คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์และการมีนิติสัมพันธ์กับคู่กรณี
ฟ้องขับไล่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์โดยบรรยายฟ้องว่า หม่อมเจ้าหญิงอัจฉราฉวี เทวกุล ผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ฯ โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และการสิ้นสุดนิติสัมพันธ์สัญญาเช่า
ฟ้องขับไล่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์โดยบรรยายฟ้องว่าหม่อมเจ้าหญิงอัจฉราฉวีเทวกุล ผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ฯ
โจทก์ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาก่อน พ.ร.บ.ศาลแขวง และการใช้บทกฎหมายที่หนักกว่าเป็นคุณแก่จำเลย
คดีอาญาเหตุเกิดและอยู่ในระหว่าง สอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. 2499 อัยการโจทก์ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงก่อน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 เพราะกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 มีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมชำระดอกเบี้ยเกินอัตรา ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราโดยบรรยายฟ้อง โจทก์ได้กู้เงินจำเลยรวม 32,000 บาท โจทก์ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อเดือน ดอกเบี้ยนี้โจทก์ได้ชำระให้จำเลยตามที่จำเลยเรียกร้องเอาเสมอมา ดังนี้ แสดงว่า โจทก์ยินยอมตามที่จำเลยเรียกร้องเสียเอง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมชำระดอกเบี้ยเกินอัตรา ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราโดยบรรยายฟ้องว่า โจทก์ได้กู้เงินจำเลยรวม 32,000 บาท โจทก์ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อเดือน ดอกเบี้ยนี้โจทก์ได้ชำระให้จำเลยตามที่จำเลยเรียกร้องเอาเสมอมา ดังนี้ แสดงว่าโจทก์ยินยอมตามที่จำเลยเรียกร้องเสียเอง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องร่วมกันจากสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้เป็นหนี้รายบุคคล และการรับผิดจากสัญญาแม้ไม่ได้ลงชื่อ
โจทก์หลายคนฟ้องจำเลยโดยอาศัยหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยทำให้โจทก์ในฉบับเดียวรวมกัน มิได้แยกการชำระหนี้ไว้ต่างหากจากกัน ในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นว่าจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ทุกคนรวม 6,664 บาท แม้มูลหนี้เดิมของโจทก์แต่ละคนจะเป็นหนี้คนละราย คนละจำนวนไม่ใช่เจ้าหนี้ร่วมก็ดี แต่โดยที่ผลแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ถือได้ว่า จำเลยได้ยอมรับว่าได้เป็นหนี้โจทก์แต่ละคนแล้ว โจทก์ทุกคนจึงมีอำนาจเข้าชื่อร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในสำนวนเดียวกันได้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีว่า จำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์รวม 22 คน เป็นกรณีที่เกิดจากการที่โจทก์บางคนได้ร้องทุกข์กล่าวหาในคดีอาญาว่า จำเลยฉ้อโกง แม้โจทก์ที่ไปร้องทุกข์นั้น จะไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์คนอื่นให้ทำสัญญายอมนั้นก็ตาม ในการดำเนินคดีแพ่งตามสัญญายอมนั้น โจทก์ไม่จำต้องอาศัยคำร้องทุกข์ในคดีอาญานั้นเลย เมื่อจำเลยทำหนังสือสัญญายอมไว้ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามรายชื่อรวม 22 คน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อบุคคลเหล่านั้นตามสัญญานั้น แม้ว่าเจ้าหนี้บางคนจะมิได้ลงลายมือชื่อในสัญญายอมดังกล่าว เจ้าหนี้บางคนเช่นว่านั้น ก็มีอำนาจฟ้องความตามสัญญานั้นได้ ไม่เกี่ยวกับว่าเจ้าหนี้ทั้ง 22 คน จะต้องมอบฉันทะให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำสัญญายอมดังกล่าว กับจำเลยด้วยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาลเจ้าของผู้ปกครองศาลเจ้า แม้มิใช่คู่สัญญาโดยตรง และกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างหลังสัญญาเช่าสิ้นสุด
ถ้าเกี่ยวด้วยเรื่องศาลเจ้าไม่ว่าจะเป็นตัวศาลเจ้าหรือที่ดินของศาลเจ้า โจทก์ในฐานะผู้ปกครองศาลย่อมมีอำนาจหน้าที่ฟ้องคดีได้ทั้งแพ่งและอาญา และแม้โจทก์จะไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยจำเลยทำสัญญากับกรมพระนครบาลกระทรวงมหาดไทยว่า จำเลยเช่าที่ดินของศาลเจ้าปลูกตึกเก็บเงินกินเปล่าและค่าเช่าตึก ครอบ 25 ปี ่จำเลยยอมยกตึกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ศาลเจ้า เช่นนี้ โจทก์ก็ยังมีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับการนี้ได้ เมื่อสัญญาเช่าที่ดินรายนี้ได้สิ้นอายุลงโดยผลแห่งสัญญานี้ ตึกดังกล่าวย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ศาลเจ้าไปในตัวโดยมิพักต้องทำพิธีโอนหรือให้จำเลยยินยอมยกให้แก่ศาลเจ้าอีกหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาลเจ้าและกรรมสิทธิ์ในที่ดิน/สิ่งปลูกสร้างเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
ถ้าเกี่ยวด้วยเรื่องศาลเจ้าไม่ว่าจะเป็นตัวศาลเจ้าหรือที่ดินของศาลเจ้า โจทก์ในฐานะผู้ปกครองศาลเจ้าย่อมมีอำนาจหน้าที่ฟ้องคดีได้ทั้งแพ่งและอาญา และแม้โจทก์จะไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยจำเลยทำสัญญากับกรมพระนครบาลกระทรวงมหาดไทยว่า จำเลยเช่าที่ดินของศาลเจ้าปลูกตึกเก็บเงินกินเปล่าและค่าเช่าตึกครบ 25 ปี จำเลยยอมยกตึกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ศาลเจ้า เช่นนี้โจทก์ก็ยังมีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับการนี้ได้เมื่อสัญญาเช่าที่ดินรายนี้ได้สิ้นอายุลงโดยผลแห่งสัญญานี้ ตึกดังกล่าวย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ศาลเจ้าไปในตัวโดยมิพักต้องทำพิธีโอนหรือให้จำเลยยินยอมยกให้แก่ศาลเจ้าอีกหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่และการไม่เคลือบคลุมของฟ้อง กรณีสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดและโจทก์เข้ามาจัดการเอง
โจทก์ฟ้องว่า ห้องพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนนี้โจทก์มอบให้สำนักงานพระคลังข้างที่เป็นผู้จัดการให้เช่า จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ภายหลังโจทก์ถอนคืนการจัดการห้องพิพาทมาจัดการเอง จำเลยยังคงเช่าห้องพิพาทอยู่ต่อมา โดยมิได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยจำเลยมิได้สืบแก้ประกอบทั้งตัวจำเลยเองก็เบิกความรับว่า เมื่อประมาณหนึ่งปีเศษมานี้ คนของโจทก์มาเก็บค่าเช่าห้องพิพาทจากจำเลย จำเลยก็ให้ไปตลอดมา ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทจากโจทก์เมื่อใด มีกำหนดเท่าใด สัญญาสิ้นอายุวันเดือนปีใด แต่โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลยมาพร้อมกับฟ้องซึ่งมีข้อความครบถ้วนแล้ว ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่และการไม่เคลือบคลุมของฟ้อง กรณีสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดและมีการเก็บค่าเช่าต่อเนื่อง
โจทก์ฟ้องว่า ห้องพิพาทเป็นของโจทก์ก่อนนี้โจทก์มอบให้สำนักงานพระคลังข้างที่เป็นผู้จัดการให้เช่า จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ภายหลังโจทก์ถอนคืนการจัดการห้องพิพาทมาจัดการเอง จำเลยยังคงเช่าห้องพิพาทอยู่ต่อมา โดยมิได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยจำเลยมิได้สืบแก้ประกอบทั้งตัวจำเลยเองก็เบิกความรับว่า เมื่อประมาณหนึ่งปีเศษมานี้ คนของโจทก์มาเก็บค่าเช่าห้องพิพาทจากจำเลย จำเลยก็ให้ไปตลอดมา ดังนี้โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทจากโจทก์เมื่อใด มีกำหนดเท่าใด สัญญาสิ้นอายุวันเดือนปีใด แต่โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลยมาพร้อมกับฟ้องซึ่งมีข้อความครบถ้วนแล้ว ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
of 452