พบผลลัพธ์ทั้งหมด 506 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056-1065/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความต้องพิจารณาเจตนาที่แท้จริงของคู่กรณี แม้ข้อตกลงจะไม่ได้ระบุชัดเจน
การตีความแสดงเจตนาต้องเพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษร
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้แต่ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมรับว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ โจทก์ยอมให้จำเลยได้ทำสัญญาเช่าต่อไปอีกโดยกำหนดเวลาเช่าหนึ่งปีหกเดือน เริ่มนับเวลาเช่าตั้งแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ดังนี้ แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ผ่อนผันให้จำเลยได้มีโอกาสอยู่ต่อไปอีกเพียง 1 ปี 6 เดิอนเท่านั้น แม้สัญญาประนีประนอมจะมิได้เขียนไว้โดยแจ้งชัดว่าพ้นกำหนด 1 ปี 6 เดือนแล้วจะต้องออกจากที่ดิน ก็ต้องแปลเจตนาของคู่กรณีไปเช่นนั้น
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้แต่ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมรับว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ โจทก์ยอมให้จำเลยได้ทำสัญญาเช่าต่อไปอีกโดยกำหนดเวลาเช่าหนึ่งปีหกเดือน เริ่มนับเวลาเช่าตั้งแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ดังนี้ แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ผ่อนผันให้จำเลยได้มีโอกาสอยู่ต่อไปอีกเพียง 1 ปี 6 เดิอนเท่านั้น แม้สัญญาประนีประนอมจะมิได้เขียนไว้โดยแจ้งชัดว่าพ้นกำหนด 1 ปี 6 เดือนแล้วจะต้องออกจากที่ดิน ก็ต้องแปลเจตนาของคู่กรณีไปเช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การยึดทรัพย์จำนองโดยไม่ต้องบังคับคดีกับลูกหนี้ร่วม
จำเลยที่ 1 ผู้กู้ และจำเลยที่ 2 ผู้จำนองค้ำประกันเงินกู้นั้น ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลให้ไว้ต่อโจทก์ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินโจทก์ ถ้าผิดสัญญาประนีประนอมนั้น ยอมให้โจทก์ยึดที่ดินที่จำนองค้ำประกันขายทอดตลาดได้ เมื่อจำเลยทั้งสองผิดนัด โจทก์ย่อมยึดที่ดินนั้นขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิโจทก์ในการยึดทรัพย์จำนองโดยไม่ต้องบังคับคดีกับผู้กู้ก่อน
จำเลยที่ 1 ผู้กู้ และจำเลยที่ 2 ผู้จำนองค้ำประกันเงินกู้นั้นทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลให้ไว้ต่อโจทก์ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินโจทก์ ถ้าผิดสัญญาประนีประนอมนั้น ยอมให้โจทก์ยึดที่ดินที่จำนองค้ำประกันขายทอดตลาดได้เมื่อจำเลยทั้งสองผิดนัดโจทก์ย่อมยึดที่ดินนั้นขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินก่อนสัญญาประนีประนอม: สิทธิผู้ซื้อเดิมดีกว่าผู้รับโอนจากสัญญายอมความ
การที่จำเลยที่ 1-2 ซึ่งเป็นสามีภริยากัน ยินยอมทำสัญญาขายที่พิพาทให้โจทก์ โดยโจทก์ได้วางมัดจำไว้แล้ว แต่ต่อมาจำเลยที่ 1-2 กลับทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลยกที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ถึง 5 บุตรของตนเสีย ย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 1-2 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ และเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต โจทก์ซึ่งได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกับจำเลยที่ 1-2 ไว้ก่อนที่จะได้มีการทำสัญญายอมความนั้น จึงอยู่ในฐานะที่จะได้รับโอนที่พิพาทดีกว่าจำเลยที่ 3 ถึง 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายก่อนสัญญาประนีประนอม: โจทก์มีสิทธิเหนือผู้รับโอนจากสัญญาประนีประนอม
การที่จำเลยที่ 1,2 ซึ่งเป็นสามีภริยากันยินยอมทำสัญญาขายที่พิพาทให้โจทก์โดยโจทก์ได้วางมัดจำไว้แล้วแต่ต่อมาจำเลยที่ 1,2 กลับทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลยกที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ถึง 5 บุตรของตนเสียย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 1,2 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ และเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต โจทก์ซึ่งได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกับจำเลยที่ 1,2 ไว้ก่อนที่จะได้มีการทำสัญญายอมความนั้น จึงอยู่ในฐานที่จะได้รับโอนที่พิพาทดีกว่าจำเลยที่ 3 ถึง 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม และการไม่มีอำนาจฟ้องเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
เมื่อโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลย และศาลได้พิพากษาไปตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนเปลี่ยนแปลงอีกไม่ได้ เพราะแม้จะอุทธรณ์ฎีกาในคดีเดิมยังต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138
เมื่อที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองระหว่างจำเลยด้วยกันเกี่ยวกับที่ดินพิพาทได้
เมื่อที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองระหว่างจำเลยด้วยกันเกี่ยวกับที่ดินพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสัญญาประนีประนอม: การจำหน่ายทรัพย์สินหลังพินัยกรรมขัดต่อเจตนารมณ์สัญญาหรือไม่
โจทก์จำเลยและนางศรีทำสัญญาประนีประนอมมีใจความว่า ที่พิพาทตลอดจนสิ่งปลูกสร้างนั้น นางศรีมีสิทธิเก็บผลประโยชน์และจำหน่ายจ่ายโอนได้ตามความพอใจ เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมแล้ว ทรัพย์พิพาทยังคงเหลืออยู่เท่าใด ให้ตกเป็นสิทธิของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง เห็นได้ว่าสัญญานี้มุ่งประสงค์ให้นางศรีมีอำนาจจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์พิพาทให้แก่ผู้ใดได้ในขณะที่นางศรียังมีชีวิตอยู่ ฉะนั้น การที่นางศรีทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย จึงเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ภายหลังนางศรีสิ้นชีวิตแล้ว เพราะตามกฎหมายพินัยกรรมย่อมมีผลต่อเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตาย จึงไม่เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนตามสัญญาประนีประนอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมจำกัดอำนาจจำหน่ายทรัพย์สิน การทำพินัยกรรมหลังเสียชีวิตไม่ถือเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนตามสัญญา
โจทก์จำเลยและนางศรีทำสัญญาประนีประนอมมีใจความว่าที่พิพาทตลอดจนสิ่งปลูกสร้างนั้น นางศรีมีสิทธิเก็บผลประโยชน์และจำหน่ายจ่ายโอนได้ตามความพอใจ เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมแล้ว ทรัพย์พิพาทยังคงเหลืออยู่เท่าใด ให้ตกเป็นสิทธิของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง เห็นได้ว่าสัญญานี้มุ่งประสงค์ให้นางศรีมีอำนาจจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์พิพาทให้แก่ผู้ใดได้ในขณะที่นางศรียังมีชีวิตอยู่ ฉะนั้น การที่นางศรีทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยจึงเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ภายหลังนางศรีสิ้นชีวิตแล้ว เพราะตามกฎหมายพินัยกรรมย่อมมีผลต่อเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตายจึงไม่เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนตามสัญญาประนีประนอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินมีผลผูกพัน แม้ยังมิได้จดทะเบียน หากคู่สัญญาอีกฝ่ายเสียชีวิตก่อน
โจทก์และสามีจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน และได้ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันเป็นส่วนสัดเจ้าพนักงานได้บันทึกข้อตกลงไว้ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยก สามีจำเลยได้ตายลง ข้อตกลงของโจทก์และสามีจำเลยที่เจ้าพนักงานได้บันทึกไว้นี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินกันโจทก์จะปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินมีผลผูกพัน แม้ยังมิได้จดทะเบียน แบ่งตามที่ตกลงไว้เดิม
โจทก์และสามีจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกันและได้ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันเป็นส่วนสัด เจ้าพนักงานได้บันทึกข้อตกลงไว้ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยก สามีจำเลยได้ตายลง ข้อตกลงของโจทก์และสามีจำเลยที่เจ้าพนักงานได้บันทึกไว้นี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินกัน โจทก์จะปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามหาได้ไม่