พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าและข้อยกเว้นความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าสำหรับนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโกดังโดยกล่าวว่า จำเลยได้เช่าโกดังจากเจ้าของเดิม ครบอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์ได้ซื้อโกดังจากเจ้าของเดิม ดังนี้จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ และโจทก์ฟ้องจำเลยได้โดยอาศัยอำนาจทางกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ไม่ได้อาศัยสัญญาเช่า
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494 จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494 จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่โดยอาศัยกรรมสิทธิ์หลังสัญญาเช่าสิ้นอายุ และข้อยกเว้นความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าสำหรับนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโกดัง โดยกล่าวว่า จำเลยได้เช่าโกดังจากเจ้าของเดิม ครบอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์ได้ซื้อโกดังจากเจ้าของเดิม ดังนี้จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ และโจทก์ฟ้องจำเลยได้โดยอาศัยอำนาจทางกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ไม่ได้อาศัยสัญญาเช่า
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494)
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494)
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การของนิติบุคคล: การแจ้งปิดหมายที่สำนักงานถือว่าจำเลยทราบแล้ว
จำเลยเป็นนิติบุคคลมีสำนักงานอยู่แน่นอน เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายชัดเรียกและสำเนาฟ้องที่สำนักงานของจำเลยจนครบ 23 วัน ดังนี้ถือว่าจำเลยทราบนัดเมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและศาลเห็นว่าการขาดนัดของจำเลยในกรณีนี้ ไม่มีเหตุอันสมควรแล้วศาลก็ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.199 วรรค 2 โดยมิต้องรอไต่สวนตาม ม.198 วรรค 3 ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปิดหมายเรียกที่สำนักงานนิติบุคคลถือว่าจำเลยทราบแล้ว แม้ไม่มีการไต่สวนเหตุขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยเป็นนิติบุคคลมีสำนักงานอยู่แน่นอน เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายเรียกและสำเนาฟ้องที่สำนักงานของจำเลยจนครบ 23 วัน ดังนี้ถือว่าจำเลยทราบนัด เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และศาลเห็นว่าการขาดนัดของจำเลยในกรณีนี้ไม่มีเหตุอันสมควรแล้ว ศาลก็ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง โดยมิต้องรอไต่สวนตาม มาตรา 198 วรรคสาม ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คณะกรมการจังหวัด/อำเภอไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากไม่ใช่ นิติบุคคล ตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน
คณะกรมการจังหวัดคณะกรมการอำเภอตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการบริหาร 2495 ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
โจทย์ฟ้องระบุตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งนายอำเภอ แต่อ้างว่าฟ้องในนามคณะกรมการจังหวัด คณะกรมการอำเภอ ซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทย์ฟ้องระบุตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งนายอำเภอ แต่อ้างว่าฟ้องในนามคณะกรมการจังหวัด คณะกรมการอำเภอ ซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีอำนาจฟ้องของคณะกรมการจังหวัด/อำเภอ เนื่องจากไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
คณะกรมการจังหวัด คณะกรมการอำเภอตาม พระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหาร 2495 ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องระบุตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งนายอำเภอแต่อ้างว่าฟ้องในนามคณะกรมการจังหวัด คณะกรมการอำเภอซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องระบุตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งนายอำเภอแต่อ้างว่าฟ้องในนามคณะกรมการจังหวัด คณะกรมการอำเภอซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของคณะกรมการจังหวัดหลังพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 คณะกรมการจังหวัดหมดสภาพเป็นนิติบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คณะกรมการจังหวัดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีภายหลังวันประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2495 ซึ่งตามพระราชบัญญัติดังกล่าวคณะกรมการจังหวัดไม่เป็นนิติบุคคลแล้ว ดังนี้คณะกรมการจังหวัดจึงไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธข้อเท็จจริงเรื่องสถานะนิติบุคคลในคำให้การ ถือเป็นประเด็นที่โจทก์ต้องนำสืบ
ฟ้องของโจทก์ระบุมาแจ้งชัดว่าโจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยกล่าวในคำให้การว่า โจทก์จะเป็นนิติบุคคลหรือไม่จำเลยไม่รู้ และไม่รับรอง ดังนี้ ถือว่าคำให้การดังกล่าวนี้ ไม่ใช่เป็นคำให้การปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล จึงย่อมถือว่าไม่มีข้อต่อสู้ในคำให้การของจำเลย อันเป็นประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอคืนที่ดินเวนคืน หากไม่ถูกใช้ประโยชน์ภายใน 5 ปี และการฟ้องนิติบุคคล
ที่ดินที่ถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯนั้น เมื่อไม่มีการตกลงเรื่องค่าทำขวัญภายใน 5 ปีโดยมิใช่ความผิดของเจ้าของที่ดิน และทางฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่ได้เคยใช้ หรือกำลังใช้ที่ดินนั้นตามความประสงค์ในการเวนคืนนั้นแล้ว เจ้าของที่ดินนั้นย่อมมีสิทธิได้รับคืนที่ดินนั้น
ที่ดินถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หลายเจ้าของด้วยกัน ถ้าที่ดินของใครมิได้ถูกใช้หรือถูกใช้แต่บางส่วน ก็ยังขอคืนส่วนที่เหลือได้
การฟ้องนิติบุคคลเป็นจำเลยนั้นโจทก์เพียงแต่ระบุชื่อนิติบุคคลเป็นจำเลย ไม่ระบุชื่อบุคคลผู้แทนนิติบุคคลมาด้วย ก็ย่อมใช้ได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีผู้ดำเนินการอยู่ในตัวตามกฎหมาย
ที่ดินถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หลายเจ้าของด้วยกัน ถ้าที่ดินของใครมิได้ถูกใช้หรือถูกใช้แต่บางส่วน ก็ยังขอคืนส่วนที่เหลือได้
การฟ้องนิติบุคคลเป็นจำเลยนั้นโจทก์เพียงแต่ระบุชื่อนิติบุคคลเป็นจำเลย ไม่ระบุชื่อบุคคลผู้แทนนิติบุคคลมาด้วย ก็ย่อมใช้ได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีผู้ดำเนินการอยู่ในตัวตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการฉ้อโกง: ผู้เสียหายคือใคร แม้ทรัพย์สินเป็นของนิติบุคคล
จำเลยได้หลอกหลวงขอซื้อน้ำอัดลมไปจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วไม่ยอมชำระราคากลับปฏิเสธว่า ไม่ได้มาติดต่าขอซื้อน้ำอัดลม ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จัดการนั้นเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นผู้ถูกหลอกหลวงส่วนน้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัหรือไม่ หาเป็นเหตุกระทำให้ผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายแล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายไม่