พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกตาม ป.พ.พ. บรรพ 6: สิทธิทายาทและขอบเขตการแบ่ง
การแบ่งทรัพย์มฤดก เมื่อเจ้ามฤดกตาย เมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 แล้ว ต้องแบ่งตามมาตรา 1635 และ 1636
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: สิทธิทายาทและการกันส่วนมรดก
การแบ่งทรัพย์มรดก เมื่อเจ้ามรดกตายเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 แล้ว ต้องแบ่งตาม มาตรา 1635 และ 1636
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนกรรมสิทธิในสัญญาเช่า: ผู้รับโอนมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ให้เช่าเดิม
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 มาตรา 16(6) ย่อมหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิจากผู้ให้เช่าเดิมด้วย
(อ้างฎีกา 845/2490)
(อ้างฎีกา 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า โดยผู้รับโอนมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ให้เช่าเดิม
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489มาตรา 16(6) ย่อมหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ให้เช่าเดิมด้วย(อ้างฎีกา 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการไม่ใช้สิทธิถอนการยึดทรัพย์หลังชนะคดี โจทก์ต้องรับผิดเอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี และจำเลยนำยึดทรัพย์ของโจทก์ไว้ ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้โจทก์ชะนะคดี โจทก์มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ได้ตามมาตรา 251 ป.วิ.แพ่ง.
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาล เมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตน ทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาล เมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตน ทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ใช้สิทธิถอนการยึดทรัพย์ทำให้เกิดความเสียหาย โจทก์ต้องรับผิดเอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี และจำเลยนำยึดทรัพย์ของโจทก์ไว้ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดีโจทก์มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ได้ตามมาตรา 251 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาลเมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตนทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาลเมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตนทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยการให้ แม้จดทะเบียนแล้ว ก็ไม่ตัดสิทธิครอบครองปรปักษ์
การรับโอนที่ดินโดยการยกให้ไม่มีค่าตอบแทน แม้จะได้แก้ทะเบียนทางเจ้าพนักงานที่ดินแล้ว ก็จะยกขึ้นยันแก่ผู้ที่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยทางครอบครองหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การบอกเลิกสัญญา และสิทธิในการครอบครอง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยอาศัยและได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยไม่ออก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นการเช่า ดังนี้แม้จะได้ความว่า จำเลยได้เช่าจากโจทก์ก็ดี เมื่อเป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกกล่าวล่วงหน้าครบกำหนดตาม ป.พ.พ.มาตรา 566 แล้ว ศาลก็พิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย: สิทธิในทรัพย์มฤดกและการแบ่งทรัพย์สิน
ทรัพย์สินของสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องถือ+กรรมสิทธิร่วม
โจทก์เป็นมารดารผู้ตาย+ขอแบ่งทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย เมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มฤดกของผู้ตาย ศาลย่อมให้จำเลยคืนทรัพย์มฤดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการ+ฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้ว โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยจะอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
โจทก์เป็นมารดารผู้ตาย+ขอแบ่งทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย เมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มฤดกของผู้ตาย ศาลย่อมให้จำเลยคืนทรัพย์มฤดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการ+ฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้ว โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยจะอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมต้องจดทะเบียน และสิทธิทายาทเมื่อมีข้อพิพาทเรื่องมรดก
บุตรบุญธรรมจะมีสิทธิรับมฤดกของผู้รับบุตรบุญธรรมได้ ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกัน ระหว่างโจทก์ ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมฤดกและโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วย ดังนี้ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้ และในคดีเช่นนี้ค่าฤาชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมฤดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท.
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกัน ระหว่างโจทก์ ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมฤดกและโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วย ดังนี้ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้ และในคดีเช่นนี้ค่าฤาชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมฤดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท.