พบผลลัพธ์ทั้งหมด 588 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์สำเร็จแม้ฉีกเงินภายหลัง: การขู่เข็ญบังคับเอาทรัพย์สำเร็จถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
การที่จำเลยบังคับขู่เข็ญจนผู้เสียหายมีความกลัวต้องสั่งเงิน(ธนบัติ)ให้และจำเลยได้รับไว้แล้ว ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จแล้ว ส่วนการที่จำเลยกลับฉีกธนบัติเสียนั้นก็เป็นเรื่องที่มาเปลี่ยนเจตนาขึ้นในภายหลัง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์สำเร็จจากการขู่เข็ญ แม้ฉีกเงินภายหลัง
การที่จำเลยบังคับขู่เข็ญจนผู้เสียหายมีความกลัวต้องส่งเงิน(ธนบัตร)ให้และจำเลยได้รับไว้แล้ว ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จแล้ว ส่วนการที่จำเลยกลับฉีกธนบัตรเสียนั้นก็เป็นเรื่องที่มาเปลี่ยนเจตนาขึ้นในภายหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันการมีพวก แต่ศาลยังเชื่อพยานหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพวกด้วยเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นเหตุที่ศาลจะต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดชิงทรัพย์ แม้ไม่มีหลักฐานพวกสมคบ แต่พยานโจทก์เพียงพอให้เชื่อได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพวกด้วยเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นเหตุที่ศาลจะต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: พยานหลักฐานแน่นชัด ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กะทง ๆ หนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกะทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม ก.ม.อาญา ม.243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปี ส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กะทงเป็นจำคุก คนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จากพยานหลักฐานที่ชัดเจน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กระทงกระทงหนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกระทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1 ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปีส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กระทงเป็นจำคุกคนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: พยานหลักฐานแน่นหนา ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กระทงกระทงหนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกระทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1 ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปีส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กระทงเป็นจำคุกคนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงเดิมหลังศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตาม ม. 300 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับลงโทษจำเลยเพียงทำร้ายร่างกายตาม ม. 254 เช่นนี้ เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริง แม้จะอ้างเหตุผลไปคนละนัย แต่ในที่สุดก็เห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ดังข้อหาของโจทก์จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานชิงทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์หาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม. 219
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 21/249+)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 21/249+)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงตรงกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานชิงทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 300ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับลงโทษจำเลยเพียงทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เช่นนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริง แม้จะอ้างเหตุผลไปคนละนัย แต่ในที่สุดก็เห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ดังข้อหาของโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานชิงทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนี้โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์หาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (ประชุมใหญ่ครั้งที่21/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงขัดกับข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 300ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับลงโทษจำเลยเพียงทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เช่นนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริง แม้จะอ้างเหตุผลไปคนละนัย แต่ในที่สุดก็เห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ดังข้อหาของโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานชิงทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนี้โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์หาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (ประชุมใหญ่ครั้งที่21/2498)