พบผลลัพธ์ทั้งหมด 431 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์เกี่ยวกับทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัด พิจารณาจากผู้ครอบครอง
ความผิดอันเกี่ยวกับการที่เอาทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปอาจเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแต่กรณี คือถ้าทรัพย์นั้นจำเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิทักษ์รักษาและจำเลยคิดทุจริตเอาทรัพย์ที่ต้องอายัติไป ก็เป็นผิดฐานยักยอก ตาม ก.ม.อาญา ม. 316 ถ้าทรัพย์นั้นจำเลยมิได้รับมอบหมายให้อยู่ในความครอบครองของจำเลย แม้ทรัพย์นั้นจะเป็นของจำเลยเองก็ดี ถ้าจำเลยบังอาจเอาทรัพย์นั้นไปเสียโดยเจตนาทุจริต จำเลยก็มีความฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.อาญา มาตรา 290.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการเอาทรัพย์คืนจากยึด/อายัด: จำเลยไม่ต้องรู้สถานะทรัพย์
การเอาทรัพย์ของตนที่อยู่ในระหว่างยึดหรืออายัดของเจ้าพนักงานกลับคืน อันจะเป็นผิดตาม ม. 290 นั้น จะต้องมีเจตตนาทุจจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการเอาทรัพย์คืน: จำเลยต้องรู้ว่าทรัพย์ถูกยึด/อายัดหรือไม่
การเอาทรัพย์ของตนที่อยู่ในระหว่างยึดหรืออายัดของเจ้าพนักงานกลับคืน อันจะเป็นผิดตาม มาตรา 290 นั้นจะต้องมีเจตนาทุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์โดยมีเจตนาทุจริต แม้ระยะเวลาสั้นกว่า 3 วัน ก็ถือเป็นความผิดฐานยักยอกได้
เก็บของหายได้แล้วยักยอกแม้ยังอยู่ภายใน 3 วัน นับแต่เก็บได้ ก็คงมีความผิดตามมาตรา 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์ที่เกิดจากการเก็บของหายได้ แม้ยังไม่ถึงกำหนด 3 วัน การกระทำด้วยเจตนาทุจริตก็ถือเป็นความผิด
เก็บของหายได้แล้วยักยอก แม้ยังอยู่ภายใน 3 วันนับแต่เก็บได้ ก็คงมีความผิดตามมาตรา 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิด ม.136-138 อาญา การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้เมื่อยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม ม.136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิดมาตรา 136-138 การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้หากยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม มาตรา 136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายให้เก็บทรัพย์สินและการยักยอกทรัพย์
แก้เอากระเป๋าเงินไปจากเอวเจ้าทรัพย์โดยบอกว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้ เจ้าทรัพย์มิได้ว่ากระไรดังนี้ ถือว่าได้รับมอบหมายจากเจ้าทรัพย์ ถ้าเอาทรัพย์นั้นเสียโดยเจตนาทุจริต ย่อมมีผิดฐานยักยอก
ฟ้องว่าเจ้าทรัพย์ฝากเงินให้จำเลยเก็บรักษาไว้แทน แล้วจำเลยยักยอกทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปเองโดยบอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้เจ้าทรัพย์ไม่ว่ากระไรดังนี้ ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้รับฝากทรัพย์ไว้ จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง
ฟ้องว่าเจ้าทรัพย์ฝากเงินให้จำเลยเก็บรักษาไว้แทน แล้วจำเลยยักยอกทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปเองโดยบอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้เจ้าทรัพย์ไม่ว่ากระไรดังนี้ ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้รับฝากทรัพย์ไว้ จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตภายหลังการกระทำ ไม่ทำให้การกระทำเดิมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยถือวิสาสะ พายหลังกลับมีเจตนาทุจริตเอาทรัพย์ของเขาเสียดังนี้ไม่เปนผิดถานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตภายหลังยึดทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยถือวิสาสะ ภายหลังกลับมีเจตนาทุจริตเอาทรัพย์ของเขาเสีย ดังนี้ ไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์