พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทลงโทษและโทษจำคุกในคดีอาญา และการฎีกาในข้อเท็จจริงหลังการแก้บท
โจทฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.293,294,295,74 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.294 วรรคสุดท้าย โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตาม ม.295 ตามที่โจทก์ขอ จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามเพราะศาลอุทธรณ์แก้บทลงโทษและแก้โทษจำเลย เป็นการแก้มาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การพิสูจน์โทษจำคุกก่อนกักกันผู้ร้าย - โจทก์ต้องแสดงหลักฐานโทษเดิม
การฟ้องขอให้ลงโทษกักกันจำเลยผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2478 เพิ่มขึ้นอีกโสดหนึ่งนั้นอยู่ในดุลพินิจของศาล การที่โจทก์อ้างว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ครั้งเช่นนี้ตามกระบวนพิจารณาย่อมตกเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบแสดงให้เห็นว่าโทษที่จำเลยถูกศาลพิพากษามาแล้วนั้นหนักเบาเพียงไร เพื่อศาลจะได้ใช้ดุลพินิจว่าสมควรจะลงโทษกักกันจำเลยหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบพยานหรือระบุอ้างคดีตามที่กล่าวในฟ้องเป็นพยานแต่อย่างใดแล้วศาลหามีหน้าที่จะไปตรวจเอาเองจากสำนวนในศาลไม่ดังนี้จึงยังลงโทษฐานกักกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: จำเลยต้องโทษจำคุกจริงไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง จึงจะเพิ่มโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.288,60 มีกำหนด 1 ปี จำเลยมีอายุไม่เกิน 20 ปีลดให้1 ใน 3 คงจำ 8 เดือน เพิ่มตาม ม.73 อีกกึ่งหนึ่งและลดฐานรับสารภาพให้ 1 ใน 3 คงให้จำคุกไว้ 8 เดือน เมื่อจำเลยพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดาน เป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ม.8,9
แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้ง ๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บล ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30 บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจผึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้น จึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้ง ๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บล ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30 บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจผึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้น จึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: ต้องมีโทษจำคุกจริง 2 ครั้งขึ้นไป จึงจะเพิ่มโทษได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 288,60 มีกำหนด 1 ปี จำเลยมีอายุไม่เกิน 20 ปี ลดให้ 1 ใน 3 คงจำ 8 เดือน เพิ่มตาม มาตรา 73 อีกกึ่งหนึ่งและลดฐานรับสารภาพให้ 1 ใน 3 คงให้จำคุกไว้ 8 เดือนเมื่อจำเลยพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด 3 ปีตาม พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8,9
แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้งๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บน ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจฝึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้นจึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิดมาแล้ว 5 ครั้งๆ ที่ 1 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้เรียกทัณฑ์บน ครั้งที่ 2 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งโรงเรียนดัดสันดานมีกำหนด 3 ปี ครั้งที่ 3 ฐานเล่นการพนันไพ่ปรับ 30บาท ครั้งที่ 4 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้ส่งสถานพินิจฝึกและอบรม ครั้งที่ 5 ฐานวิ่งราวทรัพย์ให้จำคุก 2 ปี เห็นได้ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกจริงคือสำหรับครั้งที่ 5 นี้เท่านั้นจึงเพิ่มโทษกักกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกเพื่อการกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต้องเป็นโทษจำคุกที่ได้รับมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งเป็นการกระทำความผิดใหม่
ปัญหาว่าโทษครั้งก่อนที่จำเลยกระทำผิดมาจะเข้าเกณฑ์ที่ศาลจะใช้ดุลยพินิจวางโทษจำเลยฐานมีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ฎีกาได้
ตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯ พ.ศ.2479 ม.8 ว่า บุคคลที่มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องเป็นบุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ๆ คำว่า "ครั้ง " ตามมาตรานี้หมายความว่าเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วซึ่งเรียกได้ว่าครั้งที่ 1 ยังขืนไปกระทำความผิดขึ้นใหม่และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษสำหรับความผิดครั้งใหม่นี้จึงเป็นครั้งที่ 2 หาใช่เรื่องบุคคลที่จะทำความผิดมาแล้วหลายเรื่องหรือกระทำความผิดหลายกะทงและถูกแยกฟ้องเป็นหลายสำนวนไม่ ในกรณีเช่นนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตาม+เรียกได้ว่ากระทำความผิดเพียงครั้งเดียวเพราะยังมิได้กระทำความผิดอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาลมาแล้วจะเอาโทษสำหรับความผิดในเรื่องก่อน ๆ มาวินิจฉัยเป็นหลายครั้งไม่ได้
ตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯ พ.ศ.2479 ม.8 ว่า บุคคลที่มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องเป็นบุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ๆ คำว่า "ครั้ง " ตามมาตรานี้หมายความว่าเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วซึ่งเรียกได้ว่าครั้งที่ 1 ยังขืนไปกระทำความผิดขึ้นใหม่และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษสำหรับความผิดครั้งใหม่นี้จึงเป็นครั้งที่ 2 หาใช่เรื่องบุคคลที่จะทำความผิดมาแล้วหลายเรื่องหรือกระทำความผิดหลายกะทงและถูกแยกฟ้องเป็นหลายสำนวนไม่ ในกรณีเช่นนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตาม+เรียกได้ว่ากระทำความผิดเพียงครั้งเดียวเพราะยังมิได้กระทำความผิดอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาลมาแล้วจะเอาโทษสำหรับความผิดในเรื่องก่อน ๆ มาวินิจฉัยเป็นหลายครั้งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกเพื่อเพิ่มโทษกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันฯ ต้องพิจารณาเป็นรายครั้ง หากยังไม่เคยได้รับโทษจำคุกถึง 2 ครั้ง การเพิ่มโทษกักกันจึงไม่ชอบ
ปัญหาว่าโทษครั้งก่อนที่จำเลยกระทำผิดมาจะเข้าเกณฑ์ที่ศาลจะใช้ดุลพินิจวางโทษจำเลยฐานมีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พระราชบัญญัติกักกันฯ พ.ศ.2479 หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายฎีกาได้
ตาม พระราชบัญญัติกักกันฯ พ.ศ.2479 มาตรา 8 ว่า บุคคลที่มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องเป็นบุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งๆ คำว่า "ครั้ง" ตามมาตรานี้หมายความว่าเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วซึ่งเรียกได้ว่าครั้งที่ 1 ยังขืนไปกระทำความผิดขึ้นใหม่ และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษสำหรับความผิดครั้งใหม่นี้จึงเป็นครั้งที่ 2 หาใช่เรื่องบุคคลที่จะทำความผิดมาแล้วหลายเรื่องหรือกระทำความผิดหลายกระทงและถูกแยกฟ้องเป็นหลายสำนวนไม่ ในกรณีเช่นนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตามสำนวนนั้นได้เรียกได้ว่ากระทำความผิดเพียงครั้งเดียวเพราะยังมิได้กระทำความผิดอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาลมาแล้ว จะเอาโทษสำหรับความผิดในเรื่องก่อนๆ มาวินิจฉัยเป็นหลายครั้งไม่ได้
ตาม พระราชบัญญัติกักกันฯ พ.ศ.2479 มาตรา 8 ว่า บุคคลที่มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องเป็นบุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งๆ คำว่า "ครั้ง" ตามมาตรานี้หมายความว่าเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วซึ่งเรียกได้ว่าครั้งที่ 1 ยังขืนไปกระทำความผิดขึ้นใหม่ และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษสำหรับความผิดครั้งใหม่นี้จึงเป็นครั้งที่ 2 หาใช่เรื่องบุคคลที่จะทำความผิดมาแล้วหลายเรื่องหรือกระทำความผิดหลายกระทงและถูกแยกฟ้องเป็นหลายสำนวนไม่ ในกรณีเช่นนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตามสำนวนนั้นได้เรียกได้ว่ากระทำความผิดเพียงครั้งเดียวเพราะยังมิได้กระทำความผิดอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้รับโทษตามคำพิพากษาของศาลมาแล้ว จะเอาโทษสำหรับความผิดในเรื่องก่อนๆ มาวินิจฉัยเป็นหลายครั้งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่าตาม ม.1500(4) ประมวลกฎหมายแพ่งฯ พิจารณาจากโทษจำคุกถึงที่สุด ไม่จำกัดระยะเวลาการถูกจำคุก
เหตุหย่าตาม มาตรา1500(4) นั้น ถือเอาผลแห่งคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกินกว่า 3 ปี เป็นสำคัญ แม้ผู้นั้นจะถูกขังในคดีนั้นหลายคราวคราวละไม่เกิน 3 ปีก็ดีหรือยังไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาเลยก็ดี ก็ถือเป็นเหตุหย่าได้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีต่อกะทง
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกะทง ๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปีโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: การตีความ 'ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง' ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้งฐานลักทรัพย์พ้นโทษเมื่อ 5 มิ.ย. 94 และ 7 มิ.ย. 95 ตามลำดับแล้วมาต้องโทษครั้งหลังฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้าย ในคดีนี้อีกย่อมถือได้ว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของพระราชบัญญัติกักกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษจำคุกรวมเกิน 20 ปี ศาลรวมโทษรอการลงโทษได้ แม้ผลรวมเกินกว่า
ศาลพิพากษาจำคุก 20 ปีก็อาจเอาโทษที่รอไว้มารวมลงอีกได้แม้รวมกันจะเกิน 20 ปี ก็ตาม