คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขพินัยกรรม: การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทำให้เสียสิทธิรับมรดก แม้ผู้รับไม่ทราบเงื่อนไข
เจ้าของพินัยกรรม์ผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรม์ว่าให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม สัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรม์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรม์ฉะบับนั้น แม้มารดาของผู้รับและผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฎว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรม์แล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรม์กำหนดไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงค่าจ้างเลื่อยไม้: พิจารณาหนี้รวมทั้งหมด ไม่แยกตามจำนวนไม้ที่รับ
ผู้จ้างนำไม้มาจ้างเลื่อยเป็นคราว ๆ ตามราคาค่าจ้างที่ตกลงกันแล้วผู้จ้างก็รับไม้ไปเป็นคราว ๆ และชำระค่าจ้างเลื่อยให้เป็นคราว ๆ การชำระค่าจ้างเลื่อยไม้นี้ก็หาได้ชำระตามจำนวนไม้ที่รับไปแต่ละคราวนั้นไม่ ดังนี้ต้องถือว่าหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ผู้รับจ้างเกี่ยวด้วยไม้ที่อยู่ในครอบครองของผู้รับจ้าง ก็คือหนี้ค่าจ้างเลื่อยไม้ที่ผู้จ้างค้างชำระอยู่ทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อผู้รับจ้างใช้สิทธิยึดหน่วงไม้ที่ผู้จ้างนำมาจ้างเลื่อยไว้ จำนวนหนึ่งก็ย่อมต้องถือว่ามีสิทธิยึดหน่วงไว้สำหรับค่าจ้างเลื่อยไม้รายก่อน ๆ ที่ผู้รับจ้างรับไปแล้วด้วยไม่ใช่มีสิทธิยึดหน่วงเฉพาะค่าจ้างเลื่อยไม้จำนวนที่ยึดไว้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินซ้ำซ้อน ศาลรวมพิจารณาคดีและวินิจฉัยสิทธิของผู้ซื้อทั้งสอง
เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินแก่ผู้ซื้อคนหนึ่ง แล้วกลับไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้ซื้ออีกคนหนึ่งอีก ผู้ซื้อทั้ง 2 ต่างเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของคนละสำนวน ขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของผู้เป็นจำเลยโอนที่ดินรายเดียวกันนั้นให้แก่ตนตามสัญญา ศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาคดี 2 สำนวนด้วยกัน สืบพยานรวมกันมาเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วพิพากษาให้เจ้าของโอนที่ให้แก่ผู้ซื้อคนหลัง และยกฟ้องผู้ซื้อคนแรกนั้นเสีย ผู้ซื้อคนแรกอุทธรณ์ฝ่ายเดียวศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษากลับให้จำเลยโอนที่ดินแก่ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ก็เท่ากับได้วินิจฉัยชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างผู้ซื้อคนหลัง ผู้ซื้อคนแรก และผู้ขาย โดยรวมกันไปเสร็จสิ้นแล้ว คงอยู่แต่ชั้นบังคับคดีซึ่งต้องให้เป็นผลไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดสิทธิในทรัพย์สินมรดก: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้ไม่ได้มีการโต้แย้งการแบ่งทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทุกคนที่จะได้รับในฐานะเป็นทายาทของผู้ตาย หาได้ขอให้ศาลแบ่งนาพิพาทไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งนาพิพาทระหว่างโจทก์ด้วยกันตามส่วน ก็หามีฝ่ายใดคัดค้านขึ้นมาไม่ โดยเหตุนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ตายตกได้แก่โจทก์ในฐานะทายาทจริง ศาลฎีกาก็จำต้องพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในมรดกของบุตรเกิดนอกสมรส: การไม่จดทะเบียนสมรสและไม่รับรองบุตร
ชายหญิงได้เสียกันเองโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสเมื่อเกิดบุตรขึ้นมา บุตรที่เกิดมานั้นย่อมไม่ใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของชายและเมื่อต่อมาชายก็มิได้จดทะเบียนรับรองหรือร้องขอ ต่อศาลให้แสดงว่าเป็นบุตรอีกเช่นนี้ ชายนั้นจึงไม่ใช่บิดาหรือทายาทของบุตรนั้น และย่อมไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกของบุตรและไม่อาจที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีมาต่อสู้แก่ทายาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในมรดกของบุตรเกิดนอกสมรสและบิดาที่มิได้จดทะเบียนรับรอง
ชายหญิงได้เสียกันเองโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เมื่อเกิดบุตรขึ้นมา บุตรที่เกิดมานั้น ย่อมไม่ใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของชาย และเมื่อต่อมาชายก็มิได้จดทะเบียนรับรองหรือร้องขอต่อศาลให้แสดงว่า เป็นบุตรอีกเช่นนี้ ชายนั้นจึงไม่ใช่บิดาหรือทายาทของบุตรนั้น และย่อมไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกของบุตร และไม่อาจที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีมาต่อสู้แก่ทายาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมขายฝากแล้วกลับเถียงสิทธิ ถือเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
เจ้าของที่ดิน (นา) ได้รู้เห็นยินยอมให้ผู้อื่นเอานาไปขายฝากจนพ้นกำหนดไถ่ถอนหลุดเป็นสิทธิแก่เขาแล้วจะกลับเถียงสิทธิของผู้รับ ซื้อ ผู้ทำการสุจริตหาได้ไม่ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ขายฝากแล้วหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้อื่น เจ้าของที่ดินไม่สามารถกลับมาเถียงสิทธิได้
เจ้าของที่ดิน(นา)ได้รู้เห็นยินยอมให้ผู้อื่นเอานาไปขายฝากจนพ้นกำหนดไถ่ถอนหลุดเป็นสิทธิแก่เขาแล้ว จะกลับเถียงสิทธิของผู้รับซื้อ ผู้ทำการสุจริตหาได้ไม่ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เช่าช่วงทำให้ผู้เช่าช่วงไม่เป็นบริวารของผู้เช่าเดิม สิทธิในการขับไล่จึงไม่ชอบ
โจทก์ให้จำเลยเช่าห้องโดยยินยอมให้จำเลยมีสิทธิให้เช่าช่วงต่อไปอีกได้ ผู้เช่าช่วงจึงไม่ใช่บริวารของผู้เช่า ฉะนั้นโจทก์จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอยู่อาศัยเกินสิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น แม้เริ่มแรกไม่ผิด แต่เมื่อเจ้าของไม่ยินยอมแล้วถือเป็นการละเมิด
การเข้าไปอยู่ในห้องของเขา แม้ในชั้นต้นจะมิใช่เป็นการละเมิด แต่เมื่อเจ้าของเขาไม่ประสงค์จะให้อาศัยอยู่ต่อไป และบอกให้ออกไปแล้ว ยังขืนอยู่ดังนี้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อเจ้าของ
เจ้าของห้องทำสัญญาให้ผู้เช่า เช่าห้องไปแล้ว แต่ปรากฎว่ามีคนอื่นเข้าอาศัยอยู่ในห้องนั้น เจ้าของบอกให้ออกไปจากห้อง ผู้นั้นก็ไม่ยอมออก ดังนี้ย่อมถือว่าผู้นั้นละเมิด และเป็นเหตุให้เจ้าของส่งมอบห้องให้ผู้เช่าไม่ได้ เจ้าของห้องมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้นั้นได้
of 424