คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญา – ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง – ความผิดฐานฆ่า – ของที่ใช้ทำร้ายไม่ตรงตามที่ระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย ตายโดยเจตนาฆ่า แต่ตามท้องสำนวนได้ความว่า ผู้ตายถูกแทงด้วยของแข็งแหลม ดังนี้ แม้จะไม่ได้ความชัดว่า ถูกแทงด้วยมีดดังโจทก์ระบุ - ในฟ้อง ก็เป็นการถูกแทงเช่นเดียวกัน หาใช่เป็นกรณีข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับคำบรรยายฟ้อง อันจะทำให้ฟ้องตกไปตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา กรณีระบุตัวผู้กระทำผิดที่ไม่ชัดเจน ฟ้องไม่เคลือบคลุมหรือไม่
ฟ้องโจทก์บรรยายหาว่าจำเลยได้สมคบกันทำไม้แปรรูปไม้และชักลากไม้โดยใช้อุบายหรือจ้างวานให้ผู้อื่นทำไม้ แปรรูปไม้และชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุณาต และได้สมคบกับพวกที่หลบหนีไปลักไม้ ขอให้ลงโทษดังนี้ ผู้อื่นที่จำเลยใช้อุบายจ้างวานและพวกที่หลบหนีไปจะเป็นใครและมีจำนวนกี่คนนั้น ไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งคดีที่จะทำให้จำเลยเข้าใจผิดหลงว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดดังที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ฟ้องเช่นนี้จึงสมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาผิดในฟ้องอาญาเป็นสาระสำคัญ หากไม่ระบุ ศาลต้องยกฟ้องและห้ามฟ้องใหม่
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีก่อนโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยกเสียตามมาตรา 161 ดังนี้พึงเห็นได้ว่าเวลากระทำผิดเป็นข้อสำคัญที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง และเวลากระทำผิดเช่นว่านี้ก็เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องความผิดที่จำเลยกระทำนั่นเอง จึงได้ชื่อว่าศาลได้ยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) จะฟ้องจำเลยใหม่ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาในความผิดที่กระทำในเวลาราชการ
โจทก์ ฟ้องระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินโดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้ว คงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใดกลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเองก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่าจำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการ ซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ทั้งปรากฎตามคำให้การของจำเลย ก็เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีอยู่แล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาแสดงเอกสารปลอมต่อเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินโดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้วคงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใดกลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเองก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่า จำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ทั้งปรากฏตามคำให้การของจำเลยก็เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีอยู่แล้วดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุวันเกิดเหตุในฟ้องอาญา: วันสุริยคติ-จันทรคติ ความถูกต้องของการฟ้อง
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยกระทำผิดทางอาญา อ้างวันตามสุริยคติ แล้ววงเล็บว่าตรงกับวันขึ้นแรมตามจันทรคติวันใด เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า วันเกิดเหตุผิดไปจากวันตามสุริยคติแต่วันขึ้นแรมตามจันทรคติยังถูกอยู่เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ฟ้องผิดวัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาที่ขาดรายละเอียดการกระทำความผิด จำเลยประมาทหรือไม่
ฟ้องบรรยายมีใจความสำคัญเพียงว่าจำเลยเสพสุราเมาขับรถยนต์ชนทับบุตรของโจทก์บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 259 จำเลยเมาเพียงไรหรือจำเลยประมาทปราศจากความระมัดระวังหรือไม่ ไม่ปรากฎในฟ้องดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่ยังไม่สมบูรณ์ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 259 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาเนื่องจากขาดรายละเอียดเวลาที่กระทำผิด แม้พิพากษาให้โจทก์ชนะ ก็ต้องปล่อยตัวจำเลย
ฟ้องของโจทก์บอกแต่วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง "เวลกลาง" จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 1598(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้น แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาเกิดเหตุ
ฟ้องของโจทก์บอกแต่ วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง'เวลากลาง'จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานสมคบปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาฆ่าต้องระบุชัดเจน
ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันปล้นทรัพย์และใช้สาตราวุธตีแทงและฟันเจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บหลายแห่ง เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลไม่ได้ถึงแก่ความตายในทันใดนั้นเอง ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการที่จะหลีกเลี่ยงอาญาและเพื่อจะเอาประโยชน์จากการกระทำผิด ไม่ได้บรรยายไว้ด้วยว่าในการทำร้ายเจ้าทรัพย์นั้นจำเลยมีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายโดยเจตนาด้วย ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษตามมาตรา 250 ด้วย แม้โจทก์จะได้อ้างมาตรา 250มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250หาได้ไม่ คงลงโทษจำเลยได้แต่ตามมาตรา 301 ตอนท้ายเท่านั้น
of 55