พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารไม่ต้องรับผิดตามคำรับรอง หากโจทก์ไม่ส่งเอกสารครบถ้วนตามเงื่อนไขเลตเตอร์ออฟเครดิต
โจทก์ได้นำหนังสือ (เครดิต)ของจำเลยที่ 1 ซึ่งมีถึงธนาคารให้จ่ายเงินตามเลตเตอร์ออฟเครดิตแก่โจทก์ไปแสดงต่อธนาคารจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ได้ประทับตราในหนังสือนั้นมีข้อความว่า 'ธนาคารได้ทราบแล้ว จะจ่ายเงินให้ในเมื่อได้ส่งเอกสารมาแลกเปลี่ยนเงินตามเงื่อนไขของเลตเตอร์ออฟเครดิต ดังกล่าวข้างบนแล้ว' เมื่อโจทก์ส่งสินค้าให้แก่จำเลยที่ 1 แล้วได้ให้ผู้แทนเอาหนังสือ(เครดิต)ที่ธนาคารได้ประทับตราไว้นั้นไปแลกเงิน แต่ไม่ได้นำเลตเตอร์ออฟเครดิตและเอกสารต่างๆ ไปแลกเปลี่ยนธนาคารจึงไม่จ่ายเงิน เช่นนี้ ธนาคารจำเลยที่ 2 ไม่เป็นฝ่ายผิดคำรับรองโจทก์จะฟ้องบังคับให้ธนาคารจำเลยที่2 ชำระเงินหาได้ไม่
ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างถึงเงื่อนไขในคำรับรอง แต่โจทก์ได้อ้างข้อความคำรับรองตามเอกสารท้ายฟ้องเอกสารนี้ระบุว่าโจทก์จะต้องนำเอกสารมาแลกเปลี่ยนเงินตามเงื่อนไขของเลตเตอร์ออฟเครดิตดังนี้ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าโจทก์ได้ส่งเอกสารตามนัยแห่งเงื่อนไขนั้นครบถ้วนแล้ว
ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างถึงเงื่อนไขในคำรับรอง แต่โจทก์ได้อ้างข้อความคำรับรองตามเอกสารท้ายฟ้องเอกสารนี้ระบุว่าโจทก์จะต้องนำเอกสารมาแลกเปลี่ยนเงินตามเงื่อนไขของเลตเตอร์ออฟเครดิตดังนี้ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าโจทก์ได้ส่งเอกสารตามนัยแห่งเงื่อนไขนั้นครบถ้วนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการขับไล่จำเลยต้องเป็นไปตามที่ตกลงไว้
สัญญาประนีประนอมยอมความในศาลระหว่างโจทก์จำเลยระบุเงื่อนไขไว้เพียงว่า หากโจทก์มีความจำเป็นทำการเพื่อประโยชน์ในการรถไฟแล้ว โจทก์จึงจะขอให้จำเลยออกจากที่รายพิพาทได้ ฉะนั้น การที่จำเลยได้เบิกความเป็นพยานในคดีที่บิดาจำเลยฟ้องโจทก์จำเลยว่าที่รายพิพาทเป็นของนายเงิน จึงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแต่ประการใด โจทก์จะยกเหตุอื่นมาฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ เพราะโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการขอให้จำเลยออกจากที่ดินผูกพันโจทก์ แม้จะมีเหตุอื่น
สัญญาประนีประนอมยอมความในศาลระหว่างโจทก์จำเลยระบุเงื่อนไขไว้เพียงว่า หากโจทก์มีความจำเป็นทำการเพื่อประโยชน์ในการรถไฟแล้ว โจทก์จึงจะขอให้จำเลยออกจากที่รายพิพาทได้ ฉะนั้น การที่จำเลยได้เบิกความเป็นพยานในคดีที่บิดาจำเลยฟ้องโจทก์จำเลยว่าที่รายพิพาทเป็นของนายเงินจึงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแต่ประการใด โจทก์จะยกเหตุอื่นมาฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ เพราะโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายแทนเด็ก: เงื่อนไขการขออนุญาตศาลและการปฏิบัติตามสัญญา
โจทก์จำเลยทำหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายกันต่อโดยระบุว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมขายแทน ส.ผู้เยาว์ ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ขายจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขาย ความหมายของสัญญาจะขายที่ดินรายนี้ของเด็กก็ต่อเมื่อศาลอนุญาตให้ขาย เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอขายที่ดินของเด็กแล้ว ศาลสั่งไม่อนุญาต ก็ย่อมเป็นอันไม่ซื้อขายกันตามข้อสัญญา การที่ศาลไม่อนุญาตให้ขาย มิใช่เป็นการที่จำเลยขัดขวางมิให้เงื่อนไขสำเร็จแต่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายแทนเด็ก: เงื่อนไขการขออนุญาตศาลและการปฏิบัติตามสัญญา
โจทก์จำเลยทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายต่อกันโดยระบุว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมขายแทน ส. ผู้เยาว์ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ขายจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขายความหมายของสัญญาจะขายที่ดินรายนี้ของเด็กก็ต่อเมื่อศาลอนุญาตให้ขาย เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอขายที่ดินของเด็กแล้ว ศาลสั่งไม่อนุญาต ก็ย่อมเป็นอันไม่ซื้อขายกันตามข้อสัญญา การที่ศาลไม่อนุญาตให้ขาย มิใช่เป็นการที่จำเลยขัดขวางมิให้เงื่อนไขสำเร็จแต่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขพิจารณารวมกับฟ้องเดิมไม่ได้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าเพื่อขอให้ยกฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งว่าเมื่อโจทก์จะให้จำเลยเลิกเช่า โจทก์จะต้องคืนเงินค่าเช่าบางส่วนแก่จำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขพิจารณารวมไปกับฟ้องเดิมไม่ได้ จึงไม่ชอบที่จะรับฟ้องแย้งเช่นนี้ไว้พิจารณา (อ้างฎีกาที่ 956/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยมีเงื่อนไขทำกิน และการเพิกถอนการให้เนื่องจากเนรคุณ/ไม่อุปถัมภ์
โจทก์จดทะเบียนยกที่ดินให้แก่จำเลยโดยตกลงกันว่า โจทก์ ยังครอบครองทำกินตลอดไป และโจทก์ยังครอบครองอยู่ โจทก์ไป ห้ามจำเลยมิให้ขายที่ดิน ขายแล้วโจทก์จะเอาอะไรกิน จำเลยว่า มีสิทธิขายได้ และด่าโจทก์ว่า 'อีดอกทองอีแก่ อีหัวหงอก กูจะขาย มึงอยากได้ให้ไปฟ้องเอาถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง
โจทก์ห้ามมิให้จำเลยขายที่ดินเพราะโจทก์ไม่มีที่ทำกิน จำเลยก็ยืนยันจะขายจนเกิดเหตุรุนแรงขึ้นพอถือได้ว่า เป็นการบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถให้ได้โจทก์ขอเพิกถอนการให้ได้.โดยไม่ต้องรอให้จำเลยขายที่ดินไปเสียก่อน
โจทก์ห้ามมิให้จำเลยขายที่ดินเพราะโจทก์ไม่มีที่ทำกิน จำเลยก็ยืนยันจะขายจนเกิดเหตุรุนแรงขึ้นพอถือได้ว่า เป็นการบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถให้ได้โจทก์ขอเพิกถอนการให้ได้.โดยไม่ต้องรอให้จำเลยขายที่ดินไปเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำท้ากันในศาล: การรังวัดที่ดินพิพาทเป็นข้อตัดสิน หากผลเป็นไปตามเงื่อนไข จำเลยต้องแพ้คดี
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือ ให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่ โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์แล้ว จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในค้าท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้ว จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำท้าพิสูจน์ หากผลเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ศาลต้องตัดสินตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้วศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในคำท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้วจำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความที่มีเงื่อนไข การผิดสัญญาและสิทธิในการเรียกคืนทรัพย์สิน
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำต่อหน้าศาลว่าโจทก์ยอมยกที่ดินให้จำเลยเป็นเจ้าของครอบครองทำกินและเลี้ยงดูโจทก์ ถ้าไม่เลี้ยงดูจำเลยยอมคืนที่ดินให้โจทก์นั้น เป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดหนี้โดยมีเงื่อนไขและเป็นสัญญาต่างตอบแทน ฉะนั้น เมื่อจำเลยนำที่พินที่ได้รับยกให้ซึ่งโจทก์ปลูกบ้านอยู่ไปขายฝากผู้อื่นจนหลุดเป็นสิทธิแล้ว ย่อมถือว่าเป็นสภาพการณ์ที่แสดงในตัวว่าจำเลยไม่เลี้ยงดูโจทก์และผิดตามสัญญาดังกล่าว โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกที่ดินคืนได้