คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาทตามกฎหมาย การฟ้องร้องต้องมีสิทธิหรือหน้าที่ที่ถูกโต้แย้ง
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 บัญญัติว่า ต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตาม กฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่าง ใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้.
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยก คำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนิน การพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลพังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป.
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัย ขอ้เท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ๆ ย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้โดยไม่จำ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาททางกฎหมาย หากมีคดีมีข้อพิพาทแล้ว ศาลฎีกาสามารถวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 บัญญัติว่าต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่างใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยกคำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนินการพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลดังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานร่วมและการวินิจฉัยข้อพิพาทเมื่อพยานเบิกความไม่ตรงตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงสืบพยานร่วมปากเดียว ถ้าพยานมีความว่าในการกู้ยืมได้ระบุที่พิพาทเป็นประกันเงินกู้ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ระบุที่รายพิพาทเป็นประกันเงินกู้แล้ว จำเลยยอมแพ้ พยานเบิกความว่าในการกู้เงินได้ระบุที่สวนของจำเลยประกันเงินกู้ ดังนี้ จำเลยจะมีที่ดินแปลงเดียวหรืออย่างไรไม่ทราบชัด เห็นได้ว่าพยานไม่ได้เบิกความว่า ได้ระบุที่พิพาทเป็นประกัน ฉะนั้นจะชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะคดีเพราะคำพยานร่วมไม่ได้ศาลต้องวินิจฉัยตามท้องสำนวนเท่าที่มีอยู่ว่า คู่กรณีฝ่ายใดควรชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยยอมเป็นฝ่ายนำสืบพยานก่อน เมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่พิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นข้อพิพาทเรื่องสัญญาเช่าและสิทธิในทางแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกห้องเช่าที่ผู้เสียหายเช่ามา ขอให้ลงโทษฐานบุกรุกทางอาญา เมื่อผู้เสียหายแถลงรับว่าจำเลยเป็นภรรยาผู้ให้เช่าและเป็นผู้ดูแลสถานที่ ที่ผู้เสียหายเช่าอยู่ ผู้เสียหายว่าได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง จำเลยว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหา ดังนี้ แม้จะให้สืบพยานต่อไปและได้ความว่า ผู้เสียหายได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง มิใช่หนึ่งคูหา ดังที่จำเลยกล่าวก็เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า อันเป็นกรณีแพ่งนั่นเอง ศาลจึงพิพากษายกฟ้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้ง: คำฟ้องเดิมเป็นเหตุให้เกิดข้อพิพาท จำเลยเสียค่าขึ้นศาลขั้นต่ำ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่ง ขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดจริงและฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์ออกจากที่ดินพิพาทดังนี้ ในคดีที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทุนทรัพย์ที่ดินพิพาท ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งนั้นจำเลยเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาทเท่านั้น เพราะปัญหาว่าที่ดินพิพาทเป็นของใครนั้น เกิดขึ้นโดยคำฟ้องเดิมของโจทก์และข้อต่อสู้ของจำเลย อยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1315/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินหลังมีคำพิพากษาตามยอม และการเรียกร้องสิทธิในที่ดินโดยอ้างเป็นมรดก
โจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันต่อศาล และศาลพิพากษาตามยอมว่าที่ดินตามหนังสือสัญญาซื้อขายด้านกว้างยาวและทิศติดต่อปรากฏตามหนังสือสัญญาซื้อขายตามบัญชีท้ายคำร้องรวมเป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 45 วาเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ เหลือที่ดินนอกสัญญาซื้อขายให้เป็นกรรมสิทธิ์กับจำเลยต่อไป แต่มิได้มีการทำแผนที่ในคดีนั้นแต่อย่างใดนั้น เป็นการพิพากษาคดีไปตามข้อตกลงของคู่ความ หาได้พิพากษาแสดงกรรมสิทธิ์ของจำเลยว่ามีอยู่แค่ไหนเพียงไรไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าเนื้อที่ตามสัญญาซื้อขายที่ยอมความกันนั้น เจ้าพนักงานลงเนื้อที่ผิดไป โจทก์ได้ขอให้แก้เสียใหม่ให้ถูกต้องเป็นเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 46 วา แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยอ้างว่า สามีโจทก์ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากมารดาจำเลย แล้วสามีโจทก์กับโจทก์ได้ปกครองที่แปลงนี้ ต่อมาจำเลยมาขัดขวางสิทธิโดยไปร้องขอจัดการมรดกมารดาจำเลยขอให้แสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ซึ่งปรากฏในคดีก่อนนั้นเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์โจทก์จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินพิพาทนี้ เป็นมรดกของสามีโจทก์ตกเป็นของโจทก์และบุตรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทกรรมสิทธิในที่ดิน: ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาให้โจทก์ได้กรรมสิทธิที่ดินเพิ่ม
โจทก์จำเลยต่างโต้เถียงกรรมสิทธิในที่ดิน 2 แปลงศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินแปลงที่ 1 ราคา 900 บาทเป็นของโจทก์ส่วนอีกแปลงหนึ่งราคา500 บาทโจทก์สืบไม่สม ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ที่ดินแปลงที่ 2 ก็เป็นของโจทก์ด้วยดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ข้อพิพาทระหว่างยายและย่า ผู้มีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดก
ยายร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของหลาน มีย่าร้องคัดค้านเข้ามาเป็นกรณีพิพาทระหว่างยายกับย่าว่า ใครจะเป็นผู้สมควรจัดการมรดกของหลานนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาตั้งยายเป็นผู้จัดการคนเดียว แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ตั้งย่าเป็นผู้จัดการร่วมกับยายอีกคนหนึ่งด้วย ดังนี้ ผู้ร้องฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการแต่คนเดียว ได้ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการไม่ห้ามฟ้องบุพการี
ยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินที่มีโฉนด ซึ่งมีผู้ยกให้ตนปกครองมาจนได้กรรมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนให้ผู้ร้องนั้น เมื่อบิดาผู้ร้องคัดค้านโต้แย้งเข้ามาทำให้คดีแปรสภาพเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4) ก็ตามและการที่ผู้คัดค้านเข้ามามีฐานะเป็นคู่ความ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้ร้องดังนั้น จึงเรียกไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ฟ้องบุพการีของตนคดีจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วม ศาลยกฟ้องแต่เปิดโอกาสให้แบ่งส่วนได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทแต่ผู้เดียว จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของร่วมด้วย ทางพิจารณาก็ได้ความว่า โจทก์ควรได้แต่เพียงส่วนแบ่งเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ถ่องแท้ว่าโจทก์มีส่วนกี่มากน้อย ดังนี้ จะพิพากษาให้โจทก์ได้เพียงส่วนแบ่งก็ติดขัดจึงควรต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์เสีย แต่ไม่ตัดสิทธิในการที่โจทก์จำเลยจะฟ้องขอแบ่งส่วนกัน
of 49