คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผูกพัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันผูกพันแม้ไม่ได้ทำกับเจ้าหนี้โดยตรง และไม่จำเป็นต้องมีสัญญาจะชำระหนี้เดิม
ป. เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ดังกล่าวนี้ แม้ตามสัญญานี้จะกำหนดให้ป. ชำระหนี้เป็นงวด ๆ ภายใน 2 ปี และ ป. มิได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ด้วย ก็เป็นสัญญาค้ำประกันซึ่งใช้บังคับจำเลยได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยแต่เพียงว่า ข้อความตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้องประกอบกับข้อเท็จจริงที่แถลงรับกันนั้น จำเลยจะต้องรับผิดตามฟ้องหรือไม่ ดังนี้ ถึงหากว่าต้นฉบับหนังสือสัญญานั้นจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็ไม่สำคัญ เพราะศาลไม่จำต้องนำมาใช้ในการวินิจฉัยคดีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันแม้ไม่ได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้โดยตรง และศาลไม่ต้องใช้ต้นฉบับสัญญา
ป. เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ดังกล่าวนี้ แม้ตามสัญญานี้จะกำหนดให้ ป. ชำระหนี้เป็นงวด ๆ ภายใน 2 ปี และ ป. มิได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ด้วย ก็เป็นสัญญาค้ำประกันซึ่งใช้บังคับจำเลยได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยแต่เพียงว่า ข้อความตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้องประกอบกับข้อเท็จจริงที่แถลงรับกันนั้น จำเลยจะต้องรับผิดตามฟ้องหรือไม่ ดังนี้ ถึงหากว่าต้นฉบับหนังสือสัญญานั้นจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็ไม่สำคัญเพราะศาลไม่จำต้องนำมาใช้ในการวินิจฉัยคดีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาทำสัญญาซื้อขายในฐานะเจ้าของที่ดิน แม้มิได้เป็นเจ้าของจริง ก็ผูกพันตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ โดยจำเลยมิได้แสดงออกว่าจำเลยทำในฐานะตัวแทนผู้ใด จำเลยกลับแสดงว่าจำเลยมีฐานะเป็นเจ้าของที่ดินเสียเองที่มีอำนาจจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ได้ ดังนี้ แม้โจทก์ได้รู้หรือควรจะรู้ว่าที่ดินรายนี้เป็นของ ป. และ ร. มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน โดยจำเลยมิได้เป็นเจ้าของที่แท้จริง จำเลยก็จะปัดความรับผิดของจำเลยให้ไปตกอยู่กับบุคคลทั้งสองไม่ได้ เพราะบุคคลทั้งสองไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องรู้เห็นอะไรด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: การลงนามในสัญญาโดยพนักงานย่อมผูกพันบริษัท, สัญญาชัดเจนคู่สัญญาทราบดี
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้งโดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์ เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์ มิใช่ทำเป็นส่วนตัว ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้วสัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมโดยปริยายและการฉ้อฉลเจ้าหนี้: ผลผูกพันต่อสินสมรสและการบังคับคดี
ผู้ร้องซึ่งเป็นสามีจำเลย รู้เห็นการกู้ยืมระหว่างโจทก์จำเลยและได้ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยขายบ้านพิพาทให้โจทก์เกี่ยวกับการที่จำเลยกู้ยืมจากโจทก์. ดังนี้ ถือเท่ากับว่าผู้ร้องอนุญาตให้จำเลยทำนิติกรรมกู้เงินโจทก์โดยปริยายแล้ว. นิติกรรมการกู้ที่จำเลยทำไว้ต่อโจทก์จึงผูกพันสินบริคณห์ระหว่างจำเลยและผู้ร้อง. ผู้ร้องไม่มีสิทธิบอกล้าง. การที่จำเลยร่วมมือกับผู้ร้องแกล้งจำหน่ายบ้านพิพาทให้ตกเป็นของผู้ร้องในการหย่ากันมิให้เป็นสินบริคณห์ต่อไป โดยรู้อยู่ว่าทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ. เป็นการฉ้อฉลโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 327. โจทก์มีสิทธินำยึดบ้านพิพาทมาดำเนินการบังคับคดีเอาชำระหนี้โจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการผู้จัดการทำสัญญา แม้ไม่มีตราบริษัท ก็ผูกพันบริษัทได้ หากทำในนามบริษัท และจำเลยไม่โต้แย้งอำนาจ
กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญาให้จำเลยเช่าซื้อรถยนต์โดยกรรมการผู้จัดการนั้นลงชื่อแทน แม้มิได้ประทับตราบริษัทซึ่งตามข้อบังคับที่จดทะเบียนไว้จะต้องประทับตราด้วยก็ถือได้ว่าบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย บริษัทโจทก์ย่อมเอาสัญญาเช่าซื้อที่กรรมการผู้จัดการทำกับจำเลยฟ้องจำเลยได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 992/2497)
บริษัทโจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำกับกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า กรรมการผู้จัดการไม่มีอำนาจทำสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัทโจทก์ศาลจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นชี้ขาดยกฟ้องมิได้เพราะเป็นเรื่องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาในคดีแพ่ง: ศาลต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานละเมิดทำเพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหาย ปรากฏว่าจำเลยเคยถูกฟ้องเป็นคดีอาญาฐานทำให้เพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหายมาแล้ว ศาลวินิจฉัยในคดีอาญาว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาสืบให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง แม้โจทก์จะส่งคำให้การชั้นสอบสวนของพยานสองปากซึ่งในชั้นสอบสวนให้การรู้เห็นการกระทำผิดของจำเลย แต่ในชั้นศาล โจทก์ก็ไม่ได้ตัวมาสืบศาลจึงไม่รับฟังคำให้การชั้นสอบสวน เพราะจำเลยไม่มีโอกาสซักค้าน นอกจากนี้พยานประกอบแวดล้อมของโจทก์รับฟังได้เพียงว่าไฟได้ไหม้สวนยางของผู้เสียหายเท่านั้น ผู้เสียหายว่าได้พบจำเลยในวันเกิดเหตุโดยจำเลยช่วยดับไฟด้วย จำเลยก็ว่าในวันเกิดเหตุจำเลยอยู่ที่บ้านผู้มีชื่อ เป็นการยันกันอยู่ พยานหลักฐานโจทก์จึงตกอยู่ในความสงสัยไม่แน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์ ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศางจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวซึ่งได้มีการสืบพยานโจทก์จำเลยและได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาหาได้ไม่
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาในคดีแพ่ง: ศาลแพ่งต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานละเมิดทำเพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหาย ปรากฏว่าจำเลยเคยถูกฟ้องเป็นคดีอาญาฐานทำให้เพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหายมาแล้วศาลวินิจฉัยในคดีอาญาว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาสืบ ให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง แม้โจทก์จะส่งคำให้การชั้นสอบสวนของพยานสองปากซึ่งในชั้นสอบสวนให้การรู้เห็นการกระทำผิดของจำเลย แต่ในชั้นศาล โจทก์ก็ไม่ได้ตัวมาสืบ ศาลจึงไม่รับฟังคำให้การชั้นสอบสวน เพราะจำเลยไม่มีโอกาสซักค้าน นอกจากนี้พยานประกอบแวดล้อมของโจทก์ก็รับฟังได้เพียงว่าไฟได้ไหม้สวนยางของผู้เสียหายเท่านั้น ผู้เสียหายว่าได้พบจำเลยในวันเกิดเหตุโดยจำเลยช่วยดับไฟด้วย จำเลยก็ว่าในวันเกิดเหตุจำเลยอยู่ที่บ้านผู้มีชื่อ เป็นการยันกันอยู่ พยานหลักฐานโจทก์จึงตกอยู่ในความสงสัยไม่แน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์ ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าว ซึ่งได้มีการสืบพยานโจทก์จำเลยและได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาหาได้ไม่ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาในคดีแพ่ง: ศาลแพ่งต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานละเมิดทำเพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหาย. ปรากฏว่าจำเลยเคยถูกฟ้องเป็นคดีอาญาฐานทำให้เพลิงไหม้ต้นยางพาราของโจทก์เสียหายมาแล้ว.ศาลวินิจฉัยในคดีอาญาว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาสืบ.ให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง. แม้โจทก์จะส่งคำให้การชั้นสอบสวนของพยานสองปากซึ่งในชั้นสอบสวนให้การรู้เห็นการกระทำผิดของจำเลย. แต่ในชั้นศาล โจทก์ก็ไม่ได้ตัวมาสืบ. ศาลจึงไม่รับฟังคำให้การชั้นสอบสวน. เพราะจำเลยไม่มีโอกาสซักค้าน. นอกจากนี้พยานประกอบแวดล้อมของโจทก์ก็รับฟังได้เพียงว่าไฟได้ไหม้สวนยางของผู้เสียหายเท่านั้น. ผู้เสียหายว่าได้พบจำเลยในวันเกิดเหตุโดยจำเลยช่วยดับไฟด้วย. จำเลยก็ว่าในวันเกิดเหตุจำเลยอยู่ที่บ้านผู้มีชื่อ เป็นการยันกันอยู่. พยานหลักฐานโจทก์จึงตกอยู่ในความสงสัยไม่แน่ใจ.ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้เป็นผลดีแก่จำเลย. พิพากษายกฟ้องโจทก์. ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าว.ซึ่งได้มีการสืบพยานโจทก์จำเลยและได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบ.ให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง. ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาหาได้ไม่. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาผูกพันคู่ความเดิม, ห้ามเปลี่ยนแปลงสิทธิในทรัพย์สินหลังมีคำพิพากษา
ที่ดินโฉนดที่ 4052,4053 ศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้แล้วว่าเป็นของห้างหุ้นส่วนสามัญฯ จำเลยเป็นคู่ความในคดีย่อมจะต้องผูกพันในผลแห่งคำพิพากษานั้นด้วย. ฉะนั้น จำเลยจะเอาเงินมาใช้แทนค่าหุ้นแล้วถอนเอาที่ดินคืนหาได้ไม่.
of 52