คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3417/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการจดทะเบียนโอนที่ดินหลังคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ คุ้มครองกว่าสิทธิบังคับคดีของเจ้าหนี้เดิม
จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโอนที่พิพาท ให้ผู้ร้องเป็นการใช้หนี้เงินกู้และศาลพิพากษาให้เป็นไป ตามสัญญาประนีประนอมยอมความจนคดีถึงที่สุดแล้วแม้ จะยัง ไม่มีการแก้ทะเบียนโอนสิทธิครอบครองตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นชื่อผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 โจทก์จะบังคับคดียึดที่พิพาทเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 993/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3247/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารขอรังวัดที่ดิน ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เหตุไม่ระงับข้อพิพาท
เอกสารมีข้อความว่า โจทก์จำเลยต่างแสดงความประสงค์ จะขอให้ช่างแผนที่ของสำนักงานที่ดินออกไปรังวัดที่ดินของตนเพื่อให้ทราบเขตที่แน่นอนของโจทก์และจำเลยแต่ละฝ่ายดังนี้ ไม่มีลักษณะที่จะระงับข้อพิพาทของคู่กรณีโดยต่างฝ่ายยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2942/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่เป็นการให้โดยเสน่หา สิทธิเรียกคืนการให้ไม่มี
การที่โจทก์ให้ที่พิพาทแก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรเป็นการให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับภริยาซึ่งเป็นมารดาของจำเลยและต่อมาเมื่อโจทก์ไม่โอนที่พิพาทอีกสองแปลงตามคำพิพากษาตามยอมศาลก็พิพากษาให้โจทก์โอนใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของลักษณะการให้ของโจทก์ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หาโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกในคดีประนีประนอมยอมความ: สิทธิในการโต้แย้งและการดำเนินคดีใหม่
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้นำเอาสิทธิการทำเหมืองแร่มาจับสลากแบ่งปันกัน โจทก์เป็นฝ่ายจับสลากได้ศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว ดังนี้ ผู้ร้องจะร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการปฏิบัติของคู่ความตามสัญญาประนีประนอมยอมความและเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม โดยอ้างว่าสิทธิการทำเหมืองแร่พิพาทเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่ใช่ คู่ความในคดี ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความและ คำพิพากษาตามยอมไม่ ผูกพันผู้ร้อง หาได้ไม่ หากผู้ร้องเห็นว่าการกระทำใด ๆ ของคู่ความเป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องก็ชอบที่จะว่ากล่าวกันเป็นคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ระงับข้อพิพาทละเมิด สิทธิเรียกร้องสิ้นสุด
จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนรถยนต์โจทก์เสียหายโจทก์จำเลยได้ตกลงเกี่ยวกับค่าเสียหายซึ่งพนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้และโจทก์จำเลยได้ลงลายมือชื่อแล้วข้อตกลงมีความว่าจำเลยยินยอมซ่อมรถยนต์ของโจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิมและจำเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 400 บาท จนกว่าจะซ่อมรถยนต์เสร็จจึงเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทอันเกิดจากมูลละเมิดให้เสร็จไปถึงแม้จะกำหนดให้จำเลยจัดการซ่อมรถยนต์ของโจทก์แทนที่จะให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินโดยตรงก็เป็นการตกลงกันให้จำเลยชำระหนี้ด้วยการกระทำซึ่งอาจมีการบังคับชำระหนี้กันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา194,213
เมื่อข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความสิทธิเรียกร้องของโจทก์ในมูลละเมิดย่อมสิ้นไปชอบที่โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยในมูลละเมิดอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2248/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความระงับหนี้ละเมิด: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยให้อย่างเดียวกับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 อยู่แล้วว่ามูลหนี้ละเมิดระงับหรือไม่ แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
บันทึกที่สถานีตำรวจมีข้อตกลงว่า ฝ่ายจำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าเสียหายตามที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องทั้งสิ้นเป็นเงิน35,268.60 บาท คู่กรณีไม่ติดใจที่จะฟ้องร้องกันในทางแพ่ง อาญา ถ้าหากผิดสัญญาคู่กรณีจะฟ้องกันเองในทางแพ่ง ข้อตกลงนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ แล้วจำเลยที่ 2 และผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน จึงมีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับสิ้นไป โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสองตามมูลหนี้ละเมิดอีกไม่ได้ชอบที่จะฟ้องจำเลยที่ 2 ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน ยุติข้อพิพาท แม้จะมีข้อโต้แย้งเรื่องความผิดสัญญาหรือความเสียหาย
จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ก่อสร้างอาคารเรียน โจทก์ใช้เหล็กเส้นผิดขนาดจากที่กำหนดไว้ในแบบในการก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าว โจทก์จึงบันทึกข้อความไว้ว่ายอมให้จำเลยหักเงินเป็นค่าปรับตามจำนวนที่จำเลยกำหนดไว้ได้และจำเลยยินยอมให้โจทก์ดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยไม่ต้องรื้ออาคารที่ก่อสร้างไปแล้ว ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเบี้ยปรับที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 แต่เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยมาทำความตกลงระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งมีผลเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 จำเลยย่อมมีสิทธิหักเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ ปัญหาว่าโจทก์ผิดสัญญาหรือไม่หรือจำเลยเสียหายมากน้อยเพียงใด ย่อมเป็นอันยุติไปแล้วโดยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีเหตุที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีก
การที่โจทก์บันทึกไว้ว่ายินดีให้หักเงินจำนวน 119,412 บาทก่อนหมายความว่าโจทก์ยอมให้หักไว้ก่อนตามจำนวนดังกล่าว โดยโจทก์ยินดีรับไปเฉพาะส่วนที่เหลือจากหักแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความคดีล้มละลาย ศาลต้องมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก่อนพิพากษาล้มละลาย
คู่ความยอมความกันชำระหนี้ และว่าถ้าผิดนัดให้ศาลพิพากษาให้ล้มละลายตามฟ้อง ดังนี้ แม้จำเลยผิดนัด ศาลก็พิพากษาให้ล้มละลายทันทีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือประนีประนอมยอมความที่ไม่ได้รับมอบหมาย และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัยรถยนต์
บันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับ ป. มีลักษณะเป็นหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย เมื่อ ป.ไม่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากจำเลยให้ทำหนังสือประนีประนอมยอมความ จึงถือไม่ได้ว่า ป. กระทำการแทนจำเลย หนังสือประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์และจำเลยให้ต้องปฏิบัติตาม และจำเลยจะอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความขึ้นต่อสู้ปัดความรับผิดไม่ได้
โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้แล้ว แต่จำเลยไม่ยอมชำระ จึงถือได้ว่าจำเลยผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวนั้น โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224แม้จะปรากฏว่าโจทก์ได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์หลังฟ้องแล้วก็ไม่ตัดสิทธิที่จะฟ้องเรียกจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฟ้องเท็จเป็นคดีอาญาแผ่นดิน สัญญาประนีประนอมยอมความใช้ไม่ได้ ผู้ถูกฟ้องเป็นผู้เสียหายฟ้องได้
คดีความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175เป็นคดีอาญาแผ่นดิน มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ คดีอาญาที่จะระงับไปเพราะการยอมความนั้นมีได้เฉพาะแต่ความผิดต่อส่วนตัว ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 39(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นแม้โจทก์จำเลยจะได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกันไว้ก็ไม่ทำให้คดีซึ่งมีข้อหาดังกล่าวข้างต้นระงับไป
จำเลยนำความเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญา ถึงแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ผู้ถูกฟ้องย่อมได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยแล้ว โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย และคำฟ้องในคดีดังกล่าวนั้นถือได้ว่าเป็นฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานฟ้องเท็จ
คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิด และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
of 60