พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างและผู้รับขนคนโดยสาร กรณีเหตุสุดวิสัยและการประมาทเลินเล่อ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของรถ และจัดรถนั้นรับคนโดยสารนำเที่ยว เก็บค่าโดยสารคนละ 55 บาท และโจทก์เป็นผู้โดยสาร แสดงให้เห็นถึงสภาพแห่งข้อหาว่าจำเลยมีหน้าที่เป็นผู้รับขนคนโดยสารแล้ว
เมื่อรถที่ลูกจ้างขับไปชนรถอื่นเพราะเหตุสุดวิสัย นายจ้างไม่ต้องรับผิดทั้งในฐานะนายจ้างและในฐานผู้รับขนคนโดยสาร
เมื่อรถที่ลูกจ้างขับไปชนรถอื่นเพราะเหตุสุดวิสัย นายจ้างไม่ต้องรับผิดทั้งในฐานะนายจ้างและในฐานผู้รับขนคนโดยสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในทางการที่จ้าง และประมาทเลินเล่อในการขับรถ แม้เปลี่ยนเส้นทาง
แม้ตรงสี่แยกในทางของรถคันหนึ่งจะมีป้ายให้หยุดก็ตาม แต่เมื่อไม่มีรถอื่นในทางสายที่ตัดผ่านหน้า หรือหากมีแต่ยังไม่อยู่ในระยะห่างแล้ว รถคันที่อยู่ในทางป้ายให้หยุดก็ไม่จำต้องรอให้รถอื่นนั้นผ่านไปเสียก่อน ในเมื่อเห็นว่าจะผ่านไปได้โดยปลอดภัย
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้าง เสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับ ระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิด เช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้าง เสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับ ระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิด เช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถที่สี่แยกและการรับผิดในทางการที่จ้าง แม้เปลี่ยนเส้นทาง
แม้ตรงสี่แยกในทางของรถคันหนึ่งจะมีป้ายให้หยุดก็ตามแต่เมื่อไม่มีรถอื่นในทางสายที่ตัดผ่านหน้า หรือหากมีแต่ยังอยู่ในระยะห่างแล้ว รถคันที่อยู่ในทางป้ายให้หยุดก็ไม่จำต้องรอให้รถอื่นนั้นผ่านไปเสียก่อนในเมื่อเห็นว่าจะผ่านไปได้โดยปลอดภัย
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้างเสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิดเช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้างเสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิดเช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถทางแยก ส่งผลเสียชีวิตผู้อื่น
บุคคลในภาวะที่ขับรถมาจะสวนกัน คนหนึ่งจะเลี้ยวเข้าทางแยกทางขวามือตนซึ่งจะต้องข้ามทางของรถที่สวนมา และอีกคนหนึ่งก็จะต้องแล่นผ่านทางแยกนั้น และผ่านรถของคนแรกเช่นนั้น จักต้องมีความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ ดังนี้การที่จำเลยที่ 2 จะเลี้ยวขวาเข้าทางแยก แต่มิได้ระมัดระวังหยุดรอในทางวิ่งรถตน และกลับเข้าไปหยุดรถอยู่ล้ำเข้าไปในทางของรถจำเลยที่ 1 กีดขวางแก่การจราจรรถจำเลยที่ 1 ๆ จะผ่านทางแยกและผ่านรถจำเลยที่ 2 แต่มิได้ระมัดระวังลดความเร็ว ได้แล่นมาอย่างเร็วมาก จะผ่านทางแยกก็เห็นรถจำเลยที่ 2 ตั้งแต่ยังห่าง 6 - 8 เมตร ก็มิได้หยุด มิได้หักหลบ จนเมื่อห่าง 4 เมตร จึงเบรค ความเร็วมากเกินสมควรที่จะหยุดได้ทัน หรือหลบให้พ้น ทำให้ด้านขวาตอนกลางรถ(กะบะ) จำเลยที่ 1 ไม่พ้น และเฉี่ยวถูกด้านขวารถจำเลยที่ 2 ทำให้ปุ่มเหล็กปิดท้ายกะบะโดนหัวนางสาวปราณีซึ่งนั่งในรถจำเลยที่ 2 ตาย ดังนี้ จำเลยทั้งสองจึงชื่อว่ากระทำการขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้นางสาวปราณีตาย ผิดมาตรา 291
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถทางแยก ส่งผลถึงการเสียชีวิตของผู้โดยสาร จำเลยทั้งสองมีความรับผิดร่วมกัน
บุคคลในภาวะที่ขับรถมาจะสวนกัน คนหนึ่งจะเลี้ยวเข้าทางแยกทางขวามือตนซึ่งจะต้องข้ามทางของรถที่สวนมาและอีกคนหนึ่งก็จะต้องแล่นผ่านทางแยกนั้น และผ่านรถของคนแรกเช่นนั้นจักต้องมีความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ ดังนี้ การที่จำเลยที่ 2 จะเลี้ยวขวาเข้าทางแยกแต่มิได้ระมัดระวังหยุดรอในทางวิ่งรถตนและกลับเข้าไปหยุดรออยู่ล้ำเข้าไปในทางของรถจำเลยที่ 1 กีดขวางแก่การจราจรรถจำเลยที่ 1 รถจำเลยที่ 1 จะผ่านทางแยกและผ่านรถจำเลยที่ 2 แต่มิได้ระมัดระวังลดความเร็ว ได้แล่นมาอย่างเร็วมากจะผ่านทางแยกก็เห็นรถจำเลยที่ 2 ตั้งแต่ยังห่าง 6-8 เมตร ก็มิได้หยุดมิได้หักหลบจนเมื่อห่าง 4 เมตร จึงเบรคความเร็วมากเกินสมควรที่จะหยุดได้ทัน จึงหลบให้พ้น ทำให้ด้านขวาตอนกลางรถ (กะบะ) จำเลยที่ 1 ไม่พ้น และเฉี่ยวถูกด้านขวารถจำเลยที่ 2 ทำให้ปุ่มเหล็กปิดท้ายกะบะโดนหัวนางสาวปราณีซึ่งนั่งในรถจำเลยที่ 2 ตายดังนี้จำเลยทั้งสองจึงชื่อว่ากระทำการขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้นางสาวปราณีตาย ผิดมาตรา 291
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาทต้องมีเหตุเฉพาะเจาะจง การถือปืนเตรียมยิงไม่ใช่ความประมาท
การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องที่ไม่แสดงว่าจำเลยทำให้ปืนลั่นถูกผู้ตายโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาทจากการถือปืน: จำเลยไม่มีความผิดหากไม่มีเหตุให้ผู้ตายแย่งปืน
การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องที่ไม่แสดงว่าจำเลยทำให้ปืนลั่นถูกผู้ตายโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ประมาททั้งสองฝ่าย: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา
โจทก์จำเลยต่างขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกัน และโจกท์ได้รับบาดเจ็บนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้กระทำการโดยประมาท โจทก์จึงมีส่วนในการกระทำผิดทางอาญาด้วย โดยนิตินัยถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เสียหาย: กรณีผู้เสียหายประมาทด้วยตนเอง
โจทก์จำเลยต่างขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกันและโจทก์ได้รับบาดเจ็บนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้กระทำการโดยประมาท โจทก์จึงมีส่วนในการกระทำผิดทางอาญาด้วย โดยนิตินัยถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา2(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการลากจูงเรือโดยประมาท ชนเรือผู้อื่นในเส้นทางเดินเรือ
จำเลยลากจูงเรือโยงมาแล้วทำให้เรือโยงลำท้ายขบวนส่ายเข้าไปชนเรือโจทก์ในเส้นทางเดินเรือของโจทก์โดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างใด และการนั้นก็มิได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของฝ่ายเรือโจทก์ ฝ่ายจำเลยจึงเป็นผู้ทำละเมิด
จำเลยที่ 1 เป็นนายท้ายเรือ ได้กระทำละเมิดไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของเรือผู้เป็นนายจ้าง จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 1 เป็นนายท้ายเรือ ได้กระทำละเมิดไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของเรือผู้เป็นนายจ้าง จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดต่อโจทก์