คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แจ้งความเท็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก.หมิ่นประมาท ชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก.กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก. หมิ่นประมาทชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก. กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้ไม่ลงประจำวัน ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจกล่าวโทษว่า เขาลักตัดยางและเอาไฟเผาสวนยางด้วย โดยความจริงเขามิได้กระทำผิดังข้อหานั้นเลย ดังนี้แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้จดข้อความที่แจ้งความนั้นไว้ในสมุดลงประจำวัน ผู้แจ้งก็มีความผิดฐานแจ้งความเท็จร้องเรียนเท็จตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้ไม่ลงประจำวัน ก็ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จได้
นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจกล่าวโทษว่าเขาลักตัดยางและเอาไฟเผาสวนยางด้วยโดยความจริงเขามิได้กระทำผิดดังข้อหานั้นเลยดังนี้แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้จดข้อความที่แจ้งความนั้นไว้ในสมุดลงประจำวันผู้แจ้งก็มีความผิดฐานแจ้งความเท็จร้องเรียนเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาแจ้งความเท็จต้องระบุวันเวลาชัดเจน หากฟ้องไม่ระบุเวลาของความผิด ถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
ฟ้องของโจทก์ข้อ 1. ระบุวันเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ ส่วนฟ้องข้อ 2. มีข้อความเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ในข้อ 1. จำเลยไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่แต่มิได้ระบุวันเวลาไว้ แม้จะอ่านฟ้องข้อ 1,2 รวมกันก็ไม่ได้ความว่าจำเลยไปแจ้งในวันเวลาที่โจทก์ตัดไม้ จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎเวลาตามมาตรา 158 (5) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาแจ้งความเท็จต้องระบุวันเวลาชัดเจน หากฟ้องไม่ระบุเวลาถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
ฟ้องของโจทก์ข้อ 1 ระบุวันเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ส่วนฟ้องข้อ 2 มีข้อความเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ในข้อ 1 จำเลยไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่แต่มิได้ระบุวันเวลาไว้ แม้จะอ่านฟ้องข้อ 1,2 รวมกันก็ไม่ได้ความว่าจำเลยไปแจ้งในวันเวลาที่โจทก์ตัดไม้ จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏเวลาตามมาตรา 158(5) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและใช้หนังสือปลอมเพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ศาลฎีกาตัดสินความผิดฐานแจ้งความเท็จและใช้เอกสารที่ไม่เข้าข่ายหนังสือราชการ
แบบ ท.ย.11-ต.55 เป็นแบบพิมพ์คำแจ้งความเรื่องโอนและรับโอนยานพาหนะซึ่งใคร ๆ ก็ตรอกข้อความเอาเองแล้วยื่นต่อนายทะเบียนยานพาหนะเพื่อสัง และเป็นคำแจ้งความต่อนายทะเบียนฯเพื่อแก้ทะเบียนรถยนต์เท่านั้น ไม่ใช่หนังสือที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียบเรียงหรือรับว่าเป็นของแท้ตามกฎหมายลักษณะอาญาม.6(19)และไม่ใช่หนังสือสำคัญแก่การตั้งกรรมสิทธิ์หรือหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้เลิกล้างโอนกรรมสิทธิ์อย่างใดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 6(20)
ผู้ใดให้หนังสือดังกล่าวซึ่งเป็นหนังสือปลอมจึงผิดตามมาตรา 223,227 ไม่ใช่ 224,225,22+,227

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแจ้งความเท็จ – ความเข้าใจโดยสุจริต – ไม่เป็นความผิดตาม ม.158
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม ก.ม. อาญา ม. 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกันที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ศาลตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำและจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียหาย หากสุจริตไม่มีความผิด แม้จะมีการแจ้งความจับกุม
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียหาย แม้จะแจ้งความตามที่ได้รับมอบหมาย ก็ต้องพิจารณาความสุจริตของผู้แจ้ง
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158
of 55