คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 674 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4421/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและผลกระทบต่อการดำเนินคดีอาญา: ภาระการพิสูจน์ของผู้ฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วคดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลยจำเลยส่งหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยต่อศาลและแถลงว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว โจทก์ร่วมรับว่าทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจริง แต่ทำด้วยความสำคัญผิดแต่โจทก์ก็ไม่ได้แถลงขอสืบพยานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานให้เห็นว่าทำสัญญานั้นโดยสำคัญผิดก็ต้องฟังว่าสัญญานั้นสมบูรณ์
การยอมความกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้น ไม่จำเป็นต้องกระทำต่อหน้าศาลเสมอไปอาจกระทำกันนอกศาลก็ได้แต่กรณีที่โจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมถูกหลอกให้ทำสัญญา และไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมไม่ยอมรับข้อสัญญาโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์จึงต้องฟังว่าสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน หากเงื่อนไขการสืบพยานไม่เป็นไปตามที่ตกลง
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาชื่อสัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินสดขาดบัญชีระหว่างที่จำเลย เป็นผู้จัดการร้านโจทก์ความว่าข้อ 1.จำเลย ยอมรับผิดชดใช้เงินสด ขาดบัญชีที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็น ผู้จัดการร้านโจทก์เป็นเงิน 36,667.75บาท และยอดเงินสดคงเหลือ เมื่อวันจำเลยออกจากตำแหน่งผู้จัดการร้านโจทก์มีเงินขาดบัญชีอีก 15,738.21 บาทข้อ2.จำเลยขอเวลาทำการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชี ตามที่ผู้สอบบัญชีอ้างว่ามีเงินสดขาดบัญชีเพื่อความแน่นอนเป็นเวลา 3 เดือน นับแต่วันทำสัญญา หากพบหลักฐานการเงินที่สามารถนำมา หักกลบลบเงินขาดบัญชีโดยผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการ ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วย จำเลยยินยอมชดใช้ส่วนที่ยังขาดอยู่ ให้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยได้ตรวจสอบบัญชีตามสัญญาข้อ 2. และแจ้งให้โจทก์ทราบแต่ผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการของร้านโจทก์ ไม่เห็นชอบด้วย ดังนี้ สัญญาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายตกลงระงับข้อพิพาททั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้นโดยตกลงผ่อนผันให้แก่กันในจำนวนเงินที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็นผู้จัดการร้านโจทก์และ ส่งมอบเงินสดขาดบัญชีขณะจำเลยพ้นจากตำแหน่งโดยจำเลยยอมรับผิด ชดใช้เงินดังกล่าวทั้งสองสำนวนและโจทก์ไม่ดำเนินคดีแก่จำเลยทางแพ่ง และทางอาญาสัญญาฉบับนี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 อันมีผลทำให้การเรียกร้อง ของโจทก์จำเลยซึ่งมีอยู่ขณะนั้นระงับสิ้นไปคงได้สิทธิตามที่แสดงไว้ใน สัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เท่านั้นดังนั้นการที่จำเลย จะขอนำสืบพยานตามเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความและ รับสภาพหนี้ ข้อ2 ได้ก็ต้องให้ผู้ตรวจบัญชีและคณะกรรมการดำเนินงาน ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วยซึ่งจำเลยก็ยอมรับแล้วว่าบุคคลดังกล่าว มิได้ยินยอมเห็นชอบด้วยกับหลักฐานที่จำเลยนำมาแสดงดังนั้นโดย สัญญาข้อ 2 จำเลยจึงไม่มีสิทธิสืบพยานต่อไปที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ให้งดสืบพยานของคู่ความจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3706-3707/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาประนีประนอมยอมความ: คู่สัญญาฟ้องได้ แม้บุคคลภายนอกยังไม่แสดงเจตนา
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้แก่โจทก์ จำเลยให้การว่ามิได้ผิดสัญญาและโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ก่อนสืบพยานคู่ความท้ากันให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยไม่ต้องสืบพยาน เพียงประเด็นเดียวว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ ดังนี้ ปัญหาที่ว่าจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่จึงเป็นปัญหาที่คู่ความสละแล้ว ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นตามคำท้าไปได้โดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงให้เป็นยุติว่าจำเลยผิดสัญญาหรือไม่
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้โดยมีข้อผูกพันจำเลยว่า จำเลยจะทำสัญญาให้ผู้มีชื่อเช่าตึกแถวและจำเลยจะต้องก่อสร้างตึกแถวเพื่อให้ผู้มีชื่อได้เช่า จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงต่าง ๆ ในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติ โจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย มิใช่เรื่องของบุคคลภายนอกกับโจทก์หรือจำเลย ดังนั้น แม้บุคคลภายนอกจะยังมิได้แสดงเจตนาต่อจำเลย ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาดังกล่าว ก็มิใช่ข้อที่จำเลยจะอ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3555/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การยอมรับผิดในความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย
โจทก์ทำตั๋วรถยนต์โดยสารของจำเลยหาย ต่อมาโจทก์ทำหนังสือยอมรับผิดชดใช้เงินเท่าราคาตั๋วที่หายให้แก่จำเลย โดยขอผ่อนชำระจนครบเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายต้องรับผิดในเงินค่าตั๋วรถยนต์โดยสารที่หายได้ลงชื่อรับผิดไว้ในหนังสือนั้นถูกต้อง หนังสือดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร 851 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3555/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันลูกจ้าง แม้เกิดจากเหตุตั๋วรถหาย
โจทก์ทำตั๋วรถยนต์โดยสารของจำเลยหายต่อมาโจทก์ทำ หนังสือยอมรับผิดชดใช้เงินเท่าราคาตั๋วที่หายให้แก่จำเลยโดยขอผ่อนชำระจนครบเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายต้องรับผิดในเงิน ค่าตั๋วรถยนต์โดยสารที่หายได้ลงชื่อรับผิดไว้ในหนังสือนั้นถูกต้อง หนังสือดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผิดนัดชำระหนี้แม้แต่วงวดเดียวถือเป็นผิดนัดทั้งสัญญา
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นงวด แม้ไม่ได้ระบุว่าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด โจทก์ฟ้องบังคับให้ชำระหนี้ได้ก็ตาม แต่เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเวลาที่ตกลงกันไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใด ก็ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญายอมทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ทั้งหมดได้
า(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 521/2510 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้เพียงงวดเดียว ถือผิดนัดทั้งหมด โจทก์มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นงวด แม้ไม่ได้ระบุว่าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดโจทก์ฟ้องบังคับให้ชำระหนี้ได้ก็ตามแต่เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเวลาที่ตกลงกันไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใด ก็ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญายอมทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ทั้งหมดได้ (โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 521/2510 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3008/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับเช็คและการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่เป็นเหตุให้พ้นความรับผิด
ข้อที่จำเลยเบิกความในวันทำการไต่สวนชั้นบังคับคดีว่าไม่เคย เป็นผู้ทรงเช็คฉบับเลขที่ 135887 และทราบว่าขณะนี้ ข. ได้ฟ้องโจทก์เพื่อให้ชำระเงินตามเช็คฉบับนั้นจำเลยจึงไม่สามารถนำมามอบคืนให้โจทก์ ซึ่งในข้อที่ ข. ฟ้องโจทก์เพื่อให้ชำระเงินตามเช็คก็เป็นความจริงเมื่อตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้ก็มิได้ระบุว่าจำเลยจะต้องส่งมอบเช็ค 3 ฉบับที่จำเลยเป็นผู้ทรงเพียงแต่มีข้อความระบุว่าจำเลยจะต้องคืนเช็ค 3 ฉบับให้แก่โจทก์การที่จำเลยจะเป็นผู้ทรงหรือเคยเป็นผู้ทรงเช็คฉบับดังกล่าว หรือไม่จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีซึ่งจะมีผลให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่ต้องส่งมอบเช็คฉบับนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3008/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ การเบิกความเท็จเกี่ยวกับเช็ค และผลกระทบต่อความรับผิด
ข้อที่จำเลยเบิกความในวันทำการไต่สวนชั้นบังคับคดีว่าไม่เคย เป็นผู้ทรงเช็คฉบับเลขที่ 135887และทราบว่าขณะนี้ ข. ได้ฟ้องโจทก์เพื่อให้ชำระเงินตามเช็คฉบับนั้น จำเลยจึงไม่สามารถนำมามอบคืนให้โจทก์ ซึ่งในข้อที่ ข.ฟ้องโจทก์เพื่อให้ชำระเงินตามเช็คก็เป็นความจริงเมื่อตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้ก็มิได้ระบุว่าจำเลยจะต้องส่งมอบเช็ค 3 ฉบับที่จำเลยเป็นผู้ทรง เพียงแต่มีข้อความระบุว่าจำเลยจะต้องคืนเช็ค 3 ฉบับให้แก่โจทก์การที่จำเลยจะเป็นผู้ทรงหรือเคยเป็นผู้ทรงเช็คฉบับดังกล่าวหรือไม่ จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีซึ่งจะมีผลให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่ต้องส่งมอบเช็คฉบับนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2263/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีจากสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้มีการแย่งการครอบครอง อายุความ 10 ปีตาม ปพพ. มาตรา 168
การฟ้องคดีของโจทก์โดยอาศัยสิทธิอันตั้งหลักฐานขึ้นโดยสัญญาประนีประนอมยอมความ มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 แม้จำเลยจะแย่งการครอบครองที่พิพาทจากโจทก์ไปเกินกว่า 1 ปี แต่นับถึงวันฟ้องยังไม่ครบ 10 ปี ฟ้องโจทก์จึงหาขาดอายุความไม่
of 68