คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลิกสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 598 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3850/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนร่วมก่อสร้าง สัญญาเดิมยังไม่เลิก โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหุ้นส่วนก่อนเลิกสัญญา
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองหาว่าร่วมกันฉีกสัญญาก่อสร้างทิ้ง ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ ศาลมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องจำเลยที่ 1 ครั้นพิจารณาแล้วลงโทษจำเลยที่ 2 ดังนี้โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองเป็นคดีแพ่งข้อเท็จจริงในคดีอาญาคงผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 2 ไม่ผูกพันถึงจำเลยที่ 1 ด้วย ศาลในคดีแพ่งจึงฟังว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนร่วมรู้เห็นกับจำเลยที่ 2 ในการที่จำเลยที่ 2 ฉีกสัญญาอันเป็นการร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ได้
โจทก์และจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนร่วมกันทำการก่อสร้างตึกแถวยกกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของที่ดินการที่จำเลยที่ 2 ฉีกสัญญาก่อสร้างที่โจทก์และจำเลยที่2 ทำไว้ต่อจำเลยที่ 1 ไม่เป็นเหตุให้สัญญาก่อสร้างระงับส่วนการที่จำเลยที่ 2 ทำสัญญาก่อสร้างฉบับใหม่กับจำเลยที่ 1 ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำในนามของหุ้นส่วนเดิม เท่ากับทำแทนโจทก์นั่นเอง โจทก์ฟ้องคดีนี้เรียกเงินที่โจทก์นำมาลงหุ้น รวมทั้งผลกำไรจากการที่โจทก์และจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนกัน จึงฟ้องเรียกจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้ และกรณีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2นั้น โจทก์ชอบที่จะจัดการให้มีการเลิกหุ้นส่วนและชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1055 ถึง 1063เสียก่อน เมื่อโจทก์ยังมิได้ปฏิบัติดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ข้อนี้แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5) ประกอบด้วยมาตรา 246 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจากการเลิกสัญญาจ้างเหมา: การยึดทรัพย์ของผู้รับเหมาที่ไม่สมบูรณ์
การร้องขัดทรัพย์เป็นการกล่าวอ้างว่าทรัพย์สินที่ยึดมิใช่ของจำเลยแต่เป็นของผู้ร้อง ในคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องก็ได้กล่าวไว้ชัดแล้วว่าบรรดาทรัพย์สินสิ่งก่อสร้างสัมภาระและอุปกรณ์ที่โจทก์นำยึดมิใช่กรรมสิทธิ์ของจำเลย แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ส่วนข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์เหล่านั้นตกเป็นของผู้ร้องตามสัญญาจ้างทำของเป็นรายละเอียด หาจำต้องกล่าวมาในคำร้องขัดทรัพย์ไม่
ตามสัญญาจ้างเหมาทำการก่อสร้างระหว่างผู้ร้องกับจำเลยระบุให้ผู้ร้องมีสิทธิเลิกสัญญาในกรณีที่มีเหตุให้ผู้ร้องเห็นว่าจำเลยไม่สามารถจะทำงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาและจำเลยยอมให้สิ่งก่อสร้าง สัมภาระและอุปกรณ์ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง เมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา จนผู้ร้องได้บอกเลิกสัญญาและแต่งตั้งคณะกรรมการทำการริบสิ่งก่อสร้าง สัมภาระและอุปกรณ์ลงบัญชีเป็นของผู้ร้องไปแล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าวจึงตกเป็นของผู้ร้องก่อนที่โจทก์จะไปทำการยึดโดยไม่ต้องมีการส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อเลิกแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อเรียกร้องค่าเสียหายได้เฉพาะค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ และค่าเสียหายอื่นนอกเหนือจากการใช้งาน
เมื่อสัญญาเช่าซื้อรถยนต์เลิกกันแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อที่ยังค้างอยู่อีกไม่ได้ คงเรียกได้เฉพาะค่าเสียหายอันเนื่องจากการผิดสัญญาได้แก่ค่าขาดประโยชน์เพราะผู้เช่าซื้อยังใช้รถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถยนต์อยู่ในกรณีที่ได้รถยนต์คืนมาแล้วผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิได้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่นอกเหนือไปจากความเสียหายอันเกิดแต่การใช้รถยนต์โดยชอบ แต่จะเรียกร้องให้ชดใช้ราคารถยนต์มิได้
การที่ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องเรียกให้ผู้เช่าซื้อใช้ราคารถส่วนที่ขาดอยู่ถือไม่ได้ว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายในการใช้รถตลอดเวลาที่ผู้เช่าซื้อยังคงครอบครองอยู่
การเรียกค่าเสียหายจากการใช้รถบุบสลายมีอายุความ 6 เดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 563
จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อเลิกแล้ว: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจำกัดเฉพาะค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถและค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายอื่น
เมื่อสัญญาเช่าซื้อรถยนต์เลิกกันแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อที่ยังค้างอยู่อีกไม่ได้ คงเรียกได้เฉพาะค่าเสียหายอันเนื่องจากการผิดสัญญาได้แก่ค่าขาดประโยชน์เพราะผู้เช่าซื้อยังใช้รถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถยนต์อยู่ในกรณีที่ได้รถยนต์คืนมาแล้วผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิได้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่นอกเหนือไปจากความเสียหายอันเกิดแต่การใช้รถยนต์โดยชอบ แต่จะเรียกร้องให้ชดใช้ราคารถยนต์มิได้
การที่ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องเรียกให้ผู้เช่าซื้อใช้ราคารถส่วนที่ขาดอยู่ถือไม่ได้ว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายในการใช้รถตลอดเวลาที่ผู้เช่าซื้อยังคงครอบครองอยู่
การเรียกค่าเสียหายจากการใช้รถบุบสลายมีอายุความ 6 เดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 563
จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาก่อสร้าง, ค่าเสียหายจากการผิดสัญญา, และการคืนเงินภาษีการค้าที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
โจทก์ทำสัญญาจ้างจำเลยทำเฟอร์นิเจอร์ ต่อมาเกิดเพลิงไหม้โรงงานของจำเลย จำเลยจึงมีหนังสือถึงโจทก์ขอทำเฟอร์นิเจอร์เพียงบางรายการและขอต่ออายุสัญญาออกไป โจทก์เรียกจำเลยและผู้รับจ้างรายอื่นมาประชุมแล้วตกลงให้จำเลยทำงานตามที่ขอและให้ผู้รับจ้างรายอื่นทำงานส่วนที่จำเลยขอไม่ทำ เมื่อจำเลยทำงานเสร็จโจทก์ก็ยอมรับมอบแต่โดยดี พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือได้ว่าโจทก์ จำเลย ตกลงเลิกสัญญาฉบับเดิมแล้ว
ค่าจ้างทนายความให้ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ผิดสัญญา มิใช่ค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากผลที่จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาว่าจ้างระหว่างโจทก์จำเลยโดยตรงแต่ประการใด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้
จำเลยรับจ้างทำเฟอร์นิเจอร์ให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จำเลยจึงไม่ต้องชำระภาษีการค้าในส่วนนี้ให้แก่ทางราชการ แต่ต้องใช้ให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงเลิกสัญญาและการชำระหนี้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการคืนเงินภาษีการค้าที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
โจทก์ทำสัญญาจ้างจำเลยทำเฟอร์นิเจอร์ ต่อมาเกิดเพลิงไหม้โรงงานของจำเลย จำเลยจึงมีหนังสือถึงโจทก์ขอทำเฟอร์นิเจอร์เพียงบางรายการและขอต่ออายุสัญญาออกไป โจทก์เรียกจำเลยและผู้รับจ้างรายอื่นมาประชุมแล้วตกลงให้จำเลยทำงานตามที่ขอและให้ผู้รับจ้างรายอื่นทำงานส่วนที่จำเลยขอไม่ทำ เมื่อจำเลยทำงานเสร็จโจทก์ก็ยอมรับมอบแต่โดยดี พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือได้ว่าโจทก์จำเลย ตกลงเลิกสัญญาฉบับเดิมแล้ว
ค่าจ้างทนายความให้ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ผิดสัญญา มิใช่ค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากผลที่จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาว่าจ้างระหว่างโจทก์จำเลยโดยตรงแต่ประการใด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้
จำเลยรับจ้างทำเฟอร์นิเจอร์ให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จำเลยจึงไม่ต้องชำระภาษีการค้าในส่วนนี้ให้แก่ทางราชการ แต่ต้องใช้ให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างแรงงาน: แม้ไม่มีงานทำนายจ้างก็ต้องจ่ายสินจ้างจนกว่าจะมีการเลิกสัญญา เหตุเพลิงไหม้ไม่ใช่เหตุขัดขวางการจ่าย
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยโจทก์ต้องทำงานให้แก่จำเลยและจำเลยต้องชำระสินจ้างให้แก่โจทก์ แม้จำเลยอาจไม่มอบงานหรือสั่งให้ โจทก์ทำงานจำเลยก็ต้องจ่ายสินจ้างให้ตลอดเวลาที่จ้างกันจนกว่า จะมีการเลิกสัญญาจ้าง การที่จำเลยหยุดกิจการเพื่อซ่อมแซมโรงงาน ที่ถูกเพลิงไหม้มิได้เป็นเหตุขัดขวางอย่างใดที่จะทำให้ถึงแก่จำเลย จ่าย สินจ้างไม่ได้เพราะยังไม่พ้นวิสัยที่จำเลยจะชำระหนี้จ่ายสินจ้างให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเลิกแล้ว คิดดอกเบี้ยธรรมดา, ผู้ค้ำประกัน/จำนองรับผิดเฉพาะวงเงินที่ระบุ
โจทก์ให้จำเลยกู้เบิกเงินเกินบัญชี จำเลยได้เบิกเงินเกินบัญชีและนำเงินเข้าบัญชีหลายครั้งเพื่อหักกลบลบหนี้กัน ดังนี้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีลักษณะเป็นสัญญาบัญชีเดินสะพัด
การที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยนำเงินส่งเข้าบัญชีเพื่อลดยอดเงินที่เบิกเกินบัญชีทั้งหมดภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันรับหนังสือ มิฉะนั้นโจทก์จะดำเนินคดีแก่จำเลย เช่นนี้ เป็นการบอกเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดโดยมีผลให้สัญญาเลิกกันเมื่อครบกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันรับหนังสือแล้ว หลังจากสัญญาเลิกกันแล้วธนาคารโจทก์จะคิดดอกเบี้ยทบต้นอีกไม่ได้ คงคิดดอกเบี้ยโดยวิธีธรรมดาได้เท่านั้น
จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่1ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้แก่โจทก์ในวงเงินสองแสนบาท ในสัญญาค้ำประกันข้อ 6 ระบุไว้ว่า จำเลยที่ 2 จะจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 94029 เป็นประกัน แล้วต่อมาจำเลยที่ 2 ก็ทำสัญญาจำนองที่ดินโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์โดยระบุในสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองว่าเพื่อประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ที่เป็นหนี้โจทก์จำนวนเงินไม่เกินสองแสน บาท ดังนี้ทั้งสัญญาค้ำประกันและสัญญาจำนองต่างเป็นประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ 1 ในวงเงินสองแสนบาทรายเดียวกัน หาใช่จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดเป็นผู้ค้ำประกันฐานะหนึ่ง และต้องรับผิดตามสัญญาจำนองอีกฐานะหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับสัญญาซื้อขาย: คิดจากสิ่งที่ค้างส่ง ไม่ใช่ทั้งชุด แม้มีข้อตกลงเป็นชุด, ต้องมีการเลิกสัญญาก่อน
สัญญามีข้อความว่า ถ้าผู้ขายไม่นำสิ่งของมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อให้เป็นการถูกต้องภายในกำหนดตามสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นจำนวนเงินร้อยละห้าของราคาของที่ยังไม่ได้ส่งถ้าผู้ขายผิดสัญญาและได้มีการบอกเลิกสัญญาผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อปรับอีกเป็นเงินร้อยละห้าของราคาสิ่งของทั้งหมดในสัญญา หรือตามราคาสิ่งของที่ยังขาดส่งอยู่ดังนี้ โจทก์ผู้ซื้อจะมีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยผู้ขายอีกร้อยละห้าของราคาทั้งหมดได้ต่อเมื่อจำเลยผิดสัญญาและมีการเลิกสัญญากันเท่านั้น แต่เมื่อโจทก์มิได้บอกเลิกสัญญาและยังรับของที่จำเลยขายไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับเพิ่มในอัตราร้อยละห้าจากราคาของทั้งหมดอีกคงมีสิทธิเรียกได้เพียงร้อยละห้าจากราคาของที่ยังค้างส่ง และต้องคิดเฉพาะชิ้นส่วนที่ยังค้างส่งเท่านั้น ไม่ใช่คิดเป็นชุด เพราะตามสัญญาไม่ได้ระบุ ว่าถ้าเครื่องโทรพิมพ์ชุดใดขาดส่งเพียงบางชิ้นส่วนให้ถือว่าขาดส่งทั้งชุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาเช่าซื้อและการเรียกร้องค่าเสียหายจากการใช้รถยนต์หลังเลิกสัญญา
จำเลยเช่าซื่อรถยนต์จากโจทก์ กำหนดชำระค่าเช่าซื้อ 19 งวด จำเลยผิดนัดชำระตั้งแต่งวดที่ 10 เป็นต้นมาเกิน 2 งวดติดต่อกัน ซึ่งตามสัญญาเช่าซื่อให้ถือว่าสัญญาเป็นอันเลิกกันตั้งแต่วันผิดนัด เมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิริบเงินค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้วทั้งหมด กับมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ผู้เช่าซื้อได้ใช้รถยนต์ของโจทก์ตลอดระยะเวลาที่ผู้ซื้อครอบครองรถยนต์ดังกล่าวอยู่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2511)
of 60