พบผลลัพธ์ทั้งหมด 497 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องกล่าวคัดค้านคำตัดสินในคำร้องโดยชัดเจน การกล่าวไว้ในคำแก้อุทธรณ์ใช้ไม่ได้
การขอให้พิจารณาคดีใหม่เป็นกระบวนพิจารณาซึ่งคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดและแพ้คดีจะต้องร้องขอต่อศาลชั้นต้น ดังนั้นคู่ความดังกล่าวจะต้องกล่าวคำคัดค้านคำตัดสินของศาลในคำร้องขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้ง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะไปกล่าวไว้ในคำแก้อุทธรณ์หาได้ไม่ เมื่อไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องย่อมเป็นคำร้องที่ไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอให้ทำบัญชีทรัพย์สินมรดกไม่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ในคดี หากพิพาทเพียงเรื่องผู้จัดการมรดก
ในกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและผู้คัดค้านก็ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งข้อพิพาทจึงมีเพียงว่า ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดก ฉะนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทำบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย จึงไม่เกี่ยวกับประโยชน์ของผู้ร้องที่มีอยู่ในคดีอันจะพึงต้องให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาเพราะประโยชน์ของผู้ร้องอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้นไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องไต่สวนสถานะสามีโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยเบื้องต้น
คำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่า ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก และเมื่อไต่สวนได้ความดังกล่าวแล้ว ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านนั้น เป็นคำร้องที่เกี่ยวกับปัญหาข้อเท็จจริง มิใช่คำร้องที่ยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นอ้งขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหานั้นก่อนดำเนินการพิจารณาต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 วรรคแรก
ส่วนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องของผู้ร้องว่า ต้องฟังพยานหลักฐานก่อน ให้ยกคำร้องก็หาใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายอันจะทำให้คดีเสร็จไปได้ทั้งเรื่องหรือเฉพาะแต่ประเด็นแห่งคดีบางข้อตามมาตรา 24 วรรค 2 ไม่ หาเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งผู้ร้องจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาหาได้ไม่
ส่วนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องของผู้ร้องว่า ต้องฟังพยานหลักฐานก่อน ให้ยกคำร้องก็หาใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายอันจะทำให้คดีเสร็จไปได้ทั้งเรื่องหรือเฉพาะแต่ประเด็นแห่งคดีบางข้อตามมาตรา 24 วรรค 2 ไม่ หาเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งผู้ร้องจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาการยื่นคำร้องขอคืนของกลาง: เริ่มนับจากวันที่ศาลอ่านคำสั่งถึงที่สุด ไม่ใช่วันพิพากษา
ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่15 มีนาคม 2509. วันที่ 12 เมษายน 2509 จำเลยยื่นฎีกา. ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาอ้างว่าเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา. จำเลยฎีกา ศาลฎีกาสั่งว่าข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยไม่เป็นสาระแก่คดีให้ยกเสีย. และศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลฎีกาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่14 มิถุนายน 2509. วันที่ 13 มิถุนายน 2510 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนของกลาง. ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า คดีถึงที่สุดเมื่อได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาให้จำเลยฟัง.การนับระยะเวลา 1 ปี เพื่อยื่นคำร้องขอคืนของกลางนับต่อจากวันนั้นเป็นต้นไป. การที่ผู้ร้องร้องขอคืนของกลางเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2510 จึงเป็นการร้องต่อศาลภายใน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2512).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1900/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่พ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย และการนับวันหยุดราชการ
ศาลชั้นต้นประกาศคำบังคับโดยทางหนังสือเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2511 โดยกำหนดให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 คำบังคับมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2511 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรค 2 ให้บังผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วันล่วงพ้นไปแล้ว แต่คำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันที่ส่งบังคับ ฉะนั้น เมื่อนับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2511 ก็ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2511 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งใหม่ได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 แต่จำเลยยื่นคำร้องวันที่ 30ตุลาคม 2511
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว จำเลยยืนคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว จำเลยยืนคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1900/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่หลังศาลบังคับคดี การนับระยะเวลา และผลของการยื่นล่าช้า
ศาลชั้นต้นประกาศคำบังคับโดยทางหนังสือเมื่อวันที่ 27 กันยายน2510 โดยกำหนดให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 คำบังคับมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2511 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง ให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วันล่วงพ้นไปแล้ว แต่คำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันที่ส่งคำบังคับ ฉะนั้น เมื่อนับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2511 ก็ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2511 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งใหม่ได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 แต่จำเลยยื่นคำร้องวันที่ 30 ตุลาคม 2511 จึงล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จะยื่นได้
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1900/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่พ้นกำหนดเวลา แม้จะทราบประกาศคำบังคับแล้ว ศาลไม่รับพิจารณา
ศาลชั้นต้นประกาศคำบังคับโดยทางหนังสือเมื่อวันที่ 27กันยายน 2510. โดยกำหนดให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511. คำบังคับมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2511. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง ให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วันล่วงพ้นไปแล้ว. แต่คำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันที่ส่งคำบังคับ. ฉะนั้น เมื่อนับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2511ก็ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2511 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งใหม่ได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 แต่จำเลยยื่นคำร้องวันที่ 30 ตุลาคม 2511 จึงล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จะยื่นได้.
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ.จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว. จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า. ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา.
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ.จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว. จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า. ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านคำตัดสินชี้ขาด: คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านชัดเจน แม้เป็นเหตุที่ยังไม่ได้ต่อสู้คดี
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริง หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์ จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน แล้วต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมา และค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงการคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดอย่างชัดเจน แม้เป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงและเหตุผล
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริง หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์ จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน แล้ว ต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมาและค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดในคำร้องขอพิจารณาใหม่ ต้องแสดงเหตุแห่งการคัดค้านที่ชัดเจนและมีรายละเอียด
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น. ไม่เป็นความจริง. หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์. จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน. แล้ว. ต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมาและค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้. ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว.