พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องดำเนินคดีฐานเบิกความเท็จ แม้คดีอาญาที่เกี่ยวข้องยกฟ้องแล้ว โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเอาความรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความเป็นพยานในข้อสำคัญในคดีอาญาที่โจทก์ถูกฟ้องว่ากระทำความผิด แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนั้นจนถึงที่สุดไปแล้ว ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่า โจทก์เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานเท็จนั้นเพราะโจทก์อาจถูกศาลพิพากษาลงโทษได้ ถ้าหากศาลเชื่อคำเบิกความเท็จของจำเลย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเบิกความเท็จแม้คดีอาญาจบแล้ว ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเอาความที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความเป็นพยานในข้อสำคัญในคดีอาญาที่โจทก์ถูกฟ้องว่ากระทำความผิด แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนั้นจนถึงที่สุดไปแล้ว ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่า โจทก์เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานเท็จนั้นเพราะโจทก์อาจถูกศาลพิพากษาลงโทษได้ถ้าหากศาลเชื่อคำเบิกความเท็จของจำเลย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเบิกความเท็จ: ผู้ครอบครองทรัพย์มีสิทธิฟ้องหากได้รับความเสียหายจากการเบิกความเท็จในคดีแพ่ง
กรณีที่ถือว่าเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเบิกความเท็จ: ผู้ครอบครองทรัพย์สินมีสิทธิฟ้อง หากการเบิกความเท็จทำให้เสียสิทธิครอบครอง
กรณีที่ถือว่า เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อสำคัญของคำเบิกความเท็จในคดีอาญา: ศาลล่างวินิจฉัยแล้วฎีกาไม่รับ
การที่จะวินิจฉัยว่าถ้อยคำที่เบิกความเท็จจะเป็นข้อสำคัญหรือไม่นั้น ย่อมต้องพิจารณาประเด็นในคดีที่ผู้นั้นเบิกความประกอบเมื่อศาลล่าง 2 ศาลฟังว่าข้อความที่ผู้นั้นเบิกความเท็จไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแล้ว การเป็นข้อสำคัญหรือไม่สำคัญย่อมเป็นข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จ ข้อสำคัญในคดี: ศาลล่างวินิจฉัยแล้ว โจทก์ฎีกาไม่ได้ยกเหตุผลให้ฟัง
การที่จะวินิจฉัยว่าถ้อยคำที่เบิกความเท็จจะเป็นข้อสำคัญหรือไม่นั้น ย่อมต้องพิจารณาประเด็นในคดีที่ผู้นั้นเบิกความประกอบ เมื่อศาลล่าง 2 ศาลฟังว่าข้อความที่ผู้นั้นเบิกความเท็จไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแล้ว การเป็นข้อสำคัญหรือไม่สำคัญ ย่อมเป็นข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จ: โจทก์ต้องพิสูจน์ราคาซื้อขายจริงตามฟ้อง ไม่เพียงแค่หลักฐานในเอกสาร
คดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ ฟ้องตอนท้ายกล่าวว่า "ซึ่งความจริงจำเลยซื้อม้าดังกล่าวมาจากนายพานราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น หาใช่ราคา 600 บาทดังจำเลยเบิกความไม่" เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ความจริงจำเลยซื้อม้าราคา 200 บาทดังฟ้อง แต่โจทก์นำสืบเพียงว่าในต้นขั้วตั๋วพิมพ์รูปพรรณม้า ลงไว้ว่า ซื้อขายกันราคา 200 บาท เพียงเท่านี้ ยังลงโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเรื่องราคาซื้อขายม้า โจทก์ต้องพิสูจน์ราคาที่แท้จริง ไม่ใช่แค่หลักฐานการทำธุรกรรม
คดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ ฟ้องตอนท้ายกล่าวว่า'ซึ่งความจริงจำเลยซื้อม้าดังกล่าวมาจากนายพานราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น หาใช่ราคา 600 บาท ดังจำเลยเบิกความไม่' เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ความจริงจำเลยซื้อม้าราคา 200 บาท ดังฟ้อง แต่โจทก์นำสืบเพียงว่าในต้นขั้วตั๋วพิมพ์รูปพรรณม้า ลงไว้ว่า ซื้อขายกันราคา 200 บาท เพียงเท่านี้ยังลงโทษจำเลย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และเหตุผลของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ของ ฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ.จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดใดคดีก่อนแล้วว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากคดีก่อน และความน่าเชื่อถือของเหตุผลในการเบิกความ
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่าโจทก์ยักยอกทรัพย์ของฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ. จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนแล้วว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด