พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือให้ได้ทรัพย์คืนจากการยึด เป็นการมีเจตนาผิดกฎหมาย ทำให้ขาดอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้นย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด ก.ม.ไม่สุจริตฉนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วย ก.ม.หาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้
อ้างฎีกาที่ 771/2453
อ้างฎีกาที่ 771/2453
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือทางกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ขาดอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้น ย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด กฎหมายไม่สุจริต ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้ (อ้างฎีกาที่771/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944-945/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ของวัด และการได้มาซึ่งที่ดินของวัดโดยการครอบครอง
เจ้าอาวาสมีอำนาจมอบฉันทะให้ไวยาจักร ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ของวัดได้ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 มาตรา 43
วัดเป็นนิติบุคคลตามป.พ.พ.ม. 72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม ม.70 และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 ม.40 วัดก็ถือกรรมสิทธิที่ดินได้ และวัดอาจได้ที่ดินตาม ป.พ.พ.ม. 1382 ( อ้างฎีกาที่ 1253/2481 )
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า นายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาด ดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป้าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้น จะเป็นการชอบหรือไม่ และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่
วัดเป็นนิติบุคคลตามป.พ.พ.ม. 72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม ม.70 และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 ม.40 วัดก็ถือกรรมสิทธิที่ดินได้ และวัดอาจได้ที่ดินตาม ป.พ.พ.ม. 1382 ( อ้างฎีกาที่ 1253/2481 )
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า นายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาด ดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป้าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้น จะเป็นการชอบหรือไม่ และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้อนเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน ศาลต้องรอฟังผลคดีเดิมก่อนเพื่อความชัดเจนในอำนาจฟ้อง
อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางจีนร่วมกับจำเลยแทนผู้เยาว์ ในคดีดำที่ 99/2494 แล้ว ต่อมานายสมจิตบิดาผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องฉะเพาะจำเลยแทนผู้เยาว์อีกคดีหนึ่งทั้งทรัพย์พิพาทและพยานหลักฐานก็อย่างเดียวกัน แต่อ้างว่าอัยการไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ ในคดีดำที่ 99/2494 มีอำนาจฟ้องเฉพาะนางจีนผู้บุพการีของผู้เยาว์เท่านั้น ดังนี้การชี้ขาดตัดสินคดีเรื่องนี้จำต้องรอฟัง คำชี้ขาดตัดสินในคดีดำที่ 99/2494 นั้นก่อนตาม ป.วิ.แพ่ง ม.39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำและการรอฟังคำพิพากษาคดีอื่นที่มีประเด็นอำนาจฟ้องร่วมกัน
อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางจีนร่วมกับจำเลยแทนผู้เยาว์ในคดีดำที่ 99/2494 แล้วต่อมานายสมจิตบิดาผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องเฉพาะจำเลยแทนผู้เยาว์อีกคดีหนึ่งทั้งทรัพย์พิพาทและพยานหลักฐานก็อย่างเดียวกัน แต่อ้างว่าอัยการไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ ในคดีดำที่ 99/2494 มีอำนาจฟ้องเฉพาะนางจีนผู้บุพการีของผู้เยาว์เท่านั้นดังนี้การชี้ขาดตัดสินคดีเรื่องนี้จำต้องรอฟัง คำชี้ขาดตัดสินในคดีดำที่ 99/2494 นั้นก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมตั๋วรถไฟและการเรียกร้องค่าเสียหาย: การพิจารณาความผิดตามมาตรา 217 และอำนาจฟ้องของอัยการ
การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมตั๋วรถไฟและการเรียกร้องค่าเสียหาย การพิจารณาความผิดตามมาตรา 217 และอำนาจฟ้องแทนผู้เสียหาย
การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินหลังการให้บุตรครอบครอง – อำนาจฟ้องคดีบุกรุก – ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
ที่พิพาทเป็นที่บ้านสวนโจทก์นำสืบได้ว่ามีสิทธิในที่นั้นตาม ก.ม.ลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 แม้โจทก์จะได้ยกที่พิพาทให้แก่บุตรเมื่อ 4 ปีมาแล้ว แต่การให้ไม่ถูกต้องตาม ก.ม. ที่พิพาทก็ยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้กระทำการบุกรุกได้
คดีก่อนบุตรโจทก์ฟ้องจำเลยส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกัน ไม่ใช่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนโจทก์มิได้เป็นคู่ความกับจำเลย
คดีก่อนบุตรโจทก์ฟ้องจำเลยส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกัน ไม่ใช่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนโจทก์มิได้เป็นคู่ความกับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดต่อเหมืองชลประทานราษฎร์: ข้าหลวงจังหวัดและหัวหน้าชลประทานมีอำนาจฟ้องได้
ข้าหลวงประจำจังหวัดและหัวหน้าการชลประทานตาม พ.ร.บ.การชลประทานราษฎร์มีอำนาจที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดที่กระทำแก่เหมืองฝ่ายที่อยู่ในเขตอำนาจของตนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีชลประทาน: ข้าหลวงจังหวัด-หัวหน้าชลประทานมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำลายเหมืองชลประทาน
ข้าหลวงประจำจังหวัดและหัวหน้าการชลประทานตาม พระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์มีอำนาจที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดที่กระทำแก่เหมืองฝายที่อยู่ในเขตอำนาจของตนได้