พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษทางอาญา: ศาลไม่สามารถลดโทษหรือปล่อยตัวจำเลยได้ตามมาตรา 3(1) ป.อาญา
คดีอาญาถึงที่สุด จำเลยยื่นคำร้องว่า ศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา เป็นอัตราโทษหนักว่าประมวลกฎหมายอาญานั้น เป็นกรณีไม่เข้าอยู่ใน มาตรา 3(1) ประมวลกฎหมายอาญาที่ศาลจะกำหนดโทษเสียใหม่ หรือจะปล่อยจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากเด็กจากผู้ปกครองและการเพิ่มโทษทางอาญาหลังพ้นโทษ
จำเลยเป็นลูกจ้างมีหน้าที่เป็นคนครัวซักเสื้อผ้าและอื่น ๆ ภายในบ้าน ถ้ามีเวลาว่างจึงช่วยดูแลเด็ก จำเลยได้นำเด็กอายุ 10 เดือน ซึ่งเป็นลูกของนายจ้างไปฝากผู้มีชื่อไว้โดยจำเลยอ้างว่าเป็นบุตรของจำเลยเอง เช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการพรากเด็กไปเสียจากผู้ปกครองตาม มาตรา 317 ส่วน มาตรา 306, 307 เป็นเรื่องทอดทิ้งเด็กไว้ ไม่ใช่การพาไปหรือพรากไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันฆ่า, ป้องกันตัว, และการทำร้ายร่างกาย: ความรับผิดทางอาญา
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายถูกกลางหลังทะลุออกหัวนมขวาตายภายหลังเล็กน้อย ถือว่าจำเลยเจตนาฆ่า
การที่จำเลยที่ 1-2 ถือมีดคนละเล่มเข้าไปในบ้านผู้ตายและจำเลยที่ 1 แทงนาง น.ภรรยานาย ข. ๆ ฉวยหอก เข้าทำร้ายจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เข้าทำร้ายนาย ข.บุตรของนาย ข.ฟันจำเลยที่ 1-2 แล้วนาย ข.และบุตรถูกจำเลยที่ 1-2 ทำร้ายถึงตาย ถือว่านาย ข.ทำเพื่อป้องกันชีวิตนาง น.และบุตรนาย ข.ป้องกันชีวิตนาย ข.ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสมัครใจวิวาทต่อสู้ทำร้ายกัน
และการที่จำเลยที่ 3 ถือขวานอยู่ที่ประตูรั้วบ้านผู้ตายก่อน แต่ไม่ปรากฎว่าเข้ามาในบ้านผู้ตายพร้อมจำเลยที่ 1-2 เมื่อจำเลยที่ 3 ฟันนาย ข.1 ทีแล้วไม่ได้ทำอะไรอีก ไม่ถือว่าจำเลยที่ 3 สมคบกับจำเลยที่ 1-2 ฆ่าผู้ตาย มีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย
การที่จำเลยที่ 1-2 ถือมีดคนละเล่มเข้าไปในบ้านผู้ตายและจำเลยที่ 1 แทงนาง น.ภรรยานาย ข. ๆ ฉวยหอก เข้าทำร้ายจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เข้าทำร้ายนาย ข.บุตรของนาย ข.ฟันจำเลยที่ 1-2 แล้วนาย ข.และบุตรถูกจำเลยที่ 1-2 ทำร้ายถึงตาย ถือว่านาย ข.ทำเพื่อป้องกันชีวิตนาง น.และบุตรนาย ข.ป้องกันชีวิตนาย ข.ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสมัครใจวิวาทต่อสู้ทำร้ายกัน
และการที่จำเลยที่ 3 ถือขวานอยู่ที่ประตูรั้วบ้านผู้ตายก่อน แต่ไม่ปรากฎว่าเข้ามาในบ้านผู้ตายพร้อมจำเลยที่ 1-2 เมื่อจำเลยที่ 3 ฟันนาย ข.1 ทีแล้วไม่ได้ทำอะไรอีก ไม่ถือว่าจำเลยที่ 3 สมคบกับจำเลยที่ 1-2 ฆ่าผู้ตาย มีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวผู้ต้องหาอย่างเกินความจำเป็นและทำให้ได้รับความอับอาย ถือเป็นความผิดทางอาญา
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วย วิ.อาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประมาทจากการฝ่าฝืนกฎจราจร: การตีความความประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
การฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับรถยนต์และการจราจรโดยมิได้ตั้งใจ แม้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 43บัญญัติว่าเป็นประมาทก็ตาม แต่เมื่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 หาได้บัญญัติไว้เช่นนั้นไม่จึงถือไม่ได้ว่า การฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับดังกล่าวเป็นการกระทำโดยประมาทไปด้วยทั้งนี้โดยอาศัยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนมูลฟ้องอาญา: การประเมินมูลฟ้องจากพยานหลักฐานเบื้องต้น เพื่อประทับฟ้องหรือไม่
การไต่สวนมูลฟ้องประสงค์เพียงว่า คดีพอมีมูลตามข้อกล่าวหาในฟ้องหรือไม่ หากพอมีมูล ศาลก็ประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมรู้เห็นการกระทำผิดทางอาญา แม้ไม่ได้ลงมือเอง ศาลริบของกลางได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยวิวาททำร้ายร่างกายจำเลยรับสารภาพ ศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือนจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลาง ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาทและไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาทแต่จำเลยที่ 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นการริบทรัพย์ จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย พิพากษายืน คดีเช่นนี้จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทอีกต่อไปไม่ได้ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฎว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้ และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ป.วิ.อาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฏว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเนื่องจากจำเลยหลบหนี ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคดีในชั้นฎีกาได้
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน แต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงออกหมายจับ เมื่อไม่ได้ตัวมาหลัง 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาไป ทนายจำเลยได้ใช้สิทธิฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบ เพราะถือว่าจำเลยไม่มีตัวอยู่ขณะจะพิจารณาคดีในชั้นฎีกา กรณีไม่เข้า วิ.อาญา มาตรา 201 ซึ่งมีแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม วิ.อาญา พ.ศ. 2499 (ฎีกาที่ 223/2500) เพราะไม่ใช่เป็นกรณีที่ส่งสำเนาฟ้องให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้.