คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเรื่องถูกปล้นเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้พนัน: พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเท็จ
โจทก์กล่าวฟ้องจำเลยในข้อหา 2 ข้อ คือเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบและเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าถูกปล้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเพทุบายว่าถูกปล้น เพื่อไม่ต้องใช้เงินแก่ลูกค้านั้น จะอาศัยพยานโจทก์ที่ให้ความเห็นและข้อสันนิษฐานว่าจำเลยไม่ถูกปล้นมาวินิจฉัยฟังเอาว่าความที่จำเลยนำมาแจ้งนั้นเป็นความเท็จยังไม่ได้และจะอนุมาณเอาจากการที่ว่าจำเลยไม่ต้องการจ่ายเงินให้ลูกค้าก็ยังไม่ได้ ในเมื่อข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นเจ้ามือนั้นฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาต่อจำเลยที่ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในคดีหนี้สิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลย 2 คนชำระหนี้เงินตามสัญญากู้จำเลยคนหนึ่งอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยคนนั้นฎีกาต่อมา ศาลฎีกาไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์พิพากษายกฟ้อง จำเลยคนที่ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกา ก็ย่อมได้รับผลตามคำพิพากษาด้วย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดกับการฎีกาคดี ห้างหุ้นส่วนยังคงมีสิทธิฎีกาได้ แม้จะเลิกไปแล้ว
จำเลยเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วจำเลยได้จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน ดังนี้จำเลยย่อมจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนเช็ค: การพิพาทระหว่างผู้สั่งจ่ายและผู้รับเช็คที่ไม่มีหนี้สินกัน
ผู้สั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้แก่ผู้รับเงินตามเช็คไปโดยไม่ใช่เพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้รับเงินตามเช็คแต่มีข้อสัญญาว่าผู้รับเช็คจะนำเงินเข้าธนาคารให้ผู้สั่งจ่ายก่อนถึงกำหนดวันที่ตามเช็คเช่นนี้ กรณีระหว่างผู้สั่งจ่ายเช็ถกับผู้รับเงินตามเช็คโดยตรงจึงเป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทน ต้องบังคับตาม ป.พ.พ.ม.369
ทำลายเช็คแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเพื่อเอาเงินโดยอ้างหนี้สินที่ไม่เป็นความจริง เป็นกรณีละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย
เอาความเท็จไปพูดหลอกลวงเขาว่า เจ้าหนี้ของตนเร่งรัดหนี้สินจึงขอเอาเงินจากเขาไปชำระแก่เจ้าหนี้เพื่อรับเอาโฉนดที่ดินคืนมาแล้วจะมาทำจำนองไว้แก่เขา เขาหลงเชื่อมอบเงินให้ไป ชำระหนี้สินจนได้รับโฉนดคืนมามอบไว้แก่เขาแล้ว แต่ไม่ยอมไปทำสัญญาจำนองให้เขาตามที่พูดไว้ ดังนี้ เป็นเรื่องกรณีละเมิด ต้องใช้สินไหมทดแทนให้แก่เขาตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเพื่อให้ได้ทรัพย์สินโดยอ้างการชำระหนี้และสัญญาจำนองที่ไม่เป็นผล
เอาความเท็จไปพูดหลอกลวงเขาว่า เจ้าหนี้ของตนเร่งรัดหนี้สินจึงขอเอาเงินจากเขาไปชำระแก่เจ้าหนี้เพื่อรับเอาโฉนดที่ดินคืนมาแล้วจะมาทำจำนองไว้แก่เขา เขาหลงเชื่อมอบเงินให้ไป ชำระหนี้สินจนได้รับโฉนดคืนมามอบไว้แก่เขาแล้ว แต่ไม่ยอมไปทำสัญญาจำนองให้เขาตามที่พูดไว้ดังนี้ เป็นเรื่องกรณีละเมิดต้องใช้สินไหมทดแทนให้แก่เขาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองหนี้โดยปริยายของคู่สมรส: ผลผูกพันทางหนี้สินจากการลงลายมือชื่อเป็นพยาน
หญิงมีสามีก่อหนี้ขึ้นโดยลำพัง แต่ภายหลังได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้สินนั้นขึ้น โดยสามีรับรู้ ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพยานไว้ในเอกสารรับสารภาพหนี้นั้น ย่อมถือว่าสามีรับรองหรือให้สัตยาบันโดบปริยาย สามีจึงต้องรับผิดในหนี้สินนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองหนี้โดยปริยายของคู่สมรส
หญิงมีสามีก่อหนี้สินขึ้นโดยลำพัง แต่ภายหลังได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้สินนั้นขึ้น โดยสามีรับรู้ ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพยานไว้ในเอกสารรับสภาพหนี้นั้น ย่อมถือว่าสามีรับรองหรือให้สัตยาบันโดยปริยาย สามีจึงต้องรับผิดในหนี้สินนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีหนี้สิน ที่ไม่ได้ระบุชื่อเจ้าหนี้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า สามีจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ 3 รายการแล้วบรรยายหนี้ทั้ง 3 รายการนั้นแล้วว่า สามีจำเลยกับโจทก์ได้ตกลงกันให้สามีจำเลยจ่ายเงินชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์เสียจำนวนหนึ่ง โดยไม่ระบุตัวเจ้าหนี้มาในฟ้องเงินที่เหลือให้รักษาไว้เพื่อมอบแก่โจทก์เมื่อโจทก์ต้องการ แต่ยังไม่ทันได้จัดการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์และตัวโจทก์สามีจำเลยตายเสียก่อน จำเลยเป็นผู้ครอบครองมรดกไว้แต่ผู้เดียว จึงขอให้จำเลยชำระหนี้รายนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 172 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจลงนามกรรมการบริษัทและการยอมรับผิดชอบในหนี้สิน
แม้ในคำขอจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ได้ระบุไว้ว่ากรรมการหนึ่งนายมีอำนาจลงนามแทนบริษัทได้ แต่ต้องประทับตราของบริษัทก็ดี เมื่อปรากฏว่ากรรมการ ซึ่งเป็นผู้จัดการของบริษัทยืมปูนซิเมนต์ของผู้อื่นมาใช้ในกิจการของบริษัทแล้ว บริษัทจะไม่ยอมรับผิดโดยโต้เถียงว่าใบสั่งของที่ยืมปูนซิเมนต์มามีแต่กรรมการผู้จัดการลงนามไม่มีตราของบริษัทประทับด้วยนั้นไม่ได้
of 48