พบผลลัพธ์ทั้งหมด 543 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบยักยอกทรัพย์: ไม่จำกัดเฉพาะผู้รับมอบหมายทรัพย์
ความผิดฐานสมคบกันกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์นั้น ผู้กระทำผิดทุกคนหาจำเป็นจะต้องได้รับมอบหมายทรัพย์ที่ยักยอกโดยตนเองทุกๆ คนเสมอไปไม่ เมื่อได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ที่ได้รับมอบหมายทรัพย์มาก็อาจเป็นความผิดฐานสมคบกันยักยอกทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 854/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ยักยอกทรัพย์ในหน้าที่และทำลายหลักฐานการรักษาทรัพย์
ผู้ช่วยสมุห์บัญชีอำเภอรักษากุญแจเซฟเก็บเงินผลประโยชน์ของทางราชการซึ่งตั้งรักษาไว้บนสถานีตำรวจภูธรอำเภอนั้น แทนสมุห์บัญชีกับปลัดอำเภอเป็นผู้รักษากุญแจเซฟอีกสองดอกแทนนายอำเภอ การปิดเปิดเซฟโดยปกติต้องใช้กุญแจทั้งสามดอก แต่ในคราวเปิดเซฟครั้งหนึ่ง เมื่อปิดเซฟผู้ช่วยสมุห์บัญชีเพทุบายใช้กุญแจดอกที่ตนรักษาดอกเดียวปิดเซฟ โดยปลัดอำเภอไม่ทราบ ครั้นตกตอนกลางคืน ผู้ช่วยสมุหบัญชีนั้นได้ลอบมาเปิดเซฟด้วยกุญแจดอกที่ตนรักษาไว้แล้วเอาเงินในเซฟนั้นไปหมด ดังนี้ผู้ช่วยสมุห์บัญชีมีผิดฐานยักยอกทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131
จำเลยเองเป็นผู้ประทับตราคาดเชือกคาดเซฟเป็นที่สังเกตุสำหรับจำเลยเอง เมื่อจำเลยตัดเชือกที่ประทับตรานั้นขาดเสียเอง+เพื่อเอาเงินในเซฟ+ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตตรา 130
จำเลยเองเป็นผู้ประทับตราคาดเชือกคาดเซฟเป็นที่สังเกตุสำหรับจำเลยเอง เมื่อจำเลยตัดเชือกที่ประทับตรานั้นขาดเสียเอง+เพื่อเอาเงินในเซฟ+ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตตรา 130
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 854/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์โดยผู้รักษากุญแจเซฟ: ความผิดฐานยักยอกทรัพย์เมื่อมีการทำลายตราประทับ
ผู้ช่วยสมุห์บัญชีอำเภอรักษากุญแจเซฟเก็บเงินผลประโยชน์ของทางราชการซึ่งตั้งรักษาไว้บนสถานีตำรวจภูธรอำเภอนั้นแทนสมุห์บัญชีกับปลัดอำเภอเป็นผู้รักษากุญแจเซฟอีกสองดอกแทนนายอำเภอ การปิดเปิดเซฟโดยปกติต้องใช้กุญแจทั้งสามดอกแต่ในคราวเปิดเซฟครั้งหนึ่ง เมื่อปิดเซฟผู้ช่วยสมุห์บัญชีเพทุบายใช้กุญแจดอกที่ตนรักษาดอกเดียวปิดเซฟโดยปลัดอำเภอไม่ทราบ ครั้นตกตอนกลางคืนผู้ช่วยสมุหบัญชีนั้นได้ลอบมาเปิดเซฟด้วยกุญแจดอกที่ตนรักษาไว้แล้วเอาเงินในเซฟนั้นไปหมด ดังนี้ผู้ช่วยสมุห์บัญชีมีผิดฐานยักยอกทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131
จำเลยเองเป็นผู้ประทับตราคาดเชือกคาดเซฟเป็นที่สังเกตสำหรับจำเลยเองเมื่อจำเลยตัดเชือกที่ประทับตรานั้นขาดเสียเองเพื่อเอาเงินในเซฟอันเป็นความผิดตาม มาตรา 131 แล้วก็ไม่ต้องวินิจฉัยความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา130 อีก
จำเลยเองเป็นผู้ประทับตราคาดเชือกคาดเซฟเป็นที่สังเกตสำหรับจำเลยเองเมื่อจำเลยตัดเชือกที่ประทับตรานั้นขาดเสียเองเพื่อเอาเงินในเซฟอันเป็นความผิดตาม มาตรา 131 แล้วก็ไม่ต้องวินิจฉัยความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา130 อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานยักยอกทรัพย์จากการเป็นตัวแทน: การรับเงินค่าขายแทนเจ้าของแล้วเบียดบัง
ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบแหวนเพ็ชรของผู้เสียหายไป 1 วง โดยจำเลยรับว่าจะเอาไปขายให้ ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอามาคืนให้ ครั้นแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกแหวนเพ็ชรหรือเงินค่าแหวนนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้เป็นฟ้องที่จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาได้ดี จำเลยย่อมรู้สึกอยุ่แก่ตนว่า ยักยอกแหวนหรือยักยอกเงินค่าแหวนที่ขายได้ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งขอผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทน ฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมาย ถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งขอผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทน ฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมาย ถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์โดยตัวแทน: การเบียดบังเงินค่าขายทรัพย์สินที่รับมอบมา
ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบแหวนเพ็ชรของผู้เสียหายไป 1วง โดยจำเลยรับว่าจะเอาไปขายให้ ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอามาคืนให้ครั้นแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกแหวนเพ็ชรหรือเงินค่าแหวนนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียดังนี้ เป็นฟ้องที่จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาได้ดีจำเลยย่อมรู้สึกอยู่แก่ตนว่า ยักยอกแหวนหรือยักยอกเงินค่าแหวนที่ขายได้จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งของผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทนฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมายถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้ เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งของผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทนฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมายถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้ เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินเพื่อรักษาญาติและการมอบทรัพย์สินเพื่อต่างดอกเบี้ย ไม่ถือเป็นยักยอกทรัพย์
ป้ากู้เงินผู้อื่นมาโดยเอาสวนของหลานมอบให้เขาใช้ต่างดอกเบี้ยแล้วเอาเงินที่กู้มาใช้จ่ายในการรักษาหลานซึ่งวิกลจริตอยู่ ดังนี้จะว่าป้ายักยอกเอาสวนหรือเงินที่กู้มาไปเพื่อประโยชน์ตนเองไม่ถนัด ยังไม่เป็นความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ จึงขอให้ลงโทษในทางอาญาและคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่ง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงแล้ว โจทก์ก็ฎีกาขอให้ลงโทษทางอาญาไม่ได้ ส่วนข้อที่ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่งนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในทางอาญา ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้แล้ว ในทางแพ่งก็ฟังตามคดีอาญาว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้ไว้ด้วย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ จึงขอให้ลงโทษในทางอาญาและคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่ง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงแล้ว โจทก์ก็ฎีกาขอให้ลงโทษทางอาญาไม่ได้ ส่วนข้อที่ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่งนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในทางอาญา ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้แล้ว ในทางแพ่งก็ฟังตามคดีอาญาว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้ไว้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์โดยรับมอบหมายโดยปริยาย และสิทธิในการร้องทุกข์ของผู้รับมรดก
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้รักษาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งตกจากรถยนต์และถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปมอบให้สามีของเจ้าทรัพย์แล้วจำเลยบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยเสีย ดังนี้ แม้จะไม่มีคำว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ ก็พอถือได้ว่าเป็นการรับมอบหมายโดยปริยาย ต้องตามตัวบทในมาตรา 314 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญาแล้ว และในกรณีเช่นนี้สามีย่อมเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์โดยรับมอบหมายโดยปริยาย: ผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งตกจากรถยนต์และถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปมอบให้สามีของเจ้าทรัพย์แล้วจำเลยบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยเสีย ดังนี้ แม้จะไม่มีคำว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ ก็พอถือได้ว่าเป็นการรับมอบหมายโดยปริยาย ต้องตามตัวบทในมาตรา 314 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาแล้ว และในกรณีเช่นนี้สามีย่อมเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: อัยการมีอำนาจฟ้องขอคืนทรัพย์ได้ แม้ไม่มีผู้ร้องทุกข์
ปลัดอำเภอรับมอบเงินในนามคณะกรรมการอำเภอ จากจังหวัดแล้วยักยอกเสียนั้น ย่อมถือว่าแผ่นดินเป็นผู้เสียหาย ไม่จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์อัยการก็ฟ้องได้
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ว่ามิได้มีการสอบสวนตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 120
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ว่ามิได้มีการสอบสวนตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: แผ่นดินเป็นผู้เสียหาย อัยการฟ้องได้และมีอำนาจเรียกคืนทรัพย์
ปลัดอำเภอรับมอบเงินในนามคณะกรมการอำเภอ จากจังหวัดแล้วยักยอกเสียนั้น ย่อมถือว่าแผ่นดินเป็นผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์ อัยการก็ฟ้องได้
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120