พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการส่งมอบเอกสารสิทธิ แม้มีข้อพิพาทเรื่องหนี้สิน ผู้ให้กู้ต้องส่งมอบเอกสารให้เจ้าหนี้บังคับคดีตามคำพิพากษา
ทำสัญญากู้เงินเขาแล้วมอบใบโฉนดตราจองซึ่งมีชื่อผู้กู้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้จนกว่าจะชำระเงินเสร็จภายหลังผู้กู้ถูกผู้อื่นฟ้องอ้างว่า ผู้กู้แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานใส่ชื่อผู้กู้ในโฉนดผู้กู้จึงยอมความในศาล ยอมรับว่าที่ดินนั้นเป็นของผู้อื่นนั้นและยอมให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินทำการเพิกถอนการโอนที่ผู้กู้ก่อขึ้นเสียและจดทะเบียนโอนมาเป็นของผู้อื่นที่ฟ้องนั้นดังนี้ เมื่อปรากฎว่าใบแทนโฉนดอยู่ที่ผู้ให้กู้ยึดถือไว้ ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะหมายเรียกใบแทนโฉนดนั้นมาจากผู้ให้กู้ เพื่อจัดการตามคำบังคับได้ แต่ถ้าศาลหรือเจ้าพนักงานมิได้จัดการดังกล่าวนั้น ผู้ชนะคดีก็ย่อมฟ้องผู้ให้กู้เป็นจำเลย ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ให้กู้ส่งใบแทนโฉนดนั้นมาเพื่อจัดการให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีก่อนนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้จัดการปลงศพกู้เงินทำศพและหักจากกองมรดกได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาท
ภรรยาผู้ตายย่อมมีสิทธิเป็นผู้จัดการปลงศพผู้ตาย และมีสิทธิไปกู้เงินมาใช้จ่ายในการทำศพผู้ตายได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาทอื่น
เงินที่กู้มาใช้จ่ายในการทำศพเจ้ามรดก เมื่อเป็นจำนวนไม่เกินสมควรแล้ว ให้หักออกจากกองมรดกได้
เงินที่กู้มาใช้จ่ายในการทำศพเจ้ามรดก เมื่อเป็นจำนวนไม่เกินสมควรแล้ว ให้หักออกจากกองมรดกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนกันและการเรียกร้องสิทธิในที่ดินที่ถูกยึดถือเพื่อเป็นหลักประกัน
บิดากู้เงินผู้อื่นมาแล้วมอบที่นาไว้ให้เขายึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยภายหลังบิดาตาย น้าจึงไปชำระเงินกู้และไถ่ถอนที่นาคืนมาจากเจ้าหนี้แทนบุตรดังนี้ บุตรมีอำนาจฟ้องน้า ขอให้รับชำระหนี้เงินกู้และคืนนาให้แก่บุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของบุคคลที่สามในคดีมรดก: การคุ้มครองสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์มรดกเมื่อมีการฟ้องหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามา เพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมรดกของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1)ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ได้รับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันที ไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่องและไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความเช่นอนุมาตรา 2 แม้คู่ความจะคัดค้าน ศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัว และในฐานะผู้จัดการมรดก และผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้อง จำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้อง ดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัว และในฐานะผู้จัดการมรดก และผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้อง จำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้อง ดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับมรดกในการคุ้มครองจากหนี้สินที่สร้างขึ้นโดยสมยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมรดกของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ได้รับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันทีไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่องและไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความเช่นอนุมาตรา 2 แม้คู่ความจะคัดค้าน ศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเรื่องหนี้สินและการทำลายทรัพย์สิน อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นได้
แจ้งความเท็จอันไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดอาญา เป็นความผิดตามกฏหมายลักษณะอาญามาตรา 118 วรรคต้น ถ้าเป็นเรื่องแจ้งความเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาต้องโทษตามวรรคที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.แก้ไข พ.ศ.2477 (ฉะบับที่ 3)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์ซื้อเชื่อร่มของจำเลยไป ไม่ยอมใช้ราคาและฉีกร่มนั้นขาดเสียหาย. ส่วนความจริงจำเลยยินยอมให้ร่มแก่โจทก์เพื่อทดแทนร่มที่จำเลยทำของโจทก์เสียหายดังนี้ ถ้าเป็นความจริงดังฟ้องก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 วรรคต้น.
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์ซื้อเชื่อร่มของจำเลยไป ไม่ยอมใช้ราคาและฉีกร่มนั้นขาดเสียหาย. ส่วนความจริงจำเลยยินยอมให้ร่มแก่โจทก์เพื่อทดแทนร่มที่จำเลยทำของโจทก์เสียหายดังนี้ ถ้าเป็นความจริงดังฟ้องก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 วรรคต้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสารภาพหนี้เป็นหลักฐานฟ้องร้องได้ แม้ไม่ใช่สัญญาเงินกู้
เอกสารแสดงว่าเป็นหนี้เงิน แม้ไม่แสดงไว้ว่าเป็นหนี้เงินกู้ ก็ถือเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องตาม ม. 653 ได้ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องฟังการนำสืบต่อไปว่าเป็นหนี้อะไร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีหนี้สินโดยไม่ระบุวันทำสัญญา และการพิจารณาความชัดเจนของฟ้อง
ฟ้องระบุเดือนและ พ.ศ.ที่จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์แล้วระบุว่า หนังสือกู้นั้นถูกพวกปล้นเก็บไป แม้ไม่ระบุวัน วันที่กู้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาบางข้อ เมื่อผู้ฎีกาไม่อุทธรณ์คัดค้านคำสั่ง ศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยฉะเพาะข้อฎีกาที่ศาลเดิมสั่งรับ
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาบางข้อ เมื่อผู้ฎีกาไม่อุทธรณ์คัดค้านคำสั่ง ศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยฉะเพาะข้อฎีกาที่ศาลเดิมสั่งรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างนิติกรรมโมฆียะและการเรียกร้องเงินจากกองมฤดก: ผู้รับมรดกต้องรับผิดในหนี้สิน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้ว หญิงต้องคืนเงินนั้นตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมโมฆียะ การบอกล้าง และการคืนเงิน - หนี้สินที่เกิดจากตัวแทน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้วหญิงต้องคืนเงินนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมรดกใช้เงินไม่ได้ ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมรดกใช้เงินไม่ได้ ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร