คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 502 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถโดยสาร ชนรถไฟ ทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ศาลไม่ลดโทษแม้รับสารภาพ
จำเลยขับรถยนต์โดยสารประจำทางด้วยความประมาทเพื่อตัดหน้ารถไฟ รถจำเลยจึงถูกรถไฟชน เป็นเหตุให้คนโดยสารในรถจำเลยตาย 25 คน และบาดเจ็บ 36 คน การกระทำของจำเลยเกิดผลเสียหายร้ายแรงมาก และเกิดเหตุในเวลากลางวัน ต่อหน้าคนจำนวนมาก ยากที่จำเลยจะหลบหนีทัน แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็ไม่เป็นเหตุถึงขนาดที่จะต้องลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขับรถเก่าชำรุดทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถือเป็นเหตุให้ต้องรับผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทโดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่ารถที่จำเลยขับมีสภาพเก่าและชำรุดมาก มีเครื่องอุปกรณ์ส่วนประกอบไม่ครบถ้วน ไม่มั่นคงแข็งแรงพอที่จะขับขี่ไปในถนนหลวง หรือจะจัดการแก้ไขซ่อมแซมให้มั่นคงเสียก่อน แต่จำเลยบังอาจขับรถดังกล่าวไปตามถนนหลวง คานล้อหน้าด้านขวาของรถจำเลยซึ่งผุและชำรุดอยู่แล้วหลุดออกจากตัวรถ และล้อหน้าด้านขวาหลุดออกจากคานบังคับเป็นเหตุให้รถเสียการทรงตัวเอียงไปทางขวา วิ่งแฉลบออกล้ำเส้นทางไปทางขวา จำเลยไม่สามารถบังคับให้รถหยุดได้เพราะเบรคชำรุดรถจำเลยจึงเฉี่ยวรถคันอื่นซึ่งวิ่งสวนทางมา เป็นเหตุให้คนในรถคันนั้นถึงแก่ความตาย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่ารถจำเลยมีสภาพเก่าชำรุดไม่มั่นคงพอที่จะนำออกขับไปตามถนนหลวง แต่จำเลยก็ยังขืนนำออกขับไปถึงแม้จะได้ความว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะล้อหน้าด้านขวาของรถจำเลยหลุดเหตุที่ล้อหลุดก็เพราะน็อตขาด ซึ่งเนื่องมาจากรถมีสภาพเก่าชำรุดอยู่แล้วนั่นเอง ดังนี้ แม้จะไม่ได้ความเรื่องคานล้อหน้าหลุดก็เป็นเพียงข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่สารสำคัญ จะถือเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่ และยังถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถที่อุปกรณ์สำคัญชำรุด และความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ชน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำโดยประมาท โดยได้ขับรถยนต์ประจำทางซึ่งห้ามล้อมือใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์สำหรับดึงประการหนึ่ง และขณะที่จำเลยขับรถไปนั้นมีรถข้างหน้าหยุด แต่จำเลยไม่ดูแลระมัดระวังให้รอบคอบในขณะที่ขับรถและไม่หยุดรถของจำเลยอีกประการหนึ่ง เป็นเหตุให้ขับชนรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่ข้างหน้าไปชนกระแทกกับท้ายรถยนต์ประจำทางซึ่งจอดอยู่ข้างหน้าโดยแรงถึงแก่ความตายดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถคันนี้ห้ามล้อมือใช้การไม่ได้โดยคันดึงไม่มี ย่อมถือว่าโจทก์สืบได้ความสมข้ออ้างประการหนึ่งแล้ว และข้อบกพร่องนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับการที่รถซึ่งจำเลยขับนั้นพุ่งเข้าชนรถแท็กซี่ด้วย เพราะถ้าจำเลยมิได้ประมาทโดยการนำรถยนต์ซึ่งมีเครื่องอุปกรณ์อันสำคัญใช้การไม่ได้เช่นนี้มาขับแล้ว เหตุร้ายย่อมไม่เกิดขึ้น จำเลยจะอ้างเอาเรื่องเหยียบห้ามล้อเท้าไม่ติดมาเนื่องจากห้ามล้อแตกเป็นข้อแก้ตัวหาได้ไม่ และต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขับรถโดยไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยและไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำโดยประมาท โดยได้ขับรถยนต์ประจำทางซึ่งห้ามล้อมือใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์สำหรับดึงประการหนึ่ง และขณะที่จำเลยขับรถไปนั้นมีรถข้างหน้าหยุด แต่จำเลยไม่ดูแลระมัดระวังให้รอบคอบในขณะที่ขับรถและไม่หยุดรถของจำเลยอีกประการหนึ่ง เป็นเหตุให้ขับชนรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่ข้างหน้าไปชนกระแทกกับท้ายรถยนต์ประจำทางซึ่งจอดอยู่ข้างหน้าโดยแรงถึงแก่ความตายดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถคันนี้ห้ามล้อมือใช้การไม่ได้โดยคันดึงไม่มี ย่อมถือว่าโจทก์สืบได้ความสมข้ออ้างประการหนึ่งแล้ว และข้อบกพร่องนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับการที่รถซึ่งจำเลยขับนั้นพุ่งเข้าชนรถแท็กซี่ด้วย เพราะถ้าจำเลยมิได้ประมาทโดยการนำรถยนต์ซึ่งมีเครื่องอุปกรณ์อันสำคัญใช้การไม่ได้เช่นนี้มาขับแล้ว เหตุร้ายย่อมไม่เกิดขึ้น จำเลยจะอ้างเอาเรื่องเหยียบห้ามล้อเท้าไม่ติดมาเนื่องจากห้ามล้อแตกเป็นข้อแก้ตัวหาได้ไม่ และต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการยิงปืนในที่สาธารณะแม้มีอาการมึนเมา แต่การเสพสุราเป็นความสมัครใจ
จำเลยเมาสุราแล้วยิงปืนเข้าไปในฝูงชนโดยมิได้คำนึงว่ากระสุนปืนจะไปถูกใครเข้า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตน จำเลยจะอ้างความมึนเมาเป็นเหตุยกเว้นโทษไม่ได้เพราะจำเลยเสพสุราโดยมิได้ถูกขืนใจให้เสพหรือเสพโดยไม่รู้ว่าเป็นของมึนเมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การพิจารณาความประมาทของทั้งสองฝ่ายเพื่อลดค่าเสียหาย
จำเลยถูกฟ้องทางอาญาหาว่าขับรถยนต์ถอยหลังโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดไปแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด จำเลยต่อสู้ว่าเหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของคนขับรถโจทก์ แม้ประเด็นที่ว่าจำเลยประมาทหรือไม่ ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ยังมีประเด็นที่จะต้องนำสืบต่อไปว่า ฝ่ายโจทก์มีส่วนร่วมประมาทด้วยหรือไม่ เพื่อกำหนดส่วนค่าเสียหายอันจะพึงต้องชดใช้แก่กัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดความรับผิดทางละเมิด: แม้คดีอาญาสั่งลงโทษประมาท แต่ยังต้องพิจารณาความประมาทของทั้งสองฝ่ายเพื่อคำนวณค่าเสียหาย
จำเลยถูกฟ้องทางอาญาหาว่าขับรถยนต์ถอยหลังโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดไปแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของคนขับรถโจทก์ แม้ประเด็นที่ว่าจำเลยประมาทหรือไม่ ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ยังมีประเด็นที่จะต้องนำสืบต่อไปว่า ฝ่ายโจทก์มีส่วนร่วมประมาทด้วยหรือไม่. เพื่อกำหนดส่วนค่าเสียหายอันจะพึงต้องชดใช้แก่กัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับเรือทำให้เกิดการชนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ผู้ขับเรือทั้งสองมีความผิด
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขับเรือแล่นมาด้วยความเร็วสูงและต่างแล่นมาตรงกลางลำน้ำ เมื่อใกล้จะสวนกันเรือทั้งสองแล่นเกือบเป็นเส้นตรงเข้าหากันในลักษณะน่ากลัวจะเกิดโดนกัน แม้จำเลยที่ 2 จะเบนหลีกไปทางขวามือ อันเป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2498) ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ. 2497 ข้อ 19 (ก) ก็ตาม แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ลดความเร็ว กลับขับเรือเบนเข้าเส้นทางเรือของตนทางด้านขวาในระยะกระชั้นชิด ส่วนจำเลยที่ 1 ก็มิได้ลดความเร็วทั้งมิได้เบนเข้าเส้นทางเรือของตนทางด้านขวา เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนกันแต่กลับคงแล่นตรงไป เรือจำเลยที่ 2 จึงชนตรงกราบเรือด้านขวาของเรือจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้ผู้โดยสารในเรือ จำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยทั้งสองกระทำด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยทั้งสองซึ่งขับขี่เรือยนต์สวนทางกันจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับเรือทำให้เกิดการชน ผู้ขับเรือต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายและอันตรายที่เกิดขึ้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขับเรือแล่นมาด้วยความเร็วสูงและต่างแล่นมาตรงกลางลำน้ำ เมื่อใกล้จะสวนกันเรือทั้งสองแล่นเกือบเป็นเส้นตรงเข้าหากันในลักษณะน่ากลัวจะเกิดโดนกัน แม้จำเลยที่ 2 จะเบนหลีกไปทางขวามือ อันเป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2498) ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ. 2497 ข้อ19(ก)ก็ตาม แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ลดความเร็ว กลับขับเรือเบนเข้าเส้นทางเรือของตนทางด้านขวาในระยะกระชั้นชิด ส่วนจำเลยที่ 1 ก็มิได้ลดความเร็วทั้งมิได้เบนเข้าเส้นทางเรือของตนทางด้านขวา เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนกันแต่กลับคงแล่นตรงไป เรือจำเลยที่ 2 จึงชนตรงกราบเรือด้านขวาของเรือจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้ผู้โดยสารในเรือจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยทั้งสองกระทำด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยทั้งสองซึ่งขับขี่เรือยนต์สวนทางกันจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างที่ขับรถประมาท แม้ลูกจ้างขับรถผิดเส้นทาง แต่ยังอยู่ในทางการที่จ้าง
ลูกจ้างขับรถประจำทางจากอู่เพื่อไปยังจุดต้นทางโดยเส้นทางที่ผิดไปจากเส้นทางที่นายจ้างมีคำสั่งไว้ให้ปฏิบัติ เมื่อขับด้วยความประมาทชนผู้อื่นบาดเจ็บ นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย เพราะการที่ลูกจ้างขับรถเพื่อไปยังจุดต้นทางตามหน้าที่นั้นเป็นการที่กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว ส่วนคำสั่งดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องภายในระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปีเป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
of 51