คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิครอบครองที่ดิน: จำเลยมีสิทธิโต้แย้งได้ แม้ฟ้องไม่ถึงพระภิกษุเชื่อม
โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเข้าโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยอ้างว่า+ยกที่นี้ให้แก่โจทก์จำเลยคนละเท่า ๆ กัน จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่รายนี้มิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของบิดาโจทก์จำเลย+ดาไม่สละสิทธิหรือยกให้เป็นกรรมสิทธิของผู้ใด คงครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาจนบัดนี้ แล้วบิดาจัดการรังวัดจัดแบ่งที่นี้ให้โจทก์จำเลยคนละเท่า ๆ กัน โจทก์ไม่พอใจ จึงมาฟ้องดังนี้ถือว่า จำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วศาลจำต้องรับคดีไว้วินิจฉัยถึงสิทธิตามฟ้องต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิในที่ดินมรดกและการครอบครอง ย่อมต้องรับคดีเพื่อวินิจฉัยสิทธิ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเข้าโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยอ้างว่าบิดายกที่นี้ให้แก่โจทก์จำเลยคนละเท่าๆ กัน จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่รายนี้มิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของบิดาโจทก์จำเลยบิดาไม่สละสิทธิหรือยกให้เป็นกรรมสิทธิของผู้ใด คงครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาจนบัดนี้แล้วบิดาจัดการรังวัดจัดแบ่งที่นี้ให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆ กัน โจทก์ไม่พอใจจึงมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่า จำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วศาลจำต้องรับคดีไว้วินิจฉัยถึงสิทธิตามฟ้องต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการรับโอนกรรมสิทธิที่ดินหลังมีคำพิพากษาต่อสิทธิในสัญญาจำนอง สิทธิในสัญญาจำนองผูกพันเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินติดต่อกันเกิน 10 ปี เหนือโฉนดเดิม
โจทก์จำเลยต่างซื้อที่ดินมีโฉนด ซึ่งอยู่ติดต่อกันคนละโฉนดแล้วต่างเข้าปกครองตามเขตที่ผู้ขายเดิมครอบครองมา ทั้งสองฝ่ายภายหลังรังวัดสอบเขตตามโฉนดกันจึงปรากฏว่าเขตที่ดินที่โจทก์ปกครองตั้งแต่ซื้อตลอดมานั้นล้ำเข้าไปในเขตโฉนดของจำเลยส่วนหนึ่ง ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ปกครองที่ดินส่วนที่ล้ำเข้าไปนั้นเกินกว่า 10 ปีแล้ว จำเลยจะอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299,1300 มาคุ้มครองจำเลยโดยจำเลยจะเอาที่ส่วนที่โจทก์ปกครองนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด vs สิทธิผู้ครอบครอง: ศาลไม่อาจบังคับทำสัญญาเช่าได้
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีการขายทอดตลาด ก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินนั้นในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1330 ได้ไม่
เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยในที่ดินของตนให้ออกไปได้ แต่ไม่มีสิทธิจะบังคับให้ผู้นั้นต้องคำสัญญาเช่ากับตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินจากการขายทอดตลาด: สิทธิของผู้ซื้อ vs. ผู้ครอบครองเดิม
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินนั้นในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 ได้ไม่
เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินของตนให้ออกไปได้ แต่ไม่มีสิทธิจะบังคับให้ผู้นั้นต้องทำสัญญาเช่ากับตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าช่วง: สิทธิเกิดจากการทำสัญญาเช่าเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากการครอบครองก่อน
ผู้เช่าไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้ที่อยู่ในห้องเช่านั้นมาก่อนและไม่ยอมออก เมื่อผู้เช่าได้ทำสัญญาเช่าแล้ว
โจทก์อยู่ในห้องเช่าโดยอาศัยอำนาจของพี่ชายจำเลย ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องนั้นไว้ก่อนโจทก์ ภายหลังจำเลยเข้ามาอยู่ในห้องรายเดียวกันนี้ แล้ว โจทก์จึงไปขอทำสัญญาเช่ากับเจ้าของห้องในนาทของโจทก์เองดังนี้ สิทธิของโจทก์เพิ่งจะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่สัญญาเช่านี้ฉะนั้นโจทก์จะอ้างว่าได้ครอบครองห้องพิพาทมาก่อนจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินของคนต่างด้าว: การปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมายและการบังคับสิทธิทางคืนเงิน
คนต่างด้าวเป็นโจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่พิพาทและขอให้จำเลยโอนที่พิพาทให้ ถ้าไม่สามารถโอนได้ก็ให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ได้ทดรองจ่ายไป ดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องเสียทีเดียวโดยเห็นว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่ปรากฎว่าได้รับอนุญาตให้ยึดถือที่พิพาทได้นั้นยังไม่ชอบเพราะ พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 นั้นหาใช่เป็นกฎหมายที่ห้ามคนต่างด้าวมิให้เป็นเจ้าของที่ดินเสียทีเดียวไม่เป็นแต่ว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนเท่านั้น ซึ่งถ้าโจทก์ปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่ง ก.ม.นั้นแล้ว ก็ย่อมบังคับได้ หรือก็มีทางบังคับทางคืนเงินตามที่โจทก์ได้ขอมาด้วยท้ายฟ้องอีกวิธีหนึ่ง ฉะนั้นศาลชอบที่จะพิจารณาฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนจนสิ้นกระแสร์ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เข้าอยู่อาศัยและสิทธิในการฟ้องขับไล่: คำให้การเคลือบคลุมทำให้จำเลยไม่อาจสืบได้
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีว่า 'คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านมีความจำเป็นจะต้องเข้าอยู่อาศัยกับทั้งท่านได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ผู้เช่าได้เข้าไปอยู่ในเคหะที่บิดามารดาของท่านเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงลงมติให้ความยินยอมแก่ท่านในอันที่จะเข้าอยู่อาศัยในตึกแถวเลขที่ 60-61 ได้ตามขอ' และยังปรากฏในรายงานพิจารณาของศาลอีกว่า โจทก์ได้ยินยอมให้จำเลย(ผู้เช่า) อยู่ในบ้านบิดามารดาหากจำเลยไม่ยอมเข้าอยู่เองโดยอ้างว่าจะต้องอยู่ในฐานะเช่าไม่ใช่ฐานะอาศัยซึ่งโจทก์ได้แถลงต่อไปว่า จะให้เช่าไม่ได้เพราะโจทก์และบิดามารดาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สถานที่ และโจทก์จะไม่ขับไล่จำเลยเป็นอันขาด เช่นนี้จะถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดคำสั่งคณะกรรมการมิได้ ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าที่กล่าวแล้วได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมตาม กฎหมายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธ ฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเลิกสัญญาและการเรียกร้องค่าเสียหาย เมื่อคู่สัญญาผิดนัด สิทธิในการบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาจะไม่มีอีก
สิทธิของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะบังคับเอาแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระหนี้เกิดขึ้นนั้น ย่อมมีอยู่ 2 ประการ คือการบังคับให้คู่สัญญาปฏิบัติการชำระหนี้ตามมูลหนี้นั้นประการหนึ่ง กับการเรียกร้องให้ได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมรวมทั้งเรียกร้องค่าเสียหายอีกประการหนึ่ง และในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา สิทธิของอีกฝ่ายหนึ่งมีอีกประการหนึ่ง คือเมื่อไม่ต้องการให้สัญญานั้นผูกพันกันต่อไป ก็คือสิทธิเลิกสัญญาตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 387-388 ซึ่งเมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้วผลก็มีแต่ทางเดียวคือคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะได้กลับคืนสู่ฐานเดิมแต่หากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ตามมาตรา 391 ผู้จะขายที่ดินผิดสัญญาผู้จะซื้อจึงบอกเลิกสัญญาและให้ผู้จะขายคืนมัดจำกับใช้เบี้ยปรับนั้น ผู้จะซื้อก็คงมีแต่สิทธิกลับคืนสู่ฐานะเดิมและเรียกค่าเสียหายเท่านั้น จะขอให้บังคับให้โอนที่ดินแก่ตนอีกไม่ได้ เพราะได้บอกเลิกสัญญาแล้ว
of 424