คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยกฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5657/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำลำรางสาธารณะและการปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน: เหตุอันสมควรในการยกฟ้อง
ช.ฟ้องจำเลยว่าสร้างรั้วรุกล้ำลำรางสาธารณประโยชน์และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า พยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่ารั้วที่จำเลยสร้างรุกล้ำ ลำราง สาธารณประโยชน์ระหว่างที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นายอำเภอมีคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนรั้วออกจากลำรางสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ดังนี้ มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจว่าตนมิได้สร้างรั้วรุกล้ำ ลำรางสาธารณประโยชน์ดังที่ถูกกล่าวหาทั้งจำเลยได้ให้ทนายความ มีหนังสือชี้แจงเหตุผลต่อนายอำเภอทันทีที่ทราบคำสั่งถือได้ว่าจำเลย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายอำเภอโดยมีเหตุและข้อแก้ตัวอันสมควรจำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดและเหตุยกฟ้องคดีอาญา: ความรับผิดของโจทก์และทนาย, การแจ้งเหตุจำเป็น
โจทก์เคยขอเลื่อนคดีหลายครั้ง โดย 3 ครั้งหลังขอเลื่อนคดีติดต่อกัน ครั้งนี้โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้ว โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ อ้างว่าทนายโจทก์ป่วย เช่นนี้ แม้การเจ็บป่วยจะถือเป็นเหตุอันสมควรในการมาศาลไม่ได้ แต่ก็ไม่หมายความว่า หากทนายโจทก์เจ็บป่วยแล้วจะถือเป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนคดีให้โจทก์เองโดยปริยาย เป็นเรื่องที่โจทก์หรือทนายโจทก์จะต้องแจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุที่ไม่อาจดำเนินคดีตามกำหนดนัดของศาล ทั้งข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่า ตัวโจทก์ไม่สามารถมาศาลด้วย พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า โจทก์ไม่มาศาลเพราะไม่สนใจต่อเวลานัดของศาล หาใช่เพราะมีเหตุอันสมควรไม่ จึงไม่มีเหตุจะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4036-4037/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาถึงที่สุด และการยกฟ้องคดีที่ไม่มีมูลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โจทก์และจำเลยต่างระบุสำนวนคดีที่เคยฟ้องร้องกันมาก่อนเป็นพยาน โดยจำเลยขอให้ศาลนำคดีดังกล่าวมารวมกับคดีนี้เพื่อประกอบการซักค้านด้วย ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว และได้นำข้อเท็จจริงตามสำนวนคดีดังกล่าวมาประกอบการวินิจฉัยและยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ดังนี้ เห็นได้ว่าสำนวนคดีก่อนนั้นได้เข้าสู่สำนวนคดีนี้ตั้งแต่ชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงเพียงพอแก่การวินิจฉัย ศาลจึงงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้วหยิบยกเอาข้อเท็จจริงในสำนวนคดีก่อนมาประกอบการวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ในชั้นพิจารณาได้ไม่เป็นการฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานนอกสำนวน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากจำเลยโดยอ้างเหตุว่า ฝากไว้กับจำเลยเป็นการชั่วคราว คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาฟังว่าโจทก์โอนทรัพย์พิพาทให้จำเลยเนื่องในการสมรสคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนี้ ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนนั้นแม้คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากจำเลยโดยอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ว่า ยกให้โดยเสน่หา และขอถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณคดีก็ต้องฟังตามคำพิพากษาคดีก่อนว่า โจทก์ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยเนื่องในการสมรส เพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องศาลจึงชอบที่จะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายได้ โดยไม่จำต้องชี้สองสถานและสืบพยานต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4036-4037/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาถึงที่สุด และการยกฟ้องคดีไม่มีมูลตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 535(4)
ในชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา โจทก์และจำเลยต่างระบุสำนวนคดีที่เคยฟ้องร้องกันมาก่อนเป็นพยาน โดยจำเลยขอให้ศาลนำคดีดังกล่าวมารวมกับคดีนี้เพื่อประกอบการซักค้านด้วย ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว และได้นำข้อเท็จจริงตามสำนวนคดีดังกล่าวมาประกอบการวินิจฉัยและยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ดังนี้ เห็นได้ว่าสำนวนคดีก่อนนั้นได้เข้าสู่สำนวนคดีนี้ตั้งแต่ชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงเพียงพอแก่การวินิจฉัย ศาลจึงงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้วหยิบยกเอาข้อเท็จจริงในสำนวนคดีก่อนมาประกอบการวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ในชั้นพิจารณาได้ไม่เป็นการฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานนอกสำนวน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากจำเลยโดยอ้างเหตุว่า ฝากไว้กับจำเลยเป็นการชั่วคราว คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาฟังว่าโจทก์โอนทรัพย์พิพาทให้จำเลยเนื่องในการสมรสคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนี้ ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนนั้นแม้คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากจำเลยโดยอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ว่า ยกให้โดยเสน่หา และขอถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณคดีก็ต้องฟังตามคำพิพากษาคดีก่อนว่า โจทก์ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยเนื่องในการสมรส เพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535(4)โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องศาลจึงชอบที่จะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายได้ โดยไม่จำต้องชี้สองสถานและสืบพยานต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4007-4008/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหาย แม้พนักงานอัยการได้ฟ้องไปแล้ว และการยกฟ้องเนื่องจากข้อเท็จจริงไม่สนับสนุน
แม้พนักงานอัยการจะยื่นฟ้องจำเลยข้อหายักยอกแล้ว โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายก็มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดเดียวกันเป็นคดีใหม่ต่างหากได้ ไม่มีกฎหมายห้ามไว้ และเมื่อศาลสั่งรวมพิจารณาคดีเข้าด้วยกันแล้วคดีของโจทก์ร่วมก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้องอีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 162.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด แม้จำเลยไม่มาด้วย
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดีจึงได้ กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2530).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด โดยไม่ต้องเลื่อนคดีหรือออกหมายจับ
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วมิให้มีการประวิงคดีจึงได้กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2530).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด และเหตุผลที่ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนเหตุผลความคลาดเคลื่อนของวันนัด
ป.วิ.อ. มาตรา 166 และมาตรา 181 มีเจตนารมณ์ที่จะเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดี จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีจึงเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาลหาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่ ดังนั้น เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา โดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้องแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่จำต้องคำนึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าโจทก์จำเวลานัดของศาลคลาดเคลื่อนไปสมควรที่ศาลจะได้ทำการไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของโจทก์นั้น แม้จะเป็นความจริงตามที่โจทก์อ้าง ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนเสียก่อนมีคำสั่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุสมควรยกเลิกคำสั่งยกฟ้องและไต่สวนข้อเท็จจริง
คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ของโจทก์อ้างว่า ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์มาศาลตามกำหนดนัดแล้ว แต่คิดว่าศาลคงเลื่อนคดีเพราะจำเลยไม่มา ทนายโจทก์จึงไปว่าความอีกศาลหนึ่ง ส่วนโจทก์แยกไปทำธุระโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือขออนุญาตจากศาล ดังนี้ ศาลชั้นต้นไม่ควรยกคำร้อง ชอบที่จะไต่สวนว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะหากเป็นความจริงตามคำร้อง ก็ถือว่ามีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษายกฟ้องแล้วกลับคำพิพากษาในคดีลักทรัพย์ เนื่องจากพยานหลักฐานประกอบกับคำให้การในชั้นสอบสวนสอดคล้องกัน
โจทก์ฟ้องว่าเกิดเหตุระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2526 ถึงวันที่19 ธันวาคม 2526 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าในวันที่ 13 ธันวาคม 2526 จำเลยลักอะไหล่รถยนต์ของผู้เสียหายรวม 5 กล่องนำไปฝากไว้กับ ม. และในวันที่ 15ธันวาคม 2526 จำเลยได้ลักเอาอะไหล่รถยนต์อีก 5 กล่องไปฝากไว้กับ ม. อีกเช่นกัน แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่า จำเลยมิได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน และจำเลยไม่รู้จักกับ ม. ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยลักอะไหล่รถยนต์ของผู้เสียหายไปในวันที่ 13 และ 15 ธันวาคม 2526 ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงมิได้แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์ฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 164