พบผลลัพธ์ทั้งหมด 598 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ให้เช่าซื้อเมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน: ริบเงินค่าเช่าซื้อ และเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้เช่าซื้อผิดสัญญา เมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้วทั้งหมด กับมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ผู้เช่าซื้อได้ใช้ทรัพย์ของผู้ให้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่ผู้ซื้อครอบครองทรัพย์ดังกล่าวอยู่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2511)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขาย และการคืนเงินค่ามัดจำ/ค่าก่อสร้าง เมื่อมีฝ่ายผิดสัญญา จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์
โจทก์ทำสัญญาจองห้องแถวกับจำเลย 6 ห้อง ชำระค่าก่อสร้างเป็นเงินสดและเช็ค เช็คบางฉบับขึ้นเงินไม่ได้ แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาเมื่อจำเลยใช้สิทธิเลิกสัญญาโดยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังโจทก์ จำเลยต้องคืนเงินค่าก่อสร้างที่ได้ชำระไว้แล้วให้โจทก์ เพื่อให้โจทก์ได้กลับคืนสู่ ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม หากจำเลยได้รับความเสียหายก็มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่จำเลยก็มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย จึงไม่มีสิทธิริบเงินที่โจทก์ได้ชำระไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแพ่งนอกเขต, การใช้ทรัพย์ผิดวัตถุประสงค์, การเลิกสัญญาเช่า
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา4 นั้น เป็นบทบัญญัติที่ใช้แก่ศาลทั่วไป แต่สำหรับอำนาจของศาลแพ่งนั้นยังมีอำนาจที่จะพิจารณา พิพากษาคดีที่เกิดขึ้นนอกเขตศาลแพ่งด้วยตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม.14(4) คดีที่เกิดนอกเขตศาลแพ่งและจำเลยมีภูมิลำเนานอกเขตศาลแพ่ง เมื่อศาลแพ่งรับฟ้องและดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยจนเสร็จ ดังนี้แสดงว่า ศาลแพ่งใช้ดุลพินิจยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม.14(4) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้ไม่ครบถ้วนและการเลิกสัญญาโดยปริยาย อายุความฟ้องร้อง
จำเลยตกลงขายไม้ให้โจทก์ 6,000 ลูกบาศก์ฟุต โดยกำหนดส่งมอบไม้เป็น 2 งวด งวดละ 3,000 ลูกบาศก์ฟุตจำเลยส่งมอบไม้ให้โจทก์รับไปแล้ว 3,300 ลูกบาศก์ฟุตส่วนที่เหลือยังมิได้มีการส่งมอบ โจทก์จึงฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบไม้ที่เหลือหรือใช้ค่าเสียหาย ดังนี้เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบไม้ที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์จนครบตามสัญญา มิใช่เป็นการฟ้องให้รับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนจะนำอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 467 มาใช้บังคับไม่ได้
จำเลยส่งมอบไม้ตามสัญญาซื้อขายให้โจทก์แล้วบางส่วน และต่อมาขอส่งมอบส่วนที่เหลือ โจทก์ขอลดราคา จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงไม่รับมอบไม้ซึ่งจำเลยพร้อมที่จะส่งมอบให้โจทก์ตามสัญญา จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 7 เดือน ไม้ในท้องตลาดขึ้นราคาโจทก์จึงทวงถามจำเลยให้ส่งมอบไม้ที่เหลือ ดังนี้ถือได้ว่าการซื้อขายเป็นอันเลิกกันโดยปริยายแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
จำเลยส่งมอบไม้ตามสัญญาซื้อขายให้โจทก์แล้วบางส่วน และต่อมาขอส่งมอบส่วนที่เหลือ โจทก์ขอลดราคา จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงไม่รับมอบไม้ซึ่งจำเลยพร้อมที่จะส่งมอบให้โจทก์ตามสัญญา จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 7 เดือน ไม้ในท้องตลาดขึ้นราคาโจทก์จึงทวงถามจำเลยให้ส่งมอบไม้ที่เหลือ ดังนี้ถือได้ว่าการซื้อขายเป็นอันเลิกกันโดยปริยายแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2475/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญากันโดยปริยาย: การงดชำระราคาและปล่อยเวลาผ่านไปนานถือเป็นการสละสิทธิ
จำเลยแบ่งขายที่ดิน ส.ค. 1 ให้แก่โจทก์โดยโจทก์ชำระเงินให้ในวันทำสัญญาจำนวนหนึ่งส่วนที่เหลือผ่อนชำระเป็น 10 งวดโดยออกเป็นเช็ค 10 ฉบับ มอบให้จำเลยไว้มีข้อตกลงว่าหากโจทก์ไม่ไปจดทะเบียนรับซื้อตามกำหนดก็ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำถ้าจำเลยผิดสัญญายอมให้โจทก์ฟ้องบังคับและยอมใช้ค่าเสียหายต่อมานายอำเภอมีหนังสือถึงโจทก์แจ้งว่าที่ดินที่โจทก์รับซื้อไว้เป็นที่สาธารณประโยชน์ให้โจทก์ระงับการปลูกสร้างบ้านในที่ดินดังกล่าวโจทก์จึงระงับการก่อสร้างและสั่งอายัดเช็คค่าที่ดินที่ค้างรวม 8 ฉบับ หลังจากนั้นโจทก์และจำเลยก็มิได้ฟ้องร้องว่ากล่าวให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายแต่อย่างใดการที่โจทก์สั่งอายัดเช็คเป็นการงดชำระราคาค่าที่พิพาทที่ยังเหลือรวม8 ฉบับ มิได้เรียกร้องหรือว่ากล่าวให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายหรือเรียกเงินมัดจำและเงินค่าที่ดินที่จำเลยได้รับตามเช็ค 2 ฉบับ คืนจากจำเลย คงปล่อยเวลาให้ล่วงไปถึง 6 ปี ฝ่ายจำเลยก็มิได้เรียกร้องหรือว่ากล่าวให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายเช่นกันตามพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์และจำเลยตกลงเลิกสัญญากันแล้วโดยปริยายและไม่ติดใจเรียกร้องอะไรแก่กันแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องว่ากล่าวจำเลยว่ากระทำผิดสัญญา (อ้างคำพิพากษาฎีกาประชุมใหญ่ที่ 136/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเรียกร้องค่าเช่าซื้อค้างชำระหลังเลิกสัญญาเช่าซื้อ และขอบเขตค่าเสียหายจากการส่งมอบรถล่าช้า
สัญญาเช่าซื้อมีว่า ในกรณีที่สัญญานี้ต้องสิ้นสุดลงผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ทั้งหมดให้ผู้ให้เช่าซื้อจนครบ คำว่าค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระคือค่าเช่าซื้อซึ่งถึงกำหนดชำระแล้วก่อนวันที่สัญญาเช่าซื้อนั้นต้องสิ้นสุดลงและผู้เช่าซื้อยังไม่ได้ชำระเท่านั้นหาหมายถึงค่าเช่าซื้อทั้งหมดทุกงวด รวมทั้งค่าเช่าซื้องวดที่ล่วงเลยกำหนดชำระแล้วแต่ผู้เช่าซื้อยังมิได้ชำระและค่าเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่ เพราะเมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงแล้วผู้เช่าซื้อก็ไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าซื้อสำหรับงวดต่อไปอีก
การที่ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเช่าซื้อถึงวันที่ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์คืนมามีผลเท่ากับว่าได้พิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเสียหายในการที่ผู้ให้เช่าซื้อขาดประโยชน์ไม่ได้ใช้รถยนต์นับจากวันเลิกสัญญาถึงวันที่ยึดรถยนต์คืนมาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อย่อมไม่มีสิทธิเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายในส่วนนี้อีก
การที่ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเช่าซื้อถึงวันที่ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์คืนมามีผลเท่ากับว่าได้พิพากษาให้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเสียหายในการที่ผู้ให้เช่าซื้อขาดประโยชน์ไม่ได้ใช้รถยนต์นับจากวันเลิกสัญญาถึงวันที่ยึดรถยนต์คืนมาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อย่อมไม่มีสิทธิเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายในส่วนนี้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4052/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดเวลาแน่นอน การต่ออายุหรือเลิกสัญญาไม่กระทบระยะเวลาเดิม และไม่ทำให้เกิดสิทธิค่าชดเชย
สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดเวลาจ้างที่แน่นอน และมีข้อความกำหนดวิธีการที่จะต่อสัญญาหรือเลิกสัญญาไว้ว่า ผู้ว่าจ้างจะได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ เมื่อนายจ้างต่ออายุสัญญาออกไป จึงเป็นการกำหนดระยะเวลาในการจ้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่เป็นการขยายระยะเวลาในสัญญาเดิม จึงไม่กระทบกระเทือนต่อกำหนดเวลาในสัญญาเดิมที่ระบุจำนวนปีแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนการเลิกสัญญา ซึ่งอาจมีขึ้นก็เป็นเรื่องที่จะตกลงกันใหม่ยกเลิกกำหนดเวลาในสัญญาเดิมเสีย หาใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาในสัญญาจ้างฉบับเดิมไม่ สำหรับข้อความตามสัญญาที่ว่าถ้าไม่มีการแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ ให้ถือว่าการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างตามสัญญานั้นมีไว้เพื่อเป็นการลดหน้าที่ของผู้ว่าจ้างในกรณีไม่ต่ออายุสัญญาเท่านั้น ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความแน่นอนของระยะเวลาตามสัญญาจ้างที่มีอยู่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3518/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีสิ้นสุดเมื่อไม่ต่ออายุ และเจตนาเลิกสัญญาระหว่างคู่กรณี
สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและการต่ออายุสัญญาทั้งสี่ครั้งได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนในวันสุดท้ายของอายุสัญญาทุกครั้งเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายแล้วจำเลยมิได้เบิกเงินหรือนำเงินเข้าบัญชีอีก พฤติการณ์ของคู่กรณีที่ปฏิบัติต่อกันแสดงให้เห็นว่าเจตนาได้ว่า หากไม่มีการต่ออายุสัญญาออกไป ก็ให้ถือว่าให้เลิกสัญญากันเมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาโดยไม่จำต้องมีการบอกเลิกสัญญาอีก จึงต้องหักทอนบัญชีเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายโจทก์จะคิดดอกเบี้ยทบต้นต่อไปมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มาตรา 582 ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ไม่ใช่เกณฑ์ชี้ขาดสัญญาจ้างมีกำหนดเวลาหรือไม่
บทบัญญัติมาตรา 582 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นเพียงวิธีการบอกกล่าวเลิกสัญญาในกรณีที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาการจ้างกันไว้ ไม่ใช่เป็นบทบัญญัติว่าอย่างไรถือว่าเป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างที่ไม่แน่นอนอย่างไรมีกำหนดระยะเวลาการจ้างที่แน่นอน จึงเป็นคนละกรณีกัน จะนำมาแปลปรับเป็นเครื่องชี้ว่า การที่ไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาจ้างก่อนครบเกษียณอายุ เป็นการเลิกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างที่แน่นอนหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญาก่อสร้างโดยปริยาย สิทธิเรียกร้องค่าก่อสร้างขาดอายุความ 2 ปี
จำเลยจ้างเหมาช่วงให้โจทก์ทำการก่อสร้างอาคารที่จำเลยประมูลได้ ต่อมาจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าดำเนินการก่อสร้างและเข้าดำเนินการเสียเอง ถือได้ว่าโจทก์จำเลยเลิกสัญญากันโดยปริยาย คู่สัญญาจึงต่างกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม สำหรับการงานที่โจทก์ได้กระทำไปแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับชดใช้เงินตามควรค่าแห่งการงานนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 แต่สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวต้องตกอยู่ในอายุความสองปีตามมาตรา 165(7)