คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้จัดการมรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกและการจำกัดสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหลังการโอนทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ พ. แม้โจทก์จะโอนขายที่ดินพิพาทแก่ ศ. ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นแต่ในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องที่ดินพิพาทยังเป็นมรดกของ พ. อีกทั้งโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง เมื่อโจทก์ได้โอนที่ดินพิพาทให้แก่ ศ. ไปแล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายจากจำเลยจนถึงวันที่ได้โอนที่ดินพิพาทไปเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ผู้จัดการมรดกหลังผู้รับพินัยกรรมเสียชีวิต: สืบทรัพย์และแจ้งทายาท
เมื่อผู้จัดการมรดกยังไม่ได้จัดการโอนทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทตามที่พินัยกรรมกำหนดไว้ การจัดการมรดกจึงยังไม่เสร็จสิ้น แม้ต่อมาผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมจะถึงแก่ความตาย ผู้จัดการมรดกก็ยังคงมีหน้าที่ต้องจัดการตามที่จำเป็นเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดแห่งพินัยกรรมโดยการสืบหาทายาทของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเพื่อแจ้งให้ทราบและรับโอนทรัพย์มรดกดังกล่าวของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1719 ซึ่งไม่ใช่เป็นการจัดการมรดกของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ผู้จัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดแม้ผู้รับพินัยกรรมเสียชีวิต ต้องสืบหาทายาทเพื่อโอนมรดกตามพินัยกรรม
เมื่อผู้จัดการมรดกยังไม่ได้จัดการโอนทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทตามที่พินัยกรรมกำหนดไว้การจัดการมรดกจึงยังไม่เสร็จสิ้นแม้ต่อมาผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมจะถึงแก่ความตายผู้จัดการมรดกก็ยังคงมีหน้าที่ต้องจัดการตามที่จำเป็นเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดแห่งพินัยกรรมโดยการสืบหาทายาทของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเพื่อแจ้งให้ทราบและรับโอนทรัพย์มรดกดังกล่าวของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1719ซึ่งไม่ใช่เป็นการจัดการมรดกของผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมของทายาทต่อการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์มรดกของผู้จัดการมรดก และผลผูกพันตามกฎหมาย
ทายาททั้งหมดของผู้ตายได้ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรของผู้ตายเป็นผู้จัดการมรดกมีผลเท่ากับทายาทมอบให้จำเลยแต่ผู้เดียวเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับมรดกของผู้ตายเมื่อจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินของผู้ตายแก่โจทก์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้กองมรดกและแบ่งปันแก่ทายาทแม้จะกระทำก่อนที่จำเลยจะได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายก็ตามแต่ทายาททั้งหมดก็ทราบดีและไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านในขณะทำสัญญาหรือภายในเวลาอันสมควรนับแต่ทราบจึงฟังได้ว่าทายาททุกคนยินยอมให้จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินแก่โจทก์และแต่ละคนเชิดให้จำเลยเป็น ตัวแทนของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา821สัญญาจึงมีผลผูกพันทายาททุกคนในอันที่จะต้องโอนขายที่ดินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก กรณีทรัพย์สินถูกยกให้ก่อนเสียชีวิต
คำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านอ้างว่า ทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งได้แก่ที่ดิน 2 แปลง ผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านทั้งสอง ก่อนผู้ตายถึงแก่-ความตาย จึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออีก และผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกรายนี้ซึ่งถ้าได้ความตามคำร้องขอของผู้คัดค้าน กรณีย่อมถือได้ว่าคดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดกเมื่ออ้างว่าทรัพย์มรดกถูกยกให้ไปก่อนตายแล้ว
คำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านอ้างว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งได้แก่ที่ดิน2แปลงผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านทั้งสองก่อนผู้ตายถึงแก่ความตายจึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออีกและผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกรายนี้ซึ่งถ้าได้ความตามคำร้องขอของผู้คัดค้านกรณีย่อมถือได้ว่าคดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการรับอำนาจผู้จัดการมรดก ศาลพิพากษาถูกต้องตามกระบวนการ
แม้ทนายจำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไว้ก่อนสืบพยานก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีโดยสั่งในวันที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องนั้นเอง ซึ่งในตอนท้ายคำร้องมีข้อความระบุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ จึงถือว่าทนายจำเลยทั้งสองทราบคำสั่งศาลโดยชอบแล้ว การที่ทนายจำเลยทั้งสองไม่ทราบคำสั่งศาลดังกล่าวจึงเป็นความบกพร่องของทนายจำเลยทั้งสองเอง
การที่จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาไม่มาศาลย่อมทำให้เสียประโยชน์ คือ ไม่มีสิทธิถามค้านพยานโจทก์ที่สืบไปแล้วในวันที่จำเลยทั้งสองไม่มาศาล และหากว่าโจทก์สืบพยานหมดในวันนั้น จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ในวันหลังอีก เพราะหมดเวลาที่จำเลยทั้งสองจะนำพยานเข้าสืบแล้ว ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาแล้วทำการสืบพยานโจทก์ไปในวันนั้นจนเสร็จสิ้นและมีคำพิพากษาไปในวันเดียวกันจึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ส่งมอบโฉนดที่ดินมรดกแก่โจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย เพื่อโจทก์จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดก จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่ทายาท แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่า โจทก์มิใช่ผู้จัดการมรดกของผู้ตาย จึงเท่ากับรับว่าโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจริง ดังนั้น โจทก์จึงมีอำนาจเรียกให้จำเลยทั้งสองส่งมอบโฉนดที่ดินเพื่อจะจัดการแบ่งปันมรดกแก่ทายาทตามหน้าที่ของโจทก์ต่อไป เพราะในชั้นนี้มิได้พิพาทกันว่าทรัพย์มรดกสิ่งใดเป็นของทายาทคนใดหรือผู้ใดเป็นทายาทของเจ้ามรดกหรือไม่ศาลจึงชอบที่จะพิพากษาให้จำเลยทั้งสองส่งมอบโฉนดที่ดินตามฟ้องแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รวมและมรดก: สิทธิฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้มีกรรมสิทธิ์โดยตรง การแบ่งมรดกเป็นอำนาจผู้จัดการมรดก
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับ จ.บิดาโจทก์ โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทน จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท
การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของ จ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ผู้จัดการมรดก หรือทายาทอื่น ๆ มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อ ป.ที่ดินมาตรา 86 ผลต่อไปต้องเป็นไปตาม ป.ที่ดินมาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก: ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาความเหมาะสมและประโยชน์สูงสุดแก่ทายาทและกองมรดก
การตั้งผู้จัดการมรดกศาลย่อมใช้ดุลพินิจคำนึงถึงความเหมาะสมประกอบกับพฤติการณ์ที่จะให้ประโยชน์แก่ทายาทและกองมรดก การที่ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ตาย ไม่ทราบว่ามีทรัพย์มรดกอะไรบ้าง ทั้งไม่ทราบเจตนาของผู้ตายว่าประสงค์จะยกทรัพย์มรดกส่วนใดให้แก่ผู้ใด ส่วนผู้คัดค้านอยู่ใกล้ชิดกับผู้ตาย รู้ว่าทรัพย์มรดกอยู่แห่งใดและทราบความประสงค์ของผู้ตายว่าต้องการยกทรัพย์มรดกส่วนใดให้แก่ผู้ใดนั้น ไม่ใช่เหตุผลที่แสดงถึงความเหมาะสมที่ผู้คัดค้านจะเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว ผู้ร้องไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดก การให้ผู้ร้องและผู้คัดด้านได้จัดการมรดกร่วมกันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ทายาทและกองมรดกมากกว่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว
ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างก็อ้างว่า ตนสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และขอให้ศาลตั้งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเท่านั้น คดีไม่มีประเด็นว่าทรัพย์สินใดเป็นมรดกของผู้ตาย การที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า ทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่มรดกของผู้ตายจึงเป็นเรื่องนอกเหนือจากคำขอและนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้จัดการมรดก: ศาลพิจารณาประโยชน์แก่ทายาทและกองมรดกเป็นหลัก แม้ผู้คัดค้านใกล้ชิดผู้ตายแต่ไม่ได้หมายความเหมาะสมเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว
การตั้งผู้จัดการมรดกศาลย่อมใช้ดุลพินิจคำนึงถึงความเหมาะสมประกอบกับพฤติการณ์ที่จะให้ประโยชน์แก่ทายาทและกองมรดกการที่ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ตายไม่ทราบว่ามีทรัพย์มรดกอะไรบ้างทั้งไม่ทราบเจตนาของผู้ตายว่าประสงค์จะยกทรัพย์มรดกส่วนใดให้แก่ผู้ใดส่วนผู้คัดค้านอยู่ใกล้ชิดกับผู้ตายรู้ว่าทรัพย์มรดกอยู่แห่งใดและทราบความประสงค์ของผู้ตายว่าต้องการยกทรัพย์มรดกส่วนใดให้แก่ผู้ใดนั้นไม่ใช่เหตุผลที่แสดงถึงความเหมาะสมที่ผู้คัดค้านจะเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียวผู้ร้องไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดกการให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้จัดการมรดกร่วมกันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ทายาทและกองมรดกมากกว่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างก็อ้างว่าตนสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและขอให้ศาลตั้งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเท่านั้นคดีไม่มีประเด็นว่าทรัพย์สินใดเป็นมรดกของผู้ตายการที่ผู้คัดค้านฎีกาว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่มรดกของผู้ตายจึงเป็นเรื่องนอกเหนือจากคำขอและนอกประเด็น
of 111