การผ่อนผันชำระหนี้และการบอกเลิกสัญญา ต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ครบถ้วน จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อจากจำเลย สัญญาเช่าซื้อได้กำหนดการชำระค่าเช่าซื้อไว้ทุกวันที่ 25 ของเดือน แต่เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตรงตามกำหนดเวลาหลายงวด โจทก์ขอผ่อนผัน จำเลยก็ยินยอมผ่อนผันให้ และเมื่อโจทก์นำค่าเช่าซื้อมาชำระหลังจากเกินกำหนดเวลาตามงวดแล้ว จำเลยก็ยินยอมรับไว้มิได้ทักท้วง เมื่อจำเลยยึดรถยนต์ไปจากโจทก์แล้ว จำเลยยังมีหนังสือให้โจทก์เอาเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างมาชำระตามพฤติการณ์แสดงว่าในทางปฏิบัติคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาเป็นสำคัญ ดังนี้ จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญา สัญญาจึงเลิกกันตามข้อกำหนดในสัญญาไม่ได้ จำเลยจะเลิกสัญญาได้ก็แต่ด้วยการแสดงเจตนาบอกเลิกตามมาตรา 386 และการบอกเลิกสัญญาก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 387 และ 388 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์มิได้
ค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ที่จะใช้ดุลพินิจพิพากษาให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียค่าฤชาธรรมเนียมหรือจะให้เป็นพับไปก็ได้ โดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือในการดำเนินคดีของคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาเช่าซื้อ: หลักฐานการรับมอบงานและชำระค่าจ้างไม่ผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ
การที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันเข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ แม้จำเลยจะได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้โจทก์ไว้เพราะค้างชำระค่าจ้าง จำเลยก็มีสิทธิที่จะนำสืบพยานว่า ความจริงเป็นกรณีจำเลยว่าจ้างโจทก์ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันอันเป็นสัญญาจ้างทำของ และเอกสารสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำไว้ให้แก่โจทก์เป็นเพียงหลักฐานการรับมอบการงานที่ว่าจ้าง และการชำระสินจ้างที่ยังค้างชำระอยู่เท่านั้น มิได้มีเจตนามุ่งผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ และจำเลยจะไปฟ้องร้องกันใหม่นั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษาดังกล่าวได้ในเมื่อพิจารณาเห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาเช่าซื้อ: เอกสารหลักฐานการรับมอบงานและการชำระค่าจ้าง ไม่ผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ
การที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันเข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ แม้จำเลยจะได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้โจทก์ไว้เพราะค้างชำระค่าจ้าง จำเลยก็มีสิทธิที่จะนำสืบพยานว่า ความจริงเป็นกรณีจำเลยว่าจ้างโจทก์ต่อรถยนต์บรรทุกน้ำมันอันเป็นสัญญาจ้างทำของ และเอกสารสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำไว้ให้แก่โจทก์เป็นเพียงหลักฐานการรับมอบการงานที่ว่าจ้างและการชำระสินจ้างที่ยังค้างชำระอยู่เท่านั้น มิได้มีเจตนามุ่งผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่ตัดสิทธิโจทก์และจำเลยจะไปฟ้องร้องกันใหม่นั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษาดังกล่าวได้ในเมื่อพิจารณาเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2293/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ยึดรถคืนได้เมื่อผิดนัดแม้เพียงงวดเดียว หากมีข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา
สัญญาเช่าซื้อมีว่าให้ยึดรถคืนได้เมื่อไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดใดงวดหนึ่ง ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถคืนได้ ไม่ต้องรอให้ผิดนัด 2 คราว ไม่ขัดต่อ มาตรา 574 วรรคแรก และไม่ใช่กรณีเงินชำระงวดสุดท้ายตาม มาตรา 574 วรรค 2 ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถคืนก่อนแล้วบอกเลิกสัญญาภายหลังก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้กรรมการลงนามไม่ครบตามข้อบังคับ แต่สัญญากู้ยืมและเช่าซื้อก็ผูกพันจำเลย หากจำเลยแสดงออกว่ายอมรับและได้รับประโยชน์จากสัญญา
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลทำหนังสือกู้เงินและเช่าซื้ออุปกรณ์ทำนาจากโจทก์ โดยกรรมการลงชื่อไม่ครบตามข้อบังคับ แต่จำเลยที่ 1 ยอมรับว่ากรรมการเหล่านั้นทำแทนและยอมรับประโยชน์จากสัญญากู้และเช่าซื้อสัญญาจึงผูกพันจำเลยที่ 1 และไม่ใช่กรณีซื้อเชื่อ นำอายุความซื้อขายมาบังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2060/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสาระสำคัญของสัญญาเช่าซื้อ: สัญญาเป็นโมฆะ, ไม่เกิดผลผูกพัน
โจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถยนต์คันที่จำเลยที่ 2 นำมาขายให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่มีหนี้ผูกพันกับโจทก์เกี่ยวกับรถยนต์คันนี้ โจทก์กับจำเลยที่ 2 ไม่มีมูลหนี้เดิมของรถยนต์คันดังกล่าวระหว่างกัน จำเลยที่ 2 เป็นหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของโจทก์คนละคันกับรถยนต์ซึ่งจำเลยที่ 2 นำมาขายให้จำเลยที่ 1 หลักฐานข้อตกลงตามหนังสือโอนการเช่าซื้อระหว่างโจทก์จำเลยจึงมิใช่ผูกพันกันในลักษณะแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวให้จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ และมิใช่ข้อตกลงเกี่ยวกับรถยนต์คันที่จำเลยที่ 2 นำมาขายให้จำเลยที่ 1 เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวเป็นของบุคคลภายนอก ซึ่งโจทก์ไม่มีอำนาจนำมาทำสัญญาให้จำเลยที่ 1 เช่าซื้อได้ ดังนั้น การทำหลักฐานข้อตกลงดังกล่าวเป็นเรื่องจำเลยที่ 1 กับโจทก์แสดงเจตนาโดยสำคัญผิดที่ทำให้เป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 119 ไม่มีผลบังคับ
of 49