พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงป้องกันตัว, ลุแก่โทษ, และการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี
คำให้การจำเลยที่ว่า ผู้ตายจะใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงยิงป้องกันตัวและคำเบิกความของจำเลยขยายความข้อนี้มากขึ้น ไม่เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78เพราะมิได้ให้ความรู้แก่ศาลที่จะช่วยให้การวินิจฉัยชี้ขาดคดีเป็นไปโดยถูกต้องตามความผิดหรือการกระทำของจำเลย ตรงข้ามจำเลยกลับอ้างว่าเป็นความผิดของผู้ตายที่ใช้ปืนจะยิงจำเลยก่อน ซึ่งศาลต้องวินิจฉัยและชี้ขาดว่าข้ออ้างของจำเลยไม่เป็นความจริง จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ
การที่จำเลยยิงผู้ตายแล้วไปมอบตัวแก่เจ้าพนักงานตำรวจพร้อมกับมอบปืนที่ใช้ยิงให้ด้วย โดยแจ้งเหตุว่าจำเลยยิงผู้ตายบาดเจ็บสาหัสไม่ได้แจ้งว่าผู้ตายจะยิงจำเลย จำเลยจึงยิงเป็นการป้องกันตัวซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จมาแต่แรก ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โจทก์ต่อเจ้าพนักงานมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ได้
การที่จำเลยยิงผู้ตายแล้วไปมอบตัวแก่เจ้าพนักงานตำรวจพร้อมกับมอบปืนที่ใช้ยิงให้ด้วย โดยแจ้งเหตุว่าจำเลยยิงผู้ตายบาดเจ็บสาหัสไม่ได้แจ้งว่าผู้ตายจะยิงจำเลย จำเลยจึงยิงเป็นการป้องกันตัวซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จมาแต่แรก ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โจทก์ต่อเจ้าพนักงานมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายและมีขนาดตัวใหญ่กว่า
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตกว่าจำเลย ถือก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 นิ้วฟุตเศษ หนาราว 1 นิ้วฟุต วิ่งไล่ทำร้ายจำเลย ทำให้ริบฝีปากบนของจำเลยแตกทั้งด้านนอกและด้านใน โลหิตไหล ฟันบนหัก 2 ซี่ จนหินกระเด็นหลุดจากมือผู้ตาย แล้วผู้ตายยังได้ชกจำเลยอีกหลายทีติด ๆ กัน จำเลยจึงชักเหล็กขูดชาร์ฟจากเอวแทงผู้ตายไปหลายที ถือได้ว่าจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ นอกจากกระทำไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายเท่านั้น ฉะนั้นการกระทำของจำเลยตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธและการใช้กำลังป้องกันตนเอง
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตกว่าจำเลยถือก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 นิ้วฟุตเศษ หนาราว 1 นิ้วฟุตวิ่งไล่ทำร้ายจำเลย ทำให้ริมฝีปากบนของจำเลยแตกทั้งด้านนอกและด้านในโลหิตไหล ฟันบนหัก 2 ซี่ จนหินกระเด็นหลุดจากมือผู้ตาย แล้วผู้ตายยังได้ชกจำเลยอีกหลายทีติด ๆ กัน จำเลยจึงชักเหล็กขูดชาร์ฟจากเอวแทงผู้ตายไปหลายที ถือได้ว่าจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงผู้ตายให้ถูกในที่สำคัญได้ นอกจากกระทำไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายเท่านั้นฉะนั้นการกระทำของจำเลยตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการป้องกันตัว: การใช้มีดทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
จำเลยกับ ห. พิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในกระบือ 1 ตัว จึงตกลงกันให้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลรักษากระบือนั้นไว้ จนกว่าศาลจะชี้ขาดว่ากระบือเป็นของใคร ผู้ตายรับกระบือไว้แล้วมอบหมายให้ ห. ดูแลแทน ต่อมาจำเลยเอากระบือนั้นไป ผู้ตายและ ห. จึงไปติดตามเอาคืนจากจำเลย จำเลยไม่ยอมคืนให้ เงื้อมีดหัวงอยาว 15 นิ้ว โต 2 นิ้วฟุต จะฟันผู้ตาย ผู้ตายเข้าแย่งมีดแต่แย่งไม่ได้ จำเลยใช้มีดฟันผู้ตาย 1 ที ถูกระหว่างไหปลาร้าซ้ายกับคอซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นบาดแผลยาว 15 เซนติเมตร กว้าง 3 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร เส้นโลหิตใหญ่ขาด ต่อมาไม่นาน ผู้ตายก็ถึงแก่ความตาย เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการป้องกันตัว: การกระทำความรุนแรงถึงแก่ความตายจากข้อพิพาทเรื่องทรัพย์สิน
จำเลยกับ ห. พิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในกระบือ 1 ตัว จึงตกลงกันให้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลรักษากระบือนั้นไว้จนกว่าศาลจะชี้ขาดว่ากระบือเป็นของใคร ผู้ตายรับกระบือไว้แล้วมอบหมายให้ ห. ดูแลแทนต่อมาจำเลยเอากระบือนั้นไป ผู้ตายและ ห. จึงไปติดตามเอาคืนจากจำเลยจำเลยไม่ยอมคืนให้เงื้อมีดหัวงอยาว 15 นิ้ว โต 2 นิ้วฟุต จะฟันผู้ตายผู้ตายเข้าแย่งมีดแต่แย่งไม่ได้ จำเลยใช้มีดนั้นฟันผู้ตาย 1 ทีถูกระหว่างไหปลาร้าซ้ายกับคอซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นบาดแผลยาว 15 เซ็นติเมตรกว้าง 3 เซ็นติเมตร ลึก 2 เซ็นติเมตรเส้นโลหิตใหญ่ขาด ต่อมาไม่นาน ผู้ตายก็ถึงแก่ความตาย เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงเพื่อป้องกันตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: เหตุการณ์ต่อเนื่องจากการทำร้ายร่างกาย
จำเลยกับผู้ตายและคนอื่นอีก 2 คน ร่วมดื่มสุรากันในร้านจนต่างมึนเมาเกิดทะเลาะวิวาทกัน จำเลยถูกตีศีรษะโลหิตไหล และจำเลยก็ตีผู้ตายแล้ววิ่งหนีออกจากร้านไปได้ 6 - 7 เมตร แล้วหันกลับมาใช้ปืนยิงผู้ตายซึ่งถือขวดโซดาตามออกมาที่หน้าร้าน การที่จำเลยยิงผู้ตายเช่นนี้จะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการสมัครใจทำร้ายกันในร้าน ยังไม่ขาดตอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวต้องไม่ต่อเนื่องจากการทำร้ายซึ่งกันและกัน การยิงหลังจากการทะเลาะวิวาทไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
จำเลยกับผู้ตายและคนอื่นอีก 2 คน ร่วมดื่มสุรากันในร้านจนต่างมึนเมาเกิดทะเลาะวิวาทกัน จำเลยถูกตีศรีษะโลหิตไหลและจำเลยก็ตีผู้ตายแล้ววิ่งหนีออกจากร้านไปได้ 6-7 เมตร แล้วหันกลับมาใช้ปืนยิงผู้ตายซึ่งขวดโซดาตามออกมาที่หน้าร้านการที่จำเลยยิงผู้ตายเช่นนี้จะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการสมัครใจทำร้ายกันในร้านยังไม่ขาดตอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนและการใช้กำลังตอบโต้
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัด กระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ปี เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญ ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกิดสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกยิงก่อน การใช้กำลังป้องกันต้องสมเหตุสมผล
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดกระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการป้องกันตัว: อำนาจการค้นและขอบเขตการใช้กำลังของเจ้าพนักงาน
ร้อยตำรวจตรี มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมวดสถานีตำรวจภูธรอำเภอแห่งท้องที่นั้น แต่มิได้รักษาการณ์แทนผู้บังคับกอง จึงไม่มีฐานะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีอำนาจออกหมายค้นได้ จึงไม่อาจค้น หรือสั่งให้จำเลยค้นได้โดยลำพังตนเอง การที่จำเลยขึ้นและเข้าไปจับกุมผู้กระทำผิดบนบ้านเรือนที่ในห้องนอนของผู้กระทำผิด แม้จะมีหมายจับแต่ไม่มีหมายค้นนั้น เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 8192 เป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจย่อมไม่อาจอ้างได้ว่าเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย อันจะทำให้เกิดสิทธิป้องกันตัวได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68