พบผลลัพธ์ทั้งหมด 467 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงานและร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
ความผิดฐานปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา127นั้น กฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้กระทำจะต้องแต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงานด้วย
เมื่อคดีได้ความชัดว่าจำเลยทุกคนกับพวกสมคบกันมากระทำการโจรกรรมโดยมีแผนการณ์ว่าเป็นเจ้าพนักงานจะขอตรวจค้นปืนของผิดกฎหมาย แล้วได้ดำเนินการโจรกรรมตามอุบายนี้ฉะนั้นจำเลยอื่นที่มิได้แต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงาน(ตำรวจ)ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการปลอมตนมากระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 127 เช่นเดียวกับจำเลยที่แต่งเครื่องแบบด้วยและเมื่อคดีได้ความว่าก่อนลงมือปล้นจำเลยกับพวกทุกคนได้ยินยอมให้คนบนบ้านไปตามผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมารู้เห็นในการที่จำเลยกับพวกจะทำการตรวจค้น ดังนี้ก็เห็นได้ว่าจำเลยกับพวกได้พร้อมใจกันที่จะทำการต่อต้านขัดขวางในเมื่อผู้ใหญ่บ้านจะกระทำการตามหน้าที่ด้วยอุบายจะยึดตัวผู้ตายหรือต่อสู้ทำร้ายก็แล้วแต่เหตุการณ์ฉะนั้นเมื่อจำเลยคนใดยิงผู้ใหญ่บ้าน การกระทำนั้นก็อยู่ในแผนการณ์ที่พวกจำเลยทุกคนร่วมรู้ก่อนแล้วนั่นเองจำเลยทุกคนย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวการในการฆ่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ด้วย ผิดกับเรื่องสมคบกันไปปล้นเอาทรัพย์อย่างเดียวโดยเฉพาะ แต่ผู้ร้ายบางคนเกิดไปยิงใครตายขึ้นโดยเพื่อนผู้ร้ายอื่นไม่อาจคาดหมายได้
เมื่อคดีได้ความชัดว่าจำเลยทุกคนกับพวกสมคบกันมากระทำการโจรกรรมโดยมีแผนการณ์ว่าเป็นเจ้าพนักงานจะขอตรวจค้นปืนของผิดกฎหมาย แล้วได้ดำเนินการโจรกรรมตามอุบายนี้ฉะนั้นจำเลยอื่นที่มิได้แต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงาน(ตำรวจ)ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการปลอมตนมากระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 127 เช่นเดียวกับจำเลยที่แต่งเครื่องแบบด้วยและเมื่อคดีได้ความว่าก่อนลงมือปล้นจำเลยกับพวกทุกคนได้ยินยอมให้คนบนบ้านไปตามผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมารู้เห็นในการที่จำเลยกับพวกจะทำการตรวจค้น ดังนี้ก็เห็นได้ว่าจำเลยกับพวกได้พร้อมใจกันที่จะทำการต่อต้านขัดขวางในเมื่อผู้ใหญ่บ้านจะกระทำการตามหน้าที่ด้วยอุบายจะยึดตัวผู้ตายหรือต่อสู้ทำร้ายก็แล้วแต่เหตุการณ์ฉะนั้นเมื่อจำเลยคนใดยิงผู้ใหญ่บ้าน การกระทำนั้นก็อยู่ในแผนการณ์ที่พวกจำเลยทุกคนร่วมรู้ก่อนแล้วนั่นเองจำเลยทุกคนย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวการในการฆ่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ด้วย ผิดกับเรื่องสมคบกันไปปล้นเอาทรัพย์อย่างเดียวโดยเฉพาะ แต่ผู้ร้ายบางคนเกิดไปยิงใครตายขึ้นโดยเพื่อนผู้ร้ายอื่นไม่อาจคาดหมายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ
ผู้ตายเป็นครูใหญ่โรงเรียนช่างไม้รัฐบาล มีหน้าที่ตรวจตราระวังสถานที่ราชการตลอดทั้งสิ่งของทั้งหลายในส่วนนั้น จำเลยแทงผู้ตายในขณะผู้ตายตรวจโรงงาน (ในเวลากลางคืน) ตามหน้าที่ จึงผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ
ผู้ตายเป็นครูใหญ่โรงเรียนช่างไม้รัฐบาล มีหน้าที่ตรวจตราระวังสถานที่ราชการตลอดทั้งสิ่งของทั้งหลายในส่วนนั้นจำเลยแทงผู้ตายในขณะผู้ตายตรวจโรงงาน(ในเวลากลางคืน)ตามหน้าที่จึงผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดฆ่าผู้อื่น: พฤติการณ์ที่ไม่พอฟังว่ามีเจตนา
นายสุพีจำเลยทำอนาจารบุตรผู้เสียหาย ที่สุดจำเลยกับพวกได้ไปสู่ขอหญิงตามประเพณี เมื่อไม่ตกลงค่าสินสอดกัน จำเลยคนหนึ่งกล่าวว่าไม่ตกลงก็กลับ ฝ่ายหญิงว่านายสุเทพกลับได้แต่ต้องขอตัวนายสุพีไว้ก่อน นายสุเทพว่าอยากได้คนหรือเงินก็ไปฟ้องเอา ฝ่ายหญิงบอกให้ผู้ตายไปคุมตัวนายสุพีไว้พอผู้ตายลุกขึ้น นายสุเทพพูดว่าพวกเราจัดการ จัดการอะไรไม่ได้กล่าว อาจหมายเพียงให้ขัดขวางมิให้จับกุมหรืออย่างใดไม่แน่ทั้งนั้น ส่วนนายคลังจำเลยอีกคนตวักปืนออกมาขู่ให้นั่งที่สุดยิงไป 1 นัด หันปากกระบอกไปทางไม่มีคน แสดงว่าไม่เจตนายิงใคร ดังนี้แม้พวกจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งหลบหนีไปจะได้แทงผู้ตายตาย พฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองสมคบกับพวกที่หลบหนีไปฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยทั้งสองไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดฆ่าต้องมีเจตนาและพฤติการณ์บ่งชี้ชัด การข่มขู่ด้วยอาวุธโดยไม่มีเจตนาทำร้ายไม่ถึงขั้นเป็นความผิดสมคบ
นายสุพีจำเลยทำอนาจารบุตรผู้เสียหาย ที่สุดจำเลยกับพวกได้ไปสู่ขอหญิงตามประเพณี เมื่อไม่ตกลงค่าสินสอดกัน จำเลยคนหนึ่งกล่าวว่าไม่ตกลงก็กลับ ฝ่ายหญิงว่านายสุเทพกลับได้แต่ต้องขอตัวนายสุพีไว้ก่อน นายสุเทพว่าอยากได้คนหรือเงินก็ไปฟ้องเอา ฝ่ายหญิงบอกให้ผู้ตายไปคุมตัวนายสุพีไว้พอผู้ตายลุกขึ้นนายสุเทพพูดว่าพวกเราจัดการ จัดการอะไรไม่ได้กล่าว อาจหมายเพียงให้ขัดขวางมิให้จับกุมหรืออย่างใดไม่แน่ทั้งนั้นส่วนนายคลังจำเลยอีกคนควักปืนออกมาขู่ให้นั่งที่สุดยิงไป 1 นัด หันปากกระบอกไปทางไม่มีคน แสดงว่าไม่เจตนายิงใคร ดังนี้แม้พวกของจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งหลบหนีไปจะได้แทงผู้ตายตาย พฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองสมคบกับพวกที่หลบหนีไปฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยทั้งสองยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานพยานโจทก์ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยที่ 1-3 ในคดีร่วมกันฆ่า ต้องอาศัยคำให้การที่ไม่เป็นความจริงของจำเลย
ในคดีฆาตกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะกระทำผิดเสมอไป พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีอันมั่นคงก็เพียงพอรับฟังมาลงโทษจำเลยได้
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าต้องพิสูจน์จากพฤติการณ์ การแทงเพียงครั้งเดียวขณะเมาสุราไม่ถือเจตนาฆ่า
ขณะเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายและคนอื่นต่างเมาสุรา พอคนอื่นชกและตีผู้ตายเซไปแล้ว จำเลยจึงแทงผู้ตายด้วยมีดซุยเฉพาะตัวมีดยาวคืบเศษแทงผู้ตายหนึ่งที จำเลยกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุกันมาก่อน หากแทงถูกที่สำคัญผู้ตายจึงตาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ถึงตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญา: การพิสูจน์หลักฐานการฆ่า และการยกฎีกาเนื่องจากข้อจำกัดในการแจ้งสำเนา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา แต่ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ได้ จึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ต้องห้ามตาม กฎหมาย ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจ้างวานฆ่าและพยายามฆ่าต่อเนื่องจากความอาฆาตแค้น ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยที่ 1 อาฆาตผู้เสียหาย ได้พยายามหลายครั้งที่จะทำลายชีวิตผู้เสียหายต่อเนื่องกันมา ที่สุดได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ดังนี้ความผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ลงมือกระทำต้องปรับตามมาตรา 249,60 ส่วนจำเลยที่ 1 ผู้จ้างด้วยความแค้นและพยายามนั้นต้องปรับตาม มาตรา 250(3),60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุให้จำเลยป้องกันตนเองได้
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยผลักจำเลยล้มและตามไปฉุดจำเลยขึ้นมา กับล้วงมีดซุยสรวมปลอกหนังแทงจำเลยทั้งปลอกหลายที และใช้ด้ามมีดเดาะศีร์ษะจำเลยโดยแรง 1 ที ตัวมีดหลุดจากปลอก จำเลยหยิบมาถือไว้ ผู้ตายเข้าไปชุลมุนกับจำเลย เมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปดังนี้ ได้ชื่อว่ากระทำโดยบันดาลโทษะเพราะเหตุถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม