คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิในที่ดิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 460 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711-1713/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกสัญญาและผลของการคัดค้านการจดทะเบียนสิทธิในที่ดิน
ชั้นพิจารณาคู่ความตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อ ก.ม.ข้อเดียว ข้อโต้เถียงอื่น ๆ เป็นอันยุติ ดังนี้จำเลยจะฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในปัญหาข้ออื่น ๆ นอกจากข้อ ก.ม.ข้อนั้นไม่ได้
บุคคลนอกสัญญามีสิทธิเข้าถือเอาประโยชน์จากข้อตกลงในสัญญาได้ และการไปคัดค้านที่อำเภอในการที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งขอจดทะเบียนสิทธิในทรัพย์นั้น เป็นการแสดงเจตนาว่าบุคคลนอกสัญญาจะถือเอาประโยชน์จากข้อตกลงในสัญญายอมนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินมีโฉนด การครอบครองปรปักษ์ต้องจดทะเบียน การซื้อขายโดยสุจริตมีผลเหนือการครอบครอง
ตามคำให้การของจำเลยอ่านรวมกันพออนุมานได้ว่าจำเลยโต้เถียงเรื่องการซื้อขายที่พิพาทว่า เป็นการไม่สุจริต ก็ถือว่าจำเลยโต้เถียงว่า โจทก์ทำการโดยไม่สุจริตแล้ว
ในข้อโต้เถียงเรื่องสุจริตหรือไม่นั้นมี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 บัญญัติเป็นข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริต ฉะนั้นเมื่อจำเลยโต้เถียงว่าโจทก์กระทำการโดยไม่สุจริต จำเลยย่อมมีหน้าที่พิสูจน์แสดงหักล้างข้อสันนิษฐานนี้
ที่ดินซึ่งเป็นที่มีโฉนดเป็นหลักฐาน แม้หากจำเลยจะได้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งอยู่ภายในโฉนดมาโดยปรปักษ์ต่อเจ้าของเดิมเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วก็ตามจำเลยมิได้จดทะเบียนสิทธิตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง จะยกสิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ได้ที่มาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโอนซื้อขายกันต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, ฟ้องเคลือบคลุม, การครอบครองปรปักษ์ และการยกเหตุไม่รับคำร้องของศาล
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ตาม วิ.แพ่ง ม.225 วรร 2 ประกอบด้วย ม. 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องและจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้น ประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การฟ้องเคลือบคลุม, และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การครอบครองปรปักษ์, และความชัดเจนของฟ้องคดี
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ดินต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สามารถอ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาขัดขวางการจดทะเบียนสิทธิในที่ดินได้
กฎกระทรวงต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงจะมีผลบังคับได้
เจ้าพนักงานที่ดินมีหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินตาม พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ.127 มาตรา 41 ฉะนั้นจะอ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยซึ่งวางระเบียบไว้ว่าถ้าผู้ซื้อที่ดินเป็นบุตรของคนต่างด้าว แม้จะมีสัญชาติเป็นไทยก็ให้มีการสอบสวนเพื่อควบคุมให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติที่ดินเกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 อันไม่ปรากฏว่าได้ออกมาโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายมาหน่วงเหนี่ยวขัดขวางผู้ร้องขอที่มีสัญชาติไทยบิดาเป็นคนต่างด้าวมิให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิในที่ดินตามกฎหมายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินและการให้เช่า: โจทก์ยอมรับว่าไม่มีสิทธิในที่ดิน ย่อมไม่มีอำนาจให้เช่า
เมื่อฟ้องของโจทก์ยืนยันว่าโจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาท หาได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดเหนือที่พิพาทขึ้นสนับสนุนอีกไม่ เมื่อโจทก์ยอมรับว่าที่พิพาทนั้นไม่ใช่ของโจทก์เป็นของกรมชลประทานโดยเจ้าของเดิมแบ่งยกให้กรมชลประทานไปแล้วก่อนโอนขายให้โจทก์ ดังนี้ตามฟ้องและคำรับของโจทก์ย่อมแสดงว่าโจทก์ไม่มีสิทธิใดๆเหนือที่พิพาททั้งสิ้น (รวมทั้งสิทธิให้เช่า) เมื่อตนไม่มีสิทธิใดๆแล้ว จะอ้างว่าสัญญาเช่าปิดปากผู้เช่ามิให้โต้เถียงสิทธิของผู้ให้เช่านั้นก็ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีแพ่งหลังคดีอาญา: ศาลไม่ผูกพันข้อเท็จจริงเดิม หากคดีอาญาไม่ได้ชี้ขาดเรื่องสิทธิในที่ดิน
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งให้ศาลถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
แม้ว่าโจทก์จะเคยฟ้องจำเลยในคดีอาญาในข้อหาว่าลักทรัพย์บุกรุกมาแล้ว และศาลเป็นแต่พิพากษาว่า จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์หรือบุกรุกที่ดินของโจทก์นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องโต้เถียงการครอบครองหรือสิทธิในทางแพ่ง ศาลหาได้ชี้ขาดที่พิพาทว่าเป็นของใครไม่ ดังนี้โจทก์มีสิทธิกลับมาฟ้องทางแพ่งให้พิพากษาว่าที่ดินดังกล่าวในคดีก่อนเป็นของโจทก์ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
เมื่อทางวัดได้มอบอำนาจให้ผู้ใดฟ้องความแทนวัดโดยถูกต้องแล้วผู้นั้นก็ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้ ส่วนผู้รับมอบอำนาจจะเป็นไวยาวัจกรของวัดจริงหรือไม่ ไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในลำเหมืองชลประทานส่วนบุคคล แม้ขุดในที่สาธารณะ หากได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ย่อมมีสิทธิเหนือผู้อื่น
ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
ลำเหมืองชลประทานซึ่งเป็นที่สาธารณะเมื่อบุคคลใดได้รัอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ขุดบุคคลนั้นย่อมมีสิทธิในลำเหมืองที่ตนขุดดีกว่าบุคคลอื่น ๆ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินแทนบุคคลอื่น แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ สิทธิยังเป็นของผู้ซื้อที่แท้จริง
บุตรจดทะเบียนเป็นผู้ซื้อที่ดินมีโฉนด แต่ซื้อแทนมารดาแม้จะไม่ได้มีหนังสือตั้งตัวแทน ที่ดินก็ไม่เป็นของบุตรมารดาฟ้องขับไล่บุตรได้
of 46