คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ปลูกสร้างอาคารล้ำหลังคา ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ และไม่มีอำนาจฟ้องหากไม่เกิดความเสียหาย
การที่ยอมให้ผู้ครอบครองที่ดินใกล้เคียงปลูกอาคาร หลังคาเหลื่อมล้ำคลุมหลังคาเรือนของตนบางส่วนเช่นนี้ ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขอให้รื้อถอนไป และแม้ผู้ปลูกสร้างอาคารในที่ดินใกล้เคียงจะปลูกผิดเทศบัญญัติก็ดี หากมิได้ละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1934/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง พ.ร.บ.กำไรเกินควร, รางวัลผู้จับ และการแยกปรับฐานความผิด
คดีที่หาว่าจำเลยทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 อัยยการโจทก์ไม่มีอำนาจขอให้จ่ายสินบล คงมีอำนาจขอแต่ให้จ่ายเงินรางวัลผู้จับ (อ้างฎีกา 1043/2492 และ 1933/2492)
ในกรณีที่มีผู้นำจับ แต่โจทก์ขอให้จ่ายเพียงร้อยละ 15 จึงต้องจ่ายรางวัล ตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 8 แต่ให้จ่ายเพียงเท่าที่โจทก์ขอเท่านั้น ไม่มีปัญหาว่าจะต้องจ่ายตามวรรคแรกหรือวรรคสอง
คดีที่จำเลยทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรฯ และผิดกฎหมายอื่นด้วยนั้น ให้แยกปรับฐานผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรฯ เสียกะทงหนึ่งต่างหาก แล้วจึงให้จ่ายรางวับของค่าปรับในฐานนี้จากจำนวนค่าปรับที่ศาลวางโทษก่อนลดโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1838/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยยการลงชื่อฟ้อง และความเพียงพอของคำฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย
พนักงานอัยยการผู้ได้รับแต่งตั้งโดยชอบแล้วมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ในฟ้องในฐานพนักงานอัยยการได้ แม้ผู้ลงชื่อจะต่างคนกับที่วงเล็บไว้ที่หน้าฟ้องก็ไม่สำคัญ
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1838/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ และความเพียงพอของคำฟ้องในคดีสมคบทำร้ายร่างกาย
พนักงานอัยการผู้ได้รับแต่งตั้งโดยชอบแล้วมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ในฟ้องในฐานพนักงานอัยการได้ แม้ผู้ลงชื่อจะต่างคนกับที่วงเล็บไว้ที่หน้าฟ้องก็ไม่สำคัญ
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายสารส้ม: การตีความเอกสาร หลักฐานการซื้อขาย อำนาจฟ้องของห้างหุ้นส่วนสามัญ
ใบสั่งซื้อของโจทก์มีว่าโจทก์ตกลงซื้อสารส้มกับจำเลย บริษัทจำเลยตอบรับตกลงตามราคาและเงื่อนไขที่แจ้งตามใบสั่งซื้อนั้นทุกประการ จึงเป็นการตกลงซื้อขายกันไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยจะจัดการหาซื้อให้ทำนองตัวแทนหรือนายหน้าหากจำเลยผิดนัด ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
ห้างหุ้นส่วนสามัญ อันมิได้จดทะเบียน ซึ่งโจทก์เป็นเจ้าของและผู้จัดการและได้ทำการซื้อขายในนามของโจทก์เอง แม้จะระบุตำแหน่งผู้จัดการไว้ด้วยโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 1049
ศาลพิพากษาว่าให้จำเลยขายสารส้มให้โจทก์ตามจำนวนและราคาในฟ้อง หรือให้จำเลยชดใช้ผลกำไรที่โจทก์ควรได้รับเป็นเงิน 49,000 บาทแก่โจทก์นั้น จำเลยย่อมเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความและการฎีกาคำสั่งรับคำคู่ความ
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสียโดยทนายโจทก์ไม่มีอำนาจเรียงฟ้องอุทธรณ์ เพราะขาดต่อใบอนุญาตเป็นทนาย ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องจำเลยฎีกา ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลสั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ป.ม.วิ.แพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227, หรือ 228 ซึ่งจะต้องอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังฎีกาในขณะนี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา, การพิสูจน์หลักฐาน, และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษา
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา221.
คดีของโจทก์มีพะยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพะยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพะยานเอกสารสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพะยานเอกสารนั้น ๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฎว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรม ทายาทหรือผู้จัดการมฤดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้อง เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพะยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉะบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมฤดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้น จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตายโดยแต่งงานกันภายหลังวันใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 แล้วแต่มิได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตายโดยแต่งงานกันภายหลังวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว แต่มิได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิถึงแก่กรรม และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษาที่ย้ายศาล
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ
of 452