พบผลลัพธ์ทั้งหมด 464 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ถือเป็นตัวการฆ่าโดยเจตนา
จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือน ส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ.ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ตัวการฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือนส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ. ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตายดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานสมรู้เมื่อฟ้องฐานตัวการ ศาลไม่ถือว่านอกฟ้องเกินคำขอ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากตัวการเป็นสมรู้: ศาลลงโทษได้หากมีเหตุผลรองรับ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคู่กรณีในสัญญาซื้อขาย: ตัวแทนเปิดเผยตัวการได้ แม้สัญญาไม่ระบุ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อไม้จากโจทก์แล้วไม่ชำระราคาจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทำผิดสัญญา จำเลยได้รับซื้อไม้ไว้จากนายเดชา โจทก์เป็นผู้ทำการแทนนายเดชา จำเลยได้ชำระเงินแก่นายเดชาแล้ว ศาลสั่งว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบก่อน โจทก์มิได้คัดค้าน จึงยกขึ้นฎีกาไม่ได้
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายไม้กับจำเลย การที่จำเลยนำสืบว่า โจทก์เป็นตัวแทนของนายเดชา นายเดชาเป็นตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยชื่อ บัดนี้แสดงตัวให้ปรากฏ และเข้ารับเอาสัญญาโจทก์ทำแทนตน ตาม ป.พ.พ.มาตรา 806 ย่อมนำสืบได้
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายไม้กับจำเลย การที่จำเลยนำสืบว่า โจทก์เป็นตัวแทนของนายเดชา นายเดชาเป็นตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยชื่อ บัดนี้แสดงตัวให้ปรากฏ และเข้ารับเอาสัญญาโจทก์ทำแทนตน ตาม ป.พ.พ.มาตรา 806 ย่อมนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันลักทรัพย์: การกระทำที่ถือเป็นตัวการ
พฤตติการณ์ที่ถือว่า เป็นตัวการฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมคิดลักทรัพย์: ตัวการร่วมกระทำผิดจากการแบ่งของที่ได้จากการลักทรัพย์
จำเลยได้ไปที่ร้านเจ้าทรัพย์ในวันเกิดเหตุหลายครั้งโดยมีพวกไปด้วยและต่อมาในคืนเกิดเหตุพวกของจำเลยเข้าทำการลักทรัพย์ในร้าน จำเลยคอยข้างนอกเพราะเกรงว่าเจ้าทรัพย์ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจะจำหน้าได้เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วแบ่งกันจำเลยได้รับส่วนแบ่ง พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยได้สมคบร่วมคิดและร่วมมือกระทำความผิดกับพรรคพวกต้องเป็นตัวการลักทรัพย์รายนี้ด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับการพนัน แม้ฟ้องในฐานตัวการ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันโปปั่นทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผู้สมรู้ในการจัดให้มีการเล่นการพนันดั่งนี้ ลงโทษจำเลยฐานสมรู้ได้ (อ้างฎีกา 205/2483)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนและการเรียกร้องค่าทดรองเงิน: ตัวแทนมีสิทธิเรียกเงินชดใช้จากตัวการได้
ตัวแทนออกเงินทดรองไปในกิจการที่ได้รับมอบหมายจากตัวการ ย่อมมีสิทธิเรียกเงินชดใช้จากตัวการได้ตามมาตรา 816 และการทดรองเงินก็ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 653 ซึ่งเป็นบทเรื่องกู้ยืมเงินโดยฉะเพาะ
โจทก์จ่ายเงินให้แก่ผู้มีชื่อไปแทนจำเลยตามคำร้องขอของจำเลย ถือว่าเป็นการกระทำแทนจำเลยในกิจการของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ แม้การจ่ายเงินนั้นจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือโจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจาำจำเลยได้ตามมาตรา 816.
โจทก์จ่ายเงินให้แก่ผู้มีชื่อไปแทนจำเลยตามคำร้องขอของจำเลย ถือว่าเป็นการกระทำแทนจำเลยในกิจการของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ แม้การจ่ายเงินนั้นจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือโจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจาำจำเลยได้ตามมาตรา 816.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันในคดีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส และการเป็นตัวการ
ศาลชั้นต้นพิพากษษลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.256 จำคุกคนละ 2 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 254 จำคุก 1 ปี 6 เดือน และ 1 ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขมา โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ ก็ถือได้ว่า เป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม ก.ม.อาญา ม.63 - 256
สองคนต่างลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ทราบว่าบาดแผลที่สาหัสนั้นเป็นเพราะคนใดทำร้ายแน่ ก็ถือได้ว่า เป็นเพราะผลแห่งการกระทำทั้งสองคนนั้น คนทั้งสองนั้นจึงต่างเป็นตัวการตาม ก.ม.อาญา ม.63 - 256