คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับสารภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 559 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพโดยไม่ถูกจูงใจ: พฤติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวงให้รับสารภาพ
การที่พนักงานสอบสวนรู้ว่าผู้ต้องหาปิดบังอาชีพและยศไว้โดยพนักงานสอบสวนมิได้ท้วงติงนั้นไม่ถือว่าเป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพโดยไม่ได้ถูกจูงใจ: พนักงานสอบสวนทราบข้อมูลเท็จของผู้ต้องหาแต่ไม่ทักท้วง ไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวง
การที่พนักงานสอบสวนรู้ว่าผู้ต้องหาปิดบังอาชีพและยศไว้โดยพนักงานสอบสวนมิได้ท้วงติงนั้นไม่ถือว่าเป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบเหตุการณ์และการรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานตำรวจ มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น
ตำรวจเบิกความว่า พอเกิดเหตุแล้ว จำเลยออกมาจากที่เกิดเหตุฆาตกรรม มีผู้ตามจำเลยติดมาชี้บอกให้จับจำเลยว่าแทงผู้ตายคำของตำรวจนี้เป็นพยานชั้นที่1 ไม่ใช่คำบอกเล่า แต่ถ้อยคำที่ผู้ตามจำเลยมาบอกแก่ตำรวจนั้น เป็นคำบอกเล่าคำบอกเล่าในขณะกระชั้นชิดทันที ซึ่งตามธรรมดายังไม่ทันจะมีช่องโอกาสคิดแกล้งปรักปรำศาลรับฟังประกอบพฤติเหตุอื่นๆ ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงในการเล่นพนัน หากไม่มีการพนันเอาทรัพย์สินกัน โจทก์ต้องพิสูจน์
ในคดีเรื่องลักเล่นการพนัน จำเลยขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง แต่แล้วได้กล่าวบรรยายในคำให้การต่อไปเป็นความว่า การเล่นรายนี้ก็โดยพนันว่าจะซื้อโคล่ามาเลี้ยงกันรอบวงเท่านั้น และเล่นกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาเงินรวมซื้อโคล่า เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องยังไม่ได้ ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงตามที่จำเลยบรรยายไว้ในคำให้การ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นผิดตามฟ้อง กล่าวคือ เพียงแต่เล่นพนันเพื่อเอาเงินไปซื้อโคล่ามาเลี้ยงระหว่างกันเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการพนันเอาทรัพย์สินกัน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้จำเลยอื่นซึ่งให้การทำนองนี้และมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาพิพากษาว่าไม่มีความผิดด้วยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจน และการเล่นพนันเพื่อซื้อของ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ในคดีเรื่องลักเล่นการพนันจำเลยขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง แต่แล้วได้กล่าวบรรยายในคำให้การต่อไปเป็นความว่าการเล่นรายนี้ก็โดยพนันว่าจะซื้อโคล่ามาเลี้ยงกันรอบวงเท่านั้น และเล่นกันเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเอาเงินรวมซื้อโคล่า เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องยังไม่ได้ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงตามที่จำเลยบรรยายไว้ในคำให้การการกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นผิดตามฟ้อง กล่าวคือเพียงแต่เล่นพนันเพื่อเอาเงินไปซื้อโคล่ามาเลี้ยงระหว่างกันเท่านั้นไม่ใช่เป็นการพนันเอาทรัพย์สินกันเมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้จำเลยอื่นซึ่งให้การทำนองนี้และมิได้อุทธรณ์ขึ้นมาศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาพิพากษาว่าไม่มีความผิดด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่จำเลยเข้าใจได้เพียงพอต่อการรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชนโดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนเบนหัวกลับไปบนกลางถนนลาดยางชนรถยนต์ทางล้อหน้าของผู้เสียหายขับสวนทางมา การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้แล้วว่าความประมาทของจำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแล้วกระดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหายจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุกรุกเคหะสถานและการลดโทษจากบาดเจ็บและรับสารภาพ
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาทของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่อหน้าขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยมึนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใดแต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและฟังไม่ได้ว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามมาตรา 329(2) ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความสาหัสของบาดแผลและการรับสารภาพของจำเลยที่ไม่ผูกพันโจทก์ในการนำสืบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ทุพลภาพไม่สามารถประกอบหาเลี้ยงชีพได้เพราะความทุพลภาพเกินกว่า 20 วัน
แต่ในขณะที่โจทก์ฟ้องนั้นเอง นับทั้งวันเกิดเหตุได้เพียง 16 วันเท่านั้นเมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ฟังได้ว่าเมื่อเกินกว่า 20 วันไปแล้วผู้เสียหายก็ยังคงทุพลภาพด้วยทุกขเวทนากล้าหรือไม่สามารถประกอบการลี้ยงชีพตามปกติได้ กลับได้ความว่าในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้นเองผู้เสียหายก็ได้มายื่นคำร้องต่อศาลได้ ฉนั้นผู้เสียหายอาจจะหายก่อนกำหนดเวลาที่ ก.ม.กำหนดไว้ก็ได้ ดังนี้แม้จำเยจะรับตามฟ้องของโจทก์ก็ตาม แต่ขณะโจทก์ฟ้องข้อเท็จจริงเท่าที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้อง ก็รับฟังเช่นนั้นไม่ได้ (จึงลงโทษจำเลยตาม ม.256 ไม่ได้ จำเลยควรมีความผิดตาม ม.254 เท่านั้น)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองและทรัพย์สิน: โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดเพื่อป้องกัน
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต: อำนาจริบของกลาง แม้จำเลยรับสารภาพเฉพาะส่วน
ข้อเท็จจริงได้ความว่าฝิ่นจำนวน 77,700 กรัม เจ้าพนักงานค้นได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ แม้โจทก์จะฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นอีกจำนวนหนึ่งไม่ใช่จำนวนที่ค้นได้นี้ และจำเลยรับสารภาพว่าฝิ่นที่ฟ้องหาว่าจำเลยมีเป็นของจำเลย และไม่ได้ให้การถึงฝิ่น 77,700 กรัม ที่ค้นได้ว่าเป็นของใครก็ฟังได้ว่าฝิ่นที่ค้นได้และไม่ได้ฟ้องว่าเป็นของจำเลย เป็นของมีไว้โดยผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่ฝิ่นของรัฐบาลและถูกจับในที่เกิดเหตุ เนื่องจากจำเลยทำผิดกฎหมายฐานมีฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้ในครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ขอริบฝิ่นจำนวนนี้มาด้วย ศาลก็มีอำนาจริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2500)
of 56