คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่ของผู้รับมรดก และผลของการครอบครองทรัพย์สินของผู้เช่า
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาทและเป็นคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ ก็ถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ย่อมต้องห้ามมิให้ฎีกา
ผู้มีชื่อยกตึกพิพาทให้บิดาโจทก์ บิดาโจทก์ได้เข้าครอบครองตึกพิพาทและให้จำเลยเช่า ถึงหากการยกให้จะมิได้ทำถูกต้องตามแบบ แต่บิดาโจทก์ได้เข้าครอบครองตึกพิพาทนั้นแล้วย่อมได้สิทธิครอบครองและอาจได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครอง จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าและเข้าอยู่ในตึกพิพาทโดยอาศัยสิทธิบิดาโจทก์ จะกล่าวอ้างว่าผู้ให้เช่าไม่ใช่เจ้าของทรัพย์หรือไม่มีสิทธิในทรัพย์ที่เช่าโดยสมบูรณ์หาได้ไม่กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 133เมื่อบิดาโจทก์ตาย โจทก์เป็นผู้รับมรดกย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขับไล่ผู้เช่าค่าเช่าต่ำกว่า 2,000 บาท ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ศาลต้องยึดข้อเท็จจริงเดิม
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงย่อมเป็นอันยุติแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จำต้องฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น จะวินิจฉัยให้เป็นอย่างอื่นหาชอบด้วยวิธีพิจารณาไม่
การเช่าโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา เมื่อผู้ให้เช่าได้บอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าด้วยวาจาแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไปปัญหาที่ว่าการบอกเลิกการเช่าโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับซึ่งทำภายหลัง จะเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ไม่จำต้องพิจารณาเพราะสัญญาเช่าได้ระงับไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขับไล่ผู้เช่า: ข้อเท็จจริงยุติแล้ว ศาลต้องฟังตามชั้นต้น แม้การบอกเลิกซ้ำซ้อน
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงย่อมเป็นอันยุติแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จำต้องฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น จะวินิจฉัยให้เป็นอย่างอื่นหาชอบด้วยวิธีพิจารณาไม่
การเช่าโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา เมื่อผู้ให้เช่าได้บอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าด้วยวาจาแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไปปัญหาที่ว่าการบอกเลิกการเช่าโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับซึ่งทำภายหลัง จะเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ไม่จำต้องพิจารณาเพราะสัญญาเช่าได้ระงับไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2811-2818/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมสำนวนคดีและอำนาจฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมการพิจารณาคดีทั้ง 11 สำนวนเข้าด้วยกันจำเลยแต่ละคนในทุกสำนวนต่างก็อ้างตนเองเป็นพยาน โดยรวมอยู่ในบัญชีระบุพยานฉบับเดียวกัน แสดงว่าจำเลยในคดีหนึ่งมิได้เป็นพยานเฉพาะคดีของตนเองเท่านั้น แต่ต่างเป็นพยานซึ่งกันและกันในทุกคดี จึงต้องห้ามไม่ให้เบิกความต่อหน้าจำเลยอื่นที่จะเบิกความเป็นพยานในภายหลัง
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินกับกองมรดกของ ส. ครบกำหนดเวลาเช่าในสิ้นเดือนมีนาคม 2511 ต่อมาโจทก์ทำสัญญาเช่าต่อ เริ่มนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2511 เป็นต้นไป จึงมีช่วงว่างอยู่ 3 เดือน แต่โจทก์ยังครอบครองทรัพย์ที่เช่าอยู่ในระหว่าง 3 เดือนนั้น ถือได้ว่าคู่สัญญาได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา จำเลยอยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่าช่วงที่พวกจำเลยทำไว้กับโจทก์สิ้นสุดลง โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2198/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำให้การโดยทนาย และการบังคับคดีขับไล่เฉพาะส่วนที่ฟ้องร้อง
จำเลยหรือทนายจำเลยไม่ได้ลงชื่อในฐานะจำเลยในคำให้การเป็นแต่ทนายจำเลยเซ็นชื่อเป็นผู้เรียงพิมพ์ และเซ็นไว้ ว่า รอฟังคำสั่งอยู่ศาลชั้นต้นตรวจสั่งรับคำให้การไว้แล้ว เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านศาลชั้นต้นสั่งไว้ในคำร้องอีกว่า พอถือได้ว่าทนายจำเลยได้ลงชื่อในคำให้การจำเลยโดยชอบแล้ว ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยอาศัยบ้านของโจทก์ แต่ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินที่โจทก์เช่ามาด้วย โดยมิได้อ้างว่าจำเลยอาศัยที่ดินที่โจทก์เช่าแต่อย่างใด ดังนี้ ศาลจะบังคับให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่โจทก์เช่าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: การฟ้องขับไล่ซ้ำในประเด็นกรรมสิทธิ์เดียวกันที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี
คดีก่อน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกพิพาทของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้ออกทุนทรัพย์ปลูกสร้างตึกพิพาทในที่ดินของโจทก์และจำเลยยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ตึกพิพาทให้โจทก์ ตึกพิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ากรรมสิทธิ์ตึกพิพาทตกเป็นของโจทก์แล้วแต่สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่ครบกำหนด โจทก์ยังไม่ครบกำหนด โจทก์ยังไม่มีอำนาจพ้องพิพากษายกฟ้องจำเลยอุทธรณ์ว่ากรรมสิทธิ์ในตึกพิพาทเป็นของจำเลย ขณะที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ก็มาฟ้องคดีใหม่ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารโดยอ้างว่าสัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว จำเลยคงต่อสู้เช่นเดิมว่าตึกพิพาทเป็นของจำเลย ดังนี้ ทั้งสองคดีย่อมมีประเด็นอย่างเดียวกันว่าตึกพิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลย การที่โจทก์มาฟ้องคดีใหม่จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณสมบัติโดยไม่สุจริต โจทก์มีสิทธิขับไล่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้
จำเลยสร้างโรงเรือนลงในที่ดินราชพัสดุอันเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่มีสิทธิถึงหากจะเป็นการสร้างโดยสุจริต กรณีก็ไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1159/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณสมบัติโดยไม่สุจริต โจทก์มีสิทธิขับไล่และรื้อถอนได้
จำเลยสร้างโรงเรือนลงในที่ดินราชพัสดุอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่มีสิทธิถึงหากจะเป็นการสร้างโดยสุจริต กรณีก็ไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1159/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่บริวารของจำเลย แม้จำเลยออกไปแล้ว ศาลมีอำนาจออกหมายเรียกบริวารมาสอบถามได้
ศาลพิพากษาและออกคำบังคับให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะแถลงว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว แต่ก็แถลงว่าคงเหลือแต่บริวารของจำเลย และตามสำเนาทะเบียนบ้านก็ปรากฏว่ามีชื่อผู้ร้องอยู่ในอาคารนี้ อันเป็นหลักฐานในเบื้องต้นว่าผู้ร้องอยู่ในอาคารของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของจำเลย โจทก์ย่อมขอและศาลมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ร้องมาสอบถามได้ ผู้ร้องจะอ้างว่าการที่ศาลหมายเรียกผู้ร้องไม่ชอบเพราะตนเป็นบุคคลนอกคดี คำบังคับที่ศาลออกบังคับแก่จำเลยมิได้บังคับรวมถึงบริวาร หรือบุคคลภายนอกด้วย และโจทก์ได้รับว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว ทำให้คำบังคับสิ้นผลไปแล้ว ดังนี้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลออกหมายเรียกบริวารจำเลยเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาขับไล่ แม้จำเลยออกไปแล้ว
ศาลพิพากษาและออกคำบังคับให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะแถลงว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว แต่ก็แถลงว่าคงเหลือแต่บริวารของจำเลย และตามสำเนาทะเบียนบ้านก็ปรากฏว่ามีชื่อผู้ร้องอยู่ในอาคารนี้ อันเป็นหลักฐานในเบื้องต้นว่าผู้ร้องอยู่ในอาคารของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของจำเลย โจทก์ย่อมขอและศาลมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ร้องมาสอบถามได้ ผู้ร้องจะอ้างว่าการที่ศาลหมายเรียกผู้ร้องไม่ชอบเพราะตนเป็นบุคคลนอกคดี คำบังคับที่ศาลออกบังคับแก่จำเลยมิได้บังคับรวมถึงบริวาร หรือบุคคลภายนอกด้วย และโจทก์ได้รับว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว ทำให้คำบังคับสิ้นผลไปแล้ว ดังนี้ หาได้ไม่
of 64