พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จเรื่องถูกปล้นเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้พนัน: พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเท็จ
โจทก์กล่าวฟ้องจำเลยในข้อหา 2 ข้อ คือเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบและเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าถูกปล้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเพทุบายว่าถูกปล้น เพื่อไม่ต้องใช้เงินแก่ลูกค้านั้น จะอาศัยพยานโจทก์ที่ให้ความเห็นและข้อสันนิษฐานว่าจำเลยไม่ถูกปล้นมาวินิจฉัยฟังเอาว่าความที่จำเลยนำมาแจ้งนั้นเป็นความเท็จยังไม่ได้และจะอนุมาณเอาจากการที่ว่าจำเลยไม่ต้องการจ่ายเงินให้ลูกค้าก็ยังไม่ได้ ในเมื่อข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นเจ้ามือนั้นฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งความเท็จและการจับกุม – ไม่เป็นความผิดทางอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานละเมิด โดยอ้างว่าจำเลยให้คนไปแจ้งความว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนจับกุมคุมขังโจทก์ไว้สอบสวน ทั้งนี้โดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่เชื่อถ้อยคำของผู้มาบอก ดังนี้เป็นการฟ้องหาว่าละเมิดตามธรรมดา ไม่ใช่ละเมิดในมูลอันเป็นความผิดทางอาญา จึงมีอายุความฟ้องร้องเพียง 1 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งความเท็จและการจับกุม – ไม่เป็นความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำเลยฐานละเมิดโดยอ้างว่าจำเลยให้คนไปแจ้งความว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนจับกุมคุมขังโจทก์ไว้สอบสวน ทั้งนี้โดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่เชื่อถ้อยคำของผู้มาบอก ดังนี้ เป็นการฟ้องหาว่าละเมิดตามธรรมดา ไม่ใช่ละเมิดในมูลอันเป็นความผิดทางอาญา จึงมีอายุความฟ้องร้องเพียง 1 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการประทับฟ้องและการลงโทษตามบทแจ้งความเท็จ: มาตรา 118 และ 158
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 118,158,268,270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา 118 ขึ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายและฐานความผิด
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลย พนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน โจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการฉ้อโกงและการแจ้งความเท็จ อำนาจฟ้องของผู้ถูกหลอกลวง
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยพนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกันโจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแจ้งความเท็จ: การระบุเวลาไม่จำเป็นหากเข้าใจได้ตามบริบท
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการร้องขอโอนทะเบียนรับมรดกที่ดินและเรื่องกล่าวถึงการจำนองที่ดินซึ่งจะต้องทำต่อเจ้าพนักงานที่ดินตามเวลาราชการนั้น แม้โจทก์จะบรรยายระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิดมิได้ระบุเวลากลางวันหรือกลางคืนด้วยก็ย่อมเข้าใจได้ว่า เวลาราชการของเจ้าพนักงานที่ดินตามปกติ ก็ต้องเป็นเวลากลางวัน จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาในเรื่องเวลาได้ดี ไม่มีทางให้เข้าใจผิดหลงฟ้องดังกล่าว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว (อ้างฎีกาที่868,869/2494,101/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จ/แจ้งความเท็จ: การกล่าวอ้างวันผิดพลาดไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า โจทก์กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษา ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 5 แต่ปรากฎว่าวันที่ 5 นั้นศาลปิด หยุดราชการ ดังนี้ เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษาให้จำเลยฟังจริง แต่เป็นวันอื่นไม่ใช่วันที่ 5 ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างวันผิดไป มิใช่มูลเหตุหรือสาระสำคัญแห่งเนื้อเรี่องที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จหรือแจ้งความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: หลักฐานแสดงความจริงทำให้จำเลยไม่มีความผิด แม้รับสารภาพ
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีอัตรโทษอย่างสูง จำคุกไม่ถึง 10 ปีนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้วก็ตาม ถ้าปราศจากหลักฐานพยานว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้น กลับเป็นข้อความจริงแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จพิสูจน์ได้ว่าข้อความจริง ศาลต้องยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูง จำคุกไม่ถึง 10 ปีนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้วก็ตาม ถ้าปรากฏจากพยานหลักฐานว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้น กลับเป็นข้อความจริงแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง