คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่ารายปีและการมีสิทธิฟ้องขับไล่ หากฟ้องคดีพ้นกำหนดเวลาบอกกล่าว
การเช่าที่คิดค่าเช่ากันเป็นรายปี การบอกเลิกการเช่าจะต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะเวลาหนึ่งเป้นอย่างน้อยแต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือน
โจทก์บอกเลิกการเช่ารายปี โดยกำหนดให้จำเลยออกจากที่เช่าหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวไม่ถึงสองเดือน แต่เมื่อโจทก์ฟ้องคดีหลังจากที่จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่ากว่าสองเดือนแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 845/2490 และ 398/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่ารายปีและการมีสิทธิฟ้องขับไล่ แม้บอกกล่าวไม่ครบ 2 เดือน หากฟ้องคดีพ้น 2 เดือนแล้ว
การเช่าที่คิดค่าเช่ากันเป็นรายปี การบอกเลิกการเช่าจะต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะเวลาหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือน
โจทก์บอกเลิกการเช่ารายปี โดยกำหนดให้จำเลยออกจากที่เช่าหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวไม่ถึงสองเดือน แต่เมื่อโจทก์ฟ้องคดีหลังจากที่จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่ากว่าสองเดือนแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 845/2490 และ 398/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เช่าเคหะสิ้นสุดลง และสิทธิของผู้ให้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้เช่า
การที่ผู้เช่าทำสัญญาเช่าเคหะไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาหนึ่งเมื่อครบกำหนดแล้วผู้ให้เช่ากับผู้เช่าได้มีการต่ออายุสัญญาออกไปอีกโดยตกลงกันว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ต่อออกไปนี้แล้ว ผู้เช่ายินยอมจะออกไปจากที่เช่านั้น ถือได้ว่าได้รับความยินยอมจากผู้เช่าตามความหมายของมาตรา 17(5) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 แล้ว ผู้ให้เช่าจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์: ประเด็นค่าเสียหายจากสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ถึงแม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเช่าและค่าเสียหายมาด้วยก็จะชี้ขาดว่าเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ไม่ได้ คดีเช่นว่านี้ แม้ประเด็นเรื่องขับไล่ได้ยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว คงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกา เฉพาะประเด็นเรื่องค่าเสียหายเท่านั้นก็ตาม จำเลยก็ยังฎีกาในข้อเท็จจริงในฐานที่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้คดีก่อนอ้างเหตุชำรุดทรุดโทรม แต่คดีหลังอ้างเหตุมีคำสั่งอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเช่า
คดีแรก โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างเหตุว่าห้องเช่าชำรุดทรุดโทรมและโจทก์ไม่มีที่อยู่ จะรื้อปลูกใหม่และอยู่เอง ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ส่วนคดีหลัง โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอีก อ้างเหตุว่าเพราะได้รับคำสั่งอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเช่าฯ ให้โจทก์รื้อห้องพิพาทปลูกสร้างใหม่และเข้าอยู่เองได้ โดยอาศัยเหตุต่างกันคนละประเด็นกับคดีแรกเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องซ้ำ
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ พ.ศ.2504 ไม่ได้บังคับว่าผู้ให้เช่าจะดำเนินการ (ร้องขอรื้อห้องพิพาทเพื่อสร้างใหม่และเข้าอยู่เอง) แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ หรือคณะกรรมการควบคุมการเช่าจะต้องให้ผู้เช่าทราบเพื่อได้มีโอกาสโต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด แม้คณะกรรมการควบคุมการเช่าจะไม่ได้ให้ผู้เช่าทราบหรือเรียกมาชี้แจง ก็หาทำให้คำสั่งของคณะกรรมการควบคุมการเช่ากลายเป็นคำสั่งที่มิชอบไปไม่ เมื่อคณะกรรมการควบคุมการเช่าใช้ดุลพินิจเห็นสมควรและมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ให้เช่ารื้อห้องพิพาทปลูกสร้างใหม่และเข้าอยู่เองกับแจ้งคำสั่งให้ผู้เช่าทราบแล้ว ผู้เช่ามิได้อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนั้น คำสั่งย่อมเด็ดขาด ศาลไม่มีอำนาจพิจารณาว่าคณะกรรมการฯอนุญาตไปโดยมีเหตุสมควรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1-6/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด และสถานะของผู้เช่าช่วง
คดีเดิม ชั้นบังคับคดีโจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าจำเลยนี้เป็นบริวารของผู้เช่า ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่าจำเลยมิใช่บริวารให้ยกคำร้อง โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจำเลยใหม่ขอให้ขับไล่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
สัญญาที่โจทก์ทำกับผู้เช่าโดยให้ผู้เช่าที่ดินปลูกตึกพิพาทแล้วเอาตึกให้ผู้อื่นเช่าได้มีกำหนด 10 ปีนั้น มีผลผูกพันระหว่างโจทก์กับผู้เช่าส่วนจำเลยจะมีสิทธิอยู่ในตึกพิพาทได้เพียงใดต้องเป็นไปตามสัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับผู้เช่าไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมมีผลใช้บังคับได้เพียง 3 ปีจำเลยอยู่มาครบ 3 ปีแล้ว โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบแล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
เมื่อข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบและบันทึกไว้พอวินิจฉัยได้แล้วว่า ห้องพิพาทมิใช่เคหะอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ ศาลก็ไม่จำต้องสืบพยานบุคคลต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ – ฟ้องแย้งค่าก่อสร้าง – พิจารณารวมกันได้ – ไม่มีเงื่อนไข – สิทธิการชดใช้ค่าปรับปรุง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยให้การว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์จริงโดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิจะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ทั้งมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มเติมห้องเช่าให้จำเลย ในเมื่อจำเลยจะต้องออกจากห้องเช่าของโจทก์ไปดังนี้ ถือว่าฟ้องแจ้งของจำเลยไม่มีเงื่อนไข และสามารถพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาฟ้องแย้งค่าก่อสร้างเพิ่มเติมควบคู่กับฟ้องขับไล่ และอำนาจศาลในการพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าจำเลยให้การว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์จริง โดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิจะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ทั้งมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มเติมห้องเช่าให้จำเลยในเมื่อจำเลยจะต้องออกจากห้องเช่าของโจทก์ไป ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีเงื่อนไขและสามารถพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต่ออายุโดยปริยาย ผู้ให้เช่าต้องแจ้งบอกเลิกตามสัญญาเดิมก่อนฟ้องขับไล่
สัญญาเช่าที่ระบุว่า "เมื่อผู้เช่าต้องการห้องเช่าคืน หรือผู้เช่าต้องการคืนห้อง ทั้งสองฝ่ายจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน 30 วัน" นั้นมีความหมายว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดบอกเลิกสัญญาเช่า จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน 30 วัน
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมื่อสิ้นกำหนดเวลาการเช่า ผู้เช่ายังคงครอบครองทรัพย์สินอยู่โดยผู้ให้เช่าไม่ทักท้วงกฎหมายถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลานั้น ข้อสัญญาบอกกล่าวเดิมก็ยังคงเป็นข้อสัญญาเช่ากันใหม่ต่อไปด้วย ฉะนั้น เมื่อผู้ให้เช่ามิได้บอกเลิกสัญญาก่อน ก็ต้องถือว่าสัญญาเช่านั้นยังคงมีอยู่ต่อกัน ผู้ให้เช่าจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่า
แม้คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าจะได้ลงมติให้ผู้ให้เช่าได้เข้าอยู่เองในห้องเช่า ก็เป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าต่อผู้เช่าก่อน
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 27/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าและการฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วงเมื่อไม่ชำระค่าเช่า
ผู้เช่าช่วงเช่าห้องพิพาทจากผู้เช่าเดิมโดยมีสัญญาเช่าต่อกันต่อมาผู้เช่าเดิมโอนสิทธิการเช่าตามสัญญานั้นให้แก่โจทก์ โดยเจ้าของห้องพิพาทยินยอมด้วย ดังนี้ โจทก์ย่อมเข้าสวมสิทธิเป็นผู้ให้เช่าแทนผู้เช่าเดิม ส่วนผู้เช่าช่วงก็ยังคงผูกพันเป็นผู้เช่าและมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่านั้นให้แก่โจทก์ เมื่อผู้เช่าช่วงไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์โจทก์ย่อมอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่านั้นฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาทได้ โดยไม่จำต้องเรียกเจ้าของห้องพิพาทเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วย
of 59