พบผลลัพธ์ทั้งหมด 823 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาที่ผิดพลาดในฟ้องไม่เป็นเหตุยกฟ้องหากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ และรายละเอียดวันเวลาไม่ใช่ข้อสารสำคัญ
วันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดเป็นเพียงรายละเอียดของฟ้องมิใช่ข้อสารสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)หากจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ก็มิใช่เหตุอันจะพึงยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การข่มขืนใจและบุกรุก: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงการกระทำและเจตนาของผู้กระทำ
ความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่นเมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงบรรยายมาว่า จำเลยคนใดทำให้โจทก์กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเสรีภาพของโจทก์อย่างไรบ้าง ศาลย่อมสั่งยกฟ้องในข้อหาความผิดฐานนี้ได้
ฟ้องหาว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำบุกรุกอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 83 เมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่บรรยายว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ร่วมกระทำบุกรุกกับจำเลยที่ 1 หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำของจำเลยที่ 1 อย่างไรศาลย่อมสั่งยกฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในข้อหานี้ไปเสียได้เช่นกัน
ฟ้องหาว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำบุกรุกอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 83 เมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่บรรยายว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ร่วมกระทำบุกรุกกับจำเลยที่ 1 หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำของจำเลยที่ 1 อย่างไรศาลย่อมสั่งยกฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในข้อหานี้ไปเสียได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามชิงทรัพย์: ศาลลงโทษได้แม้ฟ้องขอเป็นความผิดสำเร็จ
จำเลยชิงทรัพย์โดยกระชากสร้อยซึ่งสวมอยู่ที่คอของผู้เสียหายสร้อยขาดตกอยู่ในเสื้อของผู้เสียหาย จำเลยจึงเอาสร้อยนั้นไปไม่ได้เป็นการที่จำเลยลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่ยังไม่อาจยึดถือเอาทรัพย์นั้นไปได้สำเร็จ เป็นผิดเพียงพยายามชิงทรัพย์
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์อันเป็นความผิดสำเร็จ ได้ความตามทางพิจารณาว่าเป็นพยายาม ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์ได้ เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง และไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 การนำเอามาตรา 80 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาประกอบการลงโทษจำเลยเป็นเพียงวิธีการแบ่งส่วนโทษตามความผิดของจำเลยเท่านั้น
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์อันเป็นความผิดสำเร็จ ได้ความตามทางพิจารณาว่าเป็นพยายาม ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์ได้ เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง และไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 การนำเอามาตรา 80 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาประกอบการลงโทษจำเลยเป็นเพียงวิธีการแบ่งส่วนโทษตามความผิดของจำเลยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้ ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่. ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง. และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้. ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงและการออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี จำเลยรับสารภาพ ฟ้องบรรยายครบถ้วน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงซึ่งควรต้องบอกให้แจ้งว่า จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ซึ่งความจริงในวันออกเช็คก็ดี วันสั่งจ่ายเงินตามเช็คก็ดี เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีพอจ่าย ทั้งธนาคารก็ได้ปิดบัญชีจำเลยแล้ว การหลอกลวงของจำเลยดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงได้มอบเงินให้จำเลยไป ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไว้ครบถ้วนแล้ว เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง คดีจึงเป็นอันฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องทั้งสองฐาน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและเช็คเด้ง จำเลยรับสารภาพ ฟ้องบรรยายครบถ้วน ศาลฎีกาเห็นพ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงซึ่งควรต้องบอกให้แจ้งว่า จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ซึ่งความจริงในวันออกเช็คก็ดีวันสั่งจ่ายเงินตามเช็คก็ดี เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีพอจ่าย ทั้งธนาคารก็ได้ปิดบัญชีจำเลยแล้ว การหลอกลวงของจำเลยดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้มอบเงินให้จำเลยไปดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไว้ครบถ้วนแล้วเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง คดีจึงเป็นอันฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องทั้งสองฐาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีลักทรัพย์โดยไม่ระบุชื่อเจ้าของทรัพย์ ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่จำเลยรับสารภาพได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจอาศัยโอกาสที่มีเพลิงไหม้ลักกระปุกอัดจารบีโรงสีเล็ก 1 อัน ราคา 80 บาท ของผู้ขนย้ายสิ่งของหนีไป โดยทุจริต ดังนี้ พอที่จะเข้าใจได้ว่าทรัพย์เป็นของคนใดคนหนึ่งในพวกขนของหนีไฟ แล้วจำเลยบังอาจลักเอาไป เท่ากับฟ้องระบุตัวเจ้าทรัพย์ไว้พอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วว่าได้ลักของกลางของผู้ขนของหนีไฟ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษไปได้ตามข้อเท็จจริงที่จำเลยรับสารภาพนั้น ศาลจะยกเอาข้อสงสัยว่า ที่จำเลยรับอาจไม่ใช่ความจริง มาเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่
เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วว่าได้ลักของกลางของผู้ขนของหนีไฟ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษไปได้ตามข้อเท็จจริงที่จำเลยรับสารภาพนั้น ศาลจะยกเอาข้อสงสัยว่า ที่จำเลยรับอาจไม่ใช่ความจริง มาเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีลักทรัพย์: การระบุตัวเจ้าของทรัพย์และการรับสารภาพของจำเลย
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจอาศัยโอกาสที่มีเพลิงไหม้ลักกระปุกอัดจารบีโรงสีเล็ก 1 อัน ราคา 80 บาท ของผู้ขนย้ายสิ่งของหนีไป โดยทุจริต. ดังนี้ พอที่จะเข้าใจได้ว่าทรัพย์เป็นของคนใดคนหนึ่งในพวกขนของหนีไฟ แล้วจำเลยบังอาจลักเอาไป. เท่ากับฟ้องระบุตัวเจ้าทรัพย์ไว้พอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้. ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วว่าได้ลักของกลางของผู้ขนของหนีไฟ. ศาลย่อมพิพากษาลงโทษไปได้ตามข้อเท็จจริงที่จำเลยรับสารภาพนั้น. ศาลจะยกเอาข้อสงสัยว่า ที่จำเลยรับอาจไม่ใช่ความจริง.มาเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่.
เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วว่าได้ลักของกลางของผู้ขนของหนีไฟ. ศาลย่อมพิพากษาลงโทษไปได้ตามข้อเท็จจริงที่จำเลยรับสารภาพนั้น. ศาลจะยกเอาข้อสงสัยว่า ที่จำเลยรับอาจไม่ใช่ความจริง.มาเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1292-1293/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจลายมือเอกสาร, การแก้ไขฟ้อง, บัญชีทรัพย์มรดก, และการรับฟังรายงานผู้เชี่ยวชาญ
การส่งเอกสารไปให้ผู้เชียวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจพิสูจน์ลายมือนั้น เมื่อผู้เชียวชาญคนใดของกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจพิสูจน์ได้ผลประการใดและทำรายงานความเห็นส่งมายังศาลแล้ว ก็เป็นการเพียงพอสำหรับปัญหาที่โต้เถียงกัน ไม่จำต้องส่งไปให้ตรวจพิสูจน์ใหม่ เพราะเป็นการเพียงพอสำหรับปัญหาที่โต้เถียงกัน ไม่จำต้องส่งไปให้ตรวจพิสูจน์ใหม่ เพราะเป็นการตรวจพิสูจน์ซ้ำและไม่น่าจะมีผลเปลี่ยนแปลงจากเดิม
ผู้ตายกู้เงินโจทก์ไปหลายคราว แต่ทำสัญญากู้รวมกันให้โจทก์ไว้ฉบับเดียวตามที่โจทก์นำมาฟ้อง ดังนี้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่าผู้ตายกู้เงินโจทก์ไปกี่คราว คราวละเท่าใด ทำหนังสือกู้ลงวันเดือนปี เพียงแต่บรรยายฟ้องเกี่ยวกับสัญญากู้ฉบับที่นำมาฟ้องก็พอ
เมื่อศาลอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง ย่อมเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หากจำเลยจะอุทธรณ์คัดค้าน ต้องยื่นคำแถลงคัดค้านไว้
บัญชีทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1564 วรรค 1 ซึ่งนำมารใช้กับการจัดการมรดกตามมาตรา 1730 ย่อมหมายถึงบัญชีทรัพย์มรดกซึ่งได้จัดทำขึ้น โดยผู้จัดการมรดก ภายหลังที่ได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว หาได้หมายถึงบัญชีทรัพย์มรดกที่ทำยื่นพร้อมคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่
เมื่อคู่ความฝ่ายใดร้องขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเอกสารและศาลมีคำสั่งตั้งตามขอแล้ว ผู้เชี่ยวชาญนั้นจึงเป็นผู้เชียวชาญที่ศาลตั้ง ศาลย่อมรับฟังรายงานความเห็นของผู้เชียวชาญนั้นได้ โดยไม่ต้องเรียกให้มาสาบานหรือปฏิญาณรับรองรายงานนั้นอีก
ผู้ตายกู้เงินโจทก์ไปหลายคราว แต่ทำสัญญากู้รวมกันให้โจทก์ไว้ฉบับเดียวตามที่โจทก์นำมาฟ้อง ดังนี้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่าผู้ตายกู้เงินโจทก์ไปกี่คราว คราวละเท่าใด ทำหนังสือกู้ลงวันเดือนปี เพียงแต่บรรยายฟ้องเกี่ยวกับสัญญากู้ฉบับที่นำมาฟ้องก็พอ
เมื่อศาลอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง ย่อมเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หากจำเลยจะอุทธรณ์คัดค้าน ต้องยื่นคำแถลงคัดค้านไว้
บัญชีทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1564 วรรค 1 ซึ่งนำมารใช้กับการจัดการมรดกตามมาตรา 1730 ย่อมหมายถึงบัญชีทรัพย์มรดกซึ่งได้จัดทำขึ้น โดยผู้จัดการมรดก ภายหลังที่ได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว หาได้หมายถึงบัญชีทรัพย์มรดกที่ทำยื่นพร้อมคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่
เมื่อคู่ความฝ่ายใดร้องขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเอกสารและศาลมีคำสั่งตั้งตามขอแล้ว ผู้เชี่ยวชาญนั้นจึงเป็นผู้เชียวชาญที่ศาลตั้ง ศาลย่อมรับฟังรายงานความเห็นของผู้เชียวชาญนั้นได้ โดยไม่ต้องเรียกให้มาสาบานหรือปฏิญาณรับรองรายงานนั้นอีก