คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเด็นข้อพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 517 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตประเด็นข้อพิพาท: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยทางพิพาทเป็นภาระจำยอมได้ แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเป็นทางสาธารณประโยชน์
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ การที่ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ย่อมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไม่เป็นการนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยศาลอุทธรณ์: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ถึงทางภาระจำยอม แม้ประเด็นเดิมเป็นทางสาธารณะ
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ การที่ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ย่อมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่เป็นการนอกประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงประเด็นข้อพิพาทในฎีกา: โจทก์มิอาจเรียกร้องค่าเสียหายตามสัญญาเช่าซื้อ หากมิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่เช่าซื้อไป ทำให้โจทก์เสียหาย ขอคิดค่าเสียหายเท่าค่าเช่าที่อาจนำรถไปให้ผู้อื่นเช่าได้ มิได้ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อ เมื่อศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามที่เห็นสมควร โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารประกอบคำเบิกความที่ไม่ใช่ประเด็นข้อพิพาท ไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความ
โจทก์อ้างเอกสารเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลย แต่ข้อเท็จจริงตามเอกสารนั้นโจทก์เพียงใช้ประกอบคำเบิกความของพยานซึ่งมิได้เป็นประเด็นโต้เถียงกันในคดี ทั้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยข้อเท็จจริงก็ไม่ได้อ้างถึงหรือนำเอกสารนั้นมาใช้ในการวินิจฉัย ส่วนเอกสารฉบับที่ศาลใช้ในการวินิจฉัยคดี จำเลยก็ยอมรับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้นแล้ว ดังนั้น โจทก์จึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารประกอบคำเบิกความที่ไม่ใช่ประเด็นข้อพิพาท โจทก์ไม่ต้องส่งสำเนาให้จำเลย
โจทก์อ้างเอกสารเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลยแต่ข้อเท็จจริงตามเอกสารนั้นโจทก์เพียงใช้ประกอบคำเบิกความของพยานซึ่งมิได้เป็นประเด็นโต้เถียงกันในคดี ทั้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยข้อเท็จจริงก็ไม่ได้อ้างถึงหรือนำเอกสารนั้นมาใช้ในการวินิจฉัย ส่วนเอกสารฉบับที่ศาลใช้ในการวินิจฉัยคดี จำเลยก็ยอมรับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้นแล้ว ดังนั้น โจทก์จึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลวินิจฉัยประเด็นนอกฟ้องได้หรือไม่ และผลของการตายของจำเลยต่อคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
ปัญหาที่ว่าสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะเพราะสำคัญผิดในสาระสำคัญหรือไม่เมื่อศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นพิพาทไว้และโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใดศาลจะยกประเด็นข้อดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยไม่ได้เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาคำฟ้องว่ามีประเด็นดังกล่าวหรือไม่เพราะถ้ามีก็ถือว่าโจทก์สละประเด็นนี้แล้ว คดีอาญาศาลชั้นต้นตัดสินแล้วแต่ยังอยู่ในอายุอุทธรณ์แม้จะเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯมาตรา22แต่โจทก์ก็อาจอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายได้การตายของจำเลยระหว่างอายุอุทธรณ์ทำให้คดีอาญาระงับไปและทำให้โจทก์หมดสิทธิอุทธรณ์เป็นเหตุให้คดีระงับไปก่อนจะถึงที่สุดจะนำข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่ยังไม่ถึงที่สุดมารับฟังในคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาไม่ได้จะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่ โจทก์ตกลงจะทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับอ. โจทก์ได้ไปตรวจดูที่ดินพิพาทและตรวจสอบโฉนดที่ดินที่อ. ให้ดู ซึ่งปรากฏรายการจดทะเบียนภารจำยอมไว้ด้านหลังโฉนด เมื่อโจทก์ตรวจดูที่ดินเป็นที่พอใจแล้วจึงเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายกับอ. ดังนี้แม้ต่อมาปรากฏจากการรังวัดที่ดินนี้ว่าจำนวนที่ดินที่จะใช้ประโยชน์ได้ลดน้อยลงไปกว่าจำนวนที่แจ้งไว้ในโฉนด เพราะที่ดินมีภารจำยอมก็เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์เข้าทำสัญญาเองมิใช่เกิดจากการทำกลฉ้อฉลหลอกลวงของอ. แต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลวินิจฉัยนอกประเด็นเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไม่ถูกต้อง และข้อเท็จจริงจากคดีอาญาที่ยังไม่ถึงที่สุดนำมาใช้ไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าอ.ทำกลฉ้อฉลหลอกลวงขายที่ดินให้โจทก์โดยอ้างว่าที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่เต็มตามโฉนดโจทก์หลงเชื่อจึงทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าวกับอ.ภายหลังโจทก์รังวัดที่ดินดังกล่าวได้เนื้อที่ไม่เต็มตามโฉนดโดยบางส่วนถูกตัดเป็นถนนโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาแก่อ.ขอเรียกมัดจำคืนและเรียกค่าเสียหายประเด็นมีว่าการซื้อขายที่ดินดังกล่าวเกิดจากการหลอกลวงของอ.หรือไม่การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์สำคัญผิดในจำนวนที่ดินซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรมสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น. อ.ถูกโจทก์ฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องคดีอยู่ระหว่างอายุอุทธรณ์อ.ถึงแก่กรรมโจทก์จึงฟ้องทายาทและผู้จัดการมรดกอ.เป็นจำเลยคดีแพ่งว่าอ.ทำกลฉ้อฉลหลอกลวงขายที่ดินให้โจทก์เรียกเงินมัดจำคืนและเรียกค่าเสียหายแม้คดีอาญาข้อหาฉ้อโกงจะต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแต่โจทก์อาจอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายหรืออาจได้รับการรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้คดีอาญาระงับไปก่อนคดีถึงที่สุด.ดังนั้นจะนำข้อเท็จจริงในคดีอาญามารับฟังในคดีแพ่งไม่ได้ต้องฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4315/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิดชำระหนี้: ศาลวินิจฉัยได้หรือไม่นอกประเด็นที่จำกัด
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยให้การว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โดยชำระผ่าน ป.ตัวแทนของโจทก์ ดังนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า ป.เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4315/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ผ่านตัวแทนเชิด: ศาลวินิจฉัยได้หากเกี่ยวข้องกับประเด็นข้อพิพาทเดิม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยให้การว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โดยชำระผ่าน ป.ตัวแทนของโจทก์ดังนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า ป.เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4315/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ผ่านตัวแทนเชิด: ศาลวินิจฉัยประเด็นการชำระหนี้ครบถ้วนได้ แม้เป็นการวินิจฉัยเรื่องตัวแทน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาจำเลยให้การว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วโดยชำระผ่านป.ตัวแทนของโจทก์ดังนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่าป.เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่.
of 52