คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบี้ยปรับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 673 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1340/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญา: กรณีผู้รับจ้างไม่เริ่มงานตามสัญญา
สัญญากำหนดว่า หากผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา และผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญา ผู้รับจ้างจะจ่ายค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นจำนวนเงินวันละ 23,706.54 บาท สำหรับความล่าช้านับแต่วันกำหนดแล้วเสร็จตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายให้จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จจริง หมายความว่าผู้รับจ้างต้องจ่ายค่าปรับเพราะเหตุส่งมอบงานล่าช้านับแต่วันที่กำหนดทำงานแล้วเสร็จตามสัญญา จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จจริงกรณีหนึ่งกับสำหรับความล่าช้านับแต่วันที่ผู้ว่าจ้างขยายให้จนถึงวันที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จอีกกรณีหนึ่ง เมื่อผู้รับจ้างมิได้เข้าทำงานตามที่ได้ทำสัญญาไว้เลย จึงไม่มีวันที่ผู้รับ-จ้างทำงานแล้วเสร็จหลังจากวันที่ครบกำหนดสัญญาได้ ผู้ว่าจ้างจึงไม่อาจเรียกเบี้ยปรับเป็นรายวันตามข้อสัญญาดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1340/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาจ้างก่อสร้าง: การคิดค่าปรับเมื่อผู้รับจ้างไม่เริ่มงานตามสัญญา
สัญญากำหนดว่า หากผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา และผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญาผู้รับจ้างจะจ่ายค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นจำนวนเงินวันละ23,706.54 บาท สำหรับความล่าช้านับแต่วันกำหนดแล้วเสร็จตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายให้จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จจริงหมายความว่าผู้รับจ้างต้องจ่ายค่าปรับเพราะเหตุส่งมอบงานล่าช้านับแต่วันที่กำหนดทำงานแล้วเสร็จตามสัญญา จนถึงวันทำงานแล้วเสร็จจริงกรณีหนึ่งกับสำหรับความล่าช้านับแต่วันที่ผู้ว่าจ้างขยายให้จนถึงวันที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จอีกกรณีหนึ่ง เมื่อผู้รับจ้างมิได้เข้าทำงานตามที่ได้ทำสัญญาไว้เลย จึงไม่มีวันที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จหลังจากวันที่ครบกำหนดสัญญาได้ ผู้ว่าจ้างจึงไม่อาจเรียกเบี้ยปรับเป็นรายวันตามข้อสัญญาดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาก่อสร้าง: ศาลมีอำนาจลดเบี้ยปรับหากสูงเกินส่วน โดยอ้างอิงความเสียหายที่แท้จริง
ตามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารระหว่างโจทก์จำเลยระบุว่า จำเลยต้องทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 300 วันถ้าเกินกำหนดจำเลยต้องเสียค่าปรับให้แก่โจทก์วันละ2,640 บาท แต่ค่าปรับดังกล่าวคือค่าเสียหายที่โจทก์จำเลยตกลงกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์เมื่อปฏิบัติผิดสัญญา จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับแม้มีข้อตกลงกันไว้แต่ก็มิได้บังคับโดยเด็ดขาดว่าจำนวนเบี้ยปรับจะต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับสูงเกินส่วน ศาลชอบที่จะยกบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องลดเบี้ยปรับมาใช้บังคับแก่คดีโดยลดเบี้ยปรับลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ อันเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4925/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับผิดสัญญาประกันตัวสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดได้ตามกฎหมาย
จำเลยทำสัญญาประกันตัว อ.ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนไปจากพนักงานสอบสวน โดยตอนแรกพนักงานสอบสวนได้กำหนดค่าปรับกรณีผิดสัญญาประกันไว้เป็นเงิน 150,000 บาท และคดีนั้นผู้เสียหายกับพวกเท่าที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนไปแล้วได้รับความเสียหายเป็นเงิน164,000 บาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือไม่ปรากฏว่าได้รับความเสียหายเท่าใดการที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนกำหนดค่าปรับเมื่อผิดสัญญาเป็นเงิน 328,000 บาทเมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งคดีประกอบทางได้เสียหายของโจทก์แล้ว เป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4925/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดเบี้ยปรับในสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ศาลมีอำนาจลดค่าปรับที่สูงเกินส่วนโดยคำนึงถึงความเสียหายที่แท้จริง
จำเลยทำสัญญาประกันตัว อ. ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนไปจากพนักงานสอบสวน โดยตอนแรกพนักงานสอบสวนได้กำหนดค่าปรับกรณีผิดสัญญาประกันไว้เป็นเงิน150,000 บาท และคดีนั้นผู้เสียหายกับพวกเท่าที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนไปแล้วได้รับความเสียหายเป็นเงิน 164,000บาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือไม่ปรากฎว่าได้รับความเสียหายเท่าใดการที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนกำหนดค่าปรับเมื่อผิดสัญญาเป็นเงิน 328,000 บาท เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งคดีประกอบทางได้เสียหายของโจทก์แล้ว เป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4713/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญา: ศาลมีอำนาจลดจำนวนได้ตามความเหมาะสม
เงินค่าปรับตามที่กำหนดไว้ในสัญญาถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับเพื่อการที่จะชดใช้บรรเทาความเสียหายอันอาจจะมีหรือเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เป็นความพอใจแก่ฝ่ายที่มิได้ผิดสัญญา ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนค่าปรับหรือเบี้ยปรับตามสัญญานั้นลงได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4713/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: ศาลมีอำนาจลดได้ตามความเหมาะสมแห่งกรณี
เงินค่าปรับตามที่กำหนดไว้ในสัญญาถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับเพื่อการที่จะชดใช้บรรเทาความเสียหายอันอาจจะมีหรือเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เป็นความพอใจแก่ฝ่ายที่มิได้ผิดสัญญา ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนค่าปรับหรือเบี้ยปรับตามสัญญานั้นลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4194/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาจ้างแรงงานสูงเกินไป ศาลมีอำนาจลดลงได้
สัญญาจ้างแรงงาน โจทก์ตกลงให้จำเลยที่ 1 เรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วโจทก์จะส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยโจทก์ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและค่าใช้จ่ายในการไปฝึกงานให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งตามสัญญากำหนดว่าเมื่อผ่านการฝึกงานแล้วจำเลยที่ 1 ต้องกลับมาเข้าทำงานที่โรงงานของโจทก์หรือที่อื่นตามแต่โจทก์จะกำหนด หากจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาหรือกลับจากฝึกงานแล้วไม่ประสงค์จะเข้าทำงานตามที่โจทก์กำหนดหรือเข้าทำงานกับโจทก์แต่ทำงานไม่ครบ 6 ปี หรือกระทำผิดต่อโจทก์อย่างร้ายแรงจนถูกเลิกจ้างหรือเพราะเหตุอื่นใดอันมิใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยที่ 1ตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 900,000 บาท ถือได้ว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับ เมื่อสูงเกินไปศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4157/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาเกินส่วน: ศาลลดเบี้ยปรับเมื่อโจทก์ล่าช้าในการดำเนินงานหลังจำเลยทิ้งงาน
โจทก์ทำสัญญาจ้างจำเลยก่อสร้างสนามกีฬาและรั้วโรงเรียนจำเลยก่อสร้างงานงวดที่ 2 แล้วทิ้งงานไป โจทก์บอกเลิกสัญญาจ้างและดำเนินการจ้างบุคคลอื่นทำงานนั้นต่อมา แต่กระบวนการบอกเลิกสัญญาจนถึงอนุมัติการจ้างงานงวดที่ 2 นั้นล่าช้ามาก เป็นเวลาถึง 746 วันเงินค่าปรับ 596,800 บาท ทั้งที่ราคาก่อสร้างงานตามสัญญาจ้างทั้งหมดเพียง 358,400 บาท และจำเลยก็ได้ทำงานก่อสร้างงานงวดที่ 1ให้แก่โจทก์แล้วคิดตามราคาคำนวณเป็นงานประมาณร้อยละ 44 ยังคงเหลืองานอีกเพียงร้อยละ 56 เบี้ยปรับที่โจทก์เรียกร้องมาจึงสูงเกินส่วนศาลย่อมลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4138/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับกับการบอกเลิกสัญญา: สิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับรายวันย่อมสิ้นสุดลงเมื่อมีการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา
สัญญาซื้อขายข้อ 9 ระบุว่า "ข้อ 9 เบี้ยปรับสำหรับการส่งของล่าช้า หากผู้ขายมิได้ส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อได้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาส่งมอบตามที่ระบุไว้ในสัญญา ไม่ว่าความล่าช้านั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุใดก็ตาม... ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นเงินวันละเศษ 1 ส่วน 5 ของหนึ่งส่วนร้อย (0.2%) ต่อวัน หรือส่วนของวันของราคาตามสัญญาของหน่วยสำเร็จแต่ละหน่วยที่ส่งมอบไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ จนกว่าผู้ขายได้ส่งมอบของให้ได้ครบถ้วนตามสัญญา..." และข้อ 11 กำหนดว่า หากผู้ขายละเลยการปฏิบัติอย่างใด ๆ ตามข้อตกลงในสัญญา ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและผู้ขายจะต้องรับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะเหตุทำผิดสัญญา นอกจากนี้ ผู้ซื้อยังจะได้รับค่าชดเชยจากเอกสารค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ซื้อถืออยู่ด้วย ดังนี้ ตามสัญญาข้อ 9 เป็นการกำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบของแก่ผู้ซื้อให้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาตามสัญญาและผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญากับยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายมาส่งมอบต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับรายวันจากผู้ขายตามสัญญาข้อ 9 ได้ นับแต่วันครบกำหนดส่งมอบจนถึงวันที่ส่งมอบของแก่ผู้ซื้อครบถ้วนตามสัญญา
จำเลยที่ 1 ผู้ขายไม่ส่งมอบของแก่โจทก์ผู้ซื้อเลย และโจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาตามสัญญาซื้อขายข้อ 11 ไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับรายวันจากจำเลยที่ 1 ตามสัญญาซื้อขายข้อ 9 ได้อีก
of 68