คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากการถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต ศาลยกฟ้อง
จำเลยเดินมาคนเดียว ผู้ตายกับพวกหลายคนเข้าทำร้ายจำเลยผู้ตายรัดคอจำเลยจนจำเลยหายใจไม่ออก และพวกของผู้ตายก็แทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะนั้น เพื่อให้ตนเองพ้นภัยบังเอิญมีดถูกอกผู้ตาย ผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกแทงเมื่อผู้ถูกทำร้ายไม่มีทางหลบหนี
ผู้ตายกับจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องโคของบิดาจำเลยกับพวกก่อน แล้วผู้ตายใช้มีดยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลยถูกแขนทะลุจำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายไล่ตามขึ้นไปถือมีดจ้องแทงจำเลย จำเลยหนีต่อไปไม่ได้ติดฝาระเบียงเรือน จึงหยิบขวานที่พื้นเรือนตรงนั้นแกว่งตีไป 2-3 ที ถูกศีรษะผู้ตายตกลงพื้นดินแล้วจำเลยโดดเรือนหนีไป ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานเพื่อป้องกันการถูกแทงด้วยมีด
ผู้ตายกับจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องโคของบิดาจำเลยกับพวกก่อนแล้วผู้ตายใช้มีดยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลยถูกแขนทะลุ จำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายไล่ตามขึ้นไปถือมีดจ้องแทงจำเลย จำเลยหนีต่อไปไม่ได้ติดฝาระเบียงเรือน จึงหยิบขวานที่พื้นเรือนตรงนั้นแกว่งตีไป 2-3 ที ถูกศีรษะผู้ตายตกลงพื้นดินแล้วจำเลยโดดเรือนหนีไป ดังนี้เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายถึงตัวและการตอบโต้เพื่อความปลอดภัย
ผู้ตายเดินตามหลังจำเลยไป ห่างกันไม่ถึง 1 วา แล้วใช้เหล็กตะบันหมากยาว 9 นิ้วฟุต ปลายแหลมมีคมแทงทำร้ายจำเลยทางด้านหลัง หากจำเลยหลบไม่ทันอาจถูกแทงถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ เป็นภยันตรายที่มีมาถึงตัวจำเลย จำเลยมีสิทธิที่จะป้องกันตนได้ ไม่จำต้องหนีและการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงตอบผู้ตายไปทันทีในขณะนั้น ถูกผู้ตายที่ชายโครงซ้ายแล้วปามีดทิ้งวิ่งหนีไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2143/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หากเป็นการกระทำเพื่อให้พ้นภัยอันตรายจากผู้ก่อเหตุ
ผู้เสียหายมีเจตนาทำร้ายจำเลยให้ถึงตาย ใช้เหล็กแหลมยาว 12 นิ้วฟุตแทงจำเลยในขณะที่จำเลยนอนหงาย จำเลยใช้มุ้งปัดป้องเหล็กแหลมหลุดจากมือผู้เสียหายติดกับมุ้งจำเลยจึงถือเหล็กแหลมนั้นไว้ ผู้เสียหายเอาเหล็กแหลมอีกอันหนึ่งตรงเข้าหาจำเลยแล้วกอดปล้ำกัน การที่จำเลยแทงผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายมีอาวุธอยู่ในมือขณะกอดปล้ำกันเช่นนี้ แม้จำเลยจะแทงผู้เสียหายหลายแผล บางแผลลึกเข้าช่องท้อง การกระทำของจำเลยดังนี้นับได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความรุนแรงเพื่อป้องกันสิทธิและข่มเหงน้ำใจ: การป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงตอบโต้เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายและการขัดขวางโดยมิชอบ
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ตายเมาสุราโมโหคนในรถที่จำเลยกับพวกที่นั่งมากดแตรเพื่อไม่ให้ผู้ตายกระแทกข้างรถ พอพวกของจำเลยคนหนึ่งเดินมาที่รถผู้ตายก็เข้าไปต่อว่าแล้วเกิดเป็นปากเสียงกันขึ้น เมื่อจำเลยเข้าไปจะดึงพวกของจำเลยขึ้นรถ ผู้ตายยกมือขึ้นทำท่าจะชกต่อยจำเลยจำเลยจึงชกต่อยผู้ตายไป 1 ที ถูกผู้ตายล้มศีรษะฟาดพื้นถนนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา เพราะสมองได้รับความกระเทือนดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึงพอสมควรแก่เหตุเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแย่งมีดจากผู้ทำร้ายและใช้ป้องกันตนเอง
การที่ผู้ตายบุกรุกขึ้นไปบนเรือนจำเลยและเงื้อมีดเข้าไปที่จำเลยนั่งอยู่ แม้จะไม่ทราบ สาเหตุที่ผู้ตายทำเช่นนั้น แต่ลักษณะท่าทางของผู้ตายที่เงื้อมีดเข้าไปหาจำเลย แสดงว่าผู้ตายเข้าไปจะแทงจำเลยซึ่งเป็นภยันตรายจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงจำเลยจึงเข้าต่อสู้แย่งมีดจากผู้ตายมาได้ และในสถานการณ์เช่นนั้น จำเลยย่อมไม่มีเวลาคิดว่าจะควรใช้มีดนั้นหรือไม่เพียงใด ทั้งในขณะเดียวกันนั้นผู้ตายก็ได้ทำการต่อสู้แย่งมีดคืน อันตรายหาได้หมดไปไม่ จำเลยจึงใช้มีดนั้นแทงผู้ตายไปทันทีรวมสองครั้งในขณะที่มีการต่อสู้กันอยู่ การกระทำของจำเลยเท่าที่ได้ทำไปนั้นเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด มีดของกลางเป็นมีดของผู้ตายนำมาใช้ในการกระทำผิดให้ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654-655/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งเปลี่ยนแปลงคำร้องเดินทางออกนอกประเทศไม่เป็นความเท็จ และการอยู่ต่อโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้แจ้งขอเดินทางออกจากประเทศไทยและได้รับอนุมัติให้เดินทางออกนอกประเทศไทยได้ ต่อมาจำเลยได้แจ้งถอนคำขอดังกล่าวและขออยู่ต่อ ก็ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยต่อไปอีกชั่วคราวได้ การแจ้งข้อความเปลี่ยนแปลงเพิกถอนคำแจ้งความที่ขอเดินทางออกนอกประเทศไทยของจำเลยนั้นไม่ทำให้ผู้ใดได้รับความเสียหายจึงไม่เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137และการอยู่ต่อมาของจำเลยก็เป็นการอยู่โดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยเขียนข้อความในบัตรแสดงการออกจากประเทศไทยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง แต่เมื่อข้อความนั้นไม่ถือเป็นความเท็จ จำเลยก็ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267
of 51