คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาฆ่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีด: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในเวลากลางวัน มีโอกาสเลือกและแทงที่ท้องจนลึกเข้าช่องท้อง ถูกอวัยวะภายในเป็นบาดแผลถึงกับเลือดตกในมาก ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง เห็นได้ว่าจำเลยแทงได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในเวลากลางวัน มีโอกาสเลือกและแทงที่ท้องจนลึกเข้าช่องท้อง ถูกอวัยวะภายในเป็นบาดแผลถึงกับเลือดตกในมาก ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง เห็นได้ว่าจำเลยแทงโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการเล็งปืน แม้ไม่สำเร็จ ก็เป็นความผิดพยายามฆ่า
จำเลยกระชากลูกเลื่อนปืนคาบิน กระสุนเข้ารังเพลิงพร้อมจะยิงได้ จ้องเล็งไปทางผู้เสียหายซึ่งอยู่ห่าง 10 เมตร แต่ถูกขัดขวางเสีย เป็นพยายามฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการขับรถชนตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่สำเร็จโทษยังคง
ผู้เสียหายเป็นตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจพบจำเลยขับรถยนต์โดยสารโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ จึงสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ จำเลยกลับขับรถไปทางอื่น ผู้เสียหายนั่งรถติดตามไปทัน สั่งให้จำเลยไปสถานีตำรวจอีก จำเลยกลับขับรถยนต์ต่อไป ผู้เสียหายนั่งรถแซงรถจำเลยไปจอดข้างหน้า ลงจากรถไปยืนบนถนน โบกมือให้รถจำเลยหยุด จำเลยไม่หยุดรถ แต่กลับขับไปโดยเร็วจะชนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายหลบเสียทัน หากไม่หลบ รถจำเลยก็ต้องชนผู้เสียหาย ฟังได้ว่าจำเลยมีความโกรธแค้นที่ผู้เสียหายติดตามจับจำเลยจึงมีเจตนาฆ่าโดยการขับรถชนในขณะผู้เสียหายปฏิบัติการตามหน้าที่ แต่เพราะผู้เสียหายหลบเสียทันจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การเปลี่ยนเป้าหมายจากการแก้แค้นเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยกับพวกเตรียมการมีอาวุธมาเพื่อจะฆ่าทหารกลุ่มที่ทำร้ายพวกของตนเท่านั้น บังเอิญมาพบทหารกลุ่มอื่นเข้า จำเลยกับพวกเกิดความคิดที่จะฆ่าทหารกลุ่มที่พบในปัจจุบันทันที ดังนั้น การที่จำเลยฆ่าและพยายามฆ่าทหารในกลุ่มที่พบนี้ จึงเป็นเรื่องที่จำเลยมิได้เตรียมการมาก่อน จำเลยกับพวกหาได้มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
แม้จำเลยที่ 1 จะแทงผู้ตายเพียงทีเดียว และไม่ปรากฏความยาวของมีดพกที่ใช้แทง แต่ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่างจำเลยที่ 1 แทงหน้าอกซ้ายซึ่งเป็นที่สำคัญโดยมีโอกาสเลือกแทง และตามรายงานชันสูตรพลิกศพไม่ได้บันทึกความลึกของบาดแผล แต่ว่าระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดล้มเหลวแสดงว่าแทงอย่างแรงจนเส้นเลือดขาด ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 มีมีดพกปลายแหลมกับพวกอีกคนหนึ่งซึ่งมีมีดดาบเป็นอาวุธเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุแล้วชี้หน้าผู้ตายเป็นลักษณะบอกพวกให้เข้าทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 แทงจนถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรงต่อเนื่องหลายนัด ศาลฎีกายืนโทษจำคุก
จำเลยกับพวกใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงไปที่กลุ่มผู้เสียหายซึ่งอยู่ห่าง 1 วาเศษ กระสุนปืนถูกพวกผู้เสียหายที่เท้า ทั้งปรากฏว่าหลังจากยิงนัดแรกแล้วยังมีการยิงต่อไปอีก 4 นัด แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าแต่ทำไม่สำเร็จ วัตถุระเบิดมีกำลังอ่อน ศาลลดโทษจากพยายามฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ความพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 ให้จำคุก 2 ปี กระทงหนึ่ง และมีความผิดฐานพยายามฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 ให้จำคุก 10 ปี อีกกระทงหนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะความผิดฐานพยายามฆ่า เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81 ให้จำคุก 4 ปี ดังนี้ ข้อหาฐานมีวัตถุระเบิดฯ ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนข้อหาฐานพยายามฆ่านั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก จำเลยจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าลูกระเบิดที่จำเลยขว้างผู้เสียหายนั้นเป็นลูกระเบิดชนิดร้ายแรงเพียงใดหรือไม่ แต่ปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับทั้งๆ ที่ผู้เสียหายอยู่ตรงจุดระเบิดนั้นเองว่า มีบาดแผลเพียง 4 แห่ง คือ 1.บริเวณกกหูขวา หูขวา และใบหน้าแถบขวา แผลจุดแดงเล็กๆ ทั่วบริเวณและผิดหนังแดงพอง 2.บริเวณคอแถบขวาแผลขาว 1.5 เซนติเมตร 2 แห่ง รอบแผลบวมแดง 3.สะบักขวาผิดหนังขาดกว้าง 4 เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตร รอบแผลบวมมาก และบริเวณเดียวกันมีแผลยาว 2 เซนติเมตร 3 แห่ง รอบๆ แผลมีจุดแดงๆ เล็ก ทั่วไป ผิวหนังพอง 4. เนื้อไหม้เป็นวงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วฟุต ผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืน รุ่งขึ้นแพทย์ก็ให้กลับบ้านได้ เพียงแต่ให้ไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลอีกเท่านั้น ดังนี้ แสดงว่าวัตถุระเบิดนั้นมีกำลังอ่อน ไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ แม้จำเลยมีเจตนาฆ่า แต่การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 81 หาใช่มาตรา 288, 80 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากบาดแผลฉกรรจ์ แม้ไม่สำเร็จความตายเข้าข่ายพยายามฆ่า
ขณะที่ผู้เสียหายกำลังยืนดูมวยอยู่มิได้ระวังตัว จำเลยใช้มีดโกนปาด (ในลักษณะที่ชกเฉี่ยวปาด) ที่บริเวณคอผู้เสียหายมีบาดแผลยาวถึง 10 เซนติเมตร นายแพทย์สุทัศน์ (ผู้ชันสูตรบาดแผล) เบิกความว่า ที่คอที่หลอดคอกับเส้นโลหิตใหญ่เป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลของผู้เสียหายถูกเส้นโลหิตดำขาด แต่ไม่ถูกเส้นโลหิตแดง ถ้าหากเส้นโลหิตแดงใหญ่ขาดทำให้ถึงตายได้ การที่จำเลยเลือกทำร้ายผู้เสียหายที่อวัยวะสำคัญและกระทำโดยแรงมีบาดแผลฉกรรจ์ด้วยอาวุธมีดโกนชนิดพับได้อย่างที่ใช้กันในร้านตัดผมใบมีดยาว 5 นิ้วฟุต กว้าง 1 นิ้วมือเศษ ทั้งใบมีดและด้ามยาวคืบเศษ แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีดโกนที่คอ แม้ไม่ถึงแก่ความตาย แต่มีเจตนาฆ่า
ขณะที่ผู้เสียหายกำลังยืนดูมวยอยู่มิได้ระวังตัว จำเลยใช้มีดโกนปาด(ในลักษณะที่ชกเฉี่ยวปาด) ที่บริเวณคอผู้เสียหายมีปาดแผลยาวถึง 10 เซนติเมตร นายแพทย์สุทัศน์ (ผู้ชันสูตรบาดแผล) เบิกความว่า ที่คอมีหลอดคอกับเส้นโลหิตใหญ่เป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลของผู้เสียหายถูกเส้นโลหิตดำขาด แต่ไม่ถูกเส้นโลหิตแดง ถ้าหากเส้นโลหิตแดงใหญ่ขาดทำให้ถึงตายได้ การที่จำเลยเลือกทำร้ายผู้เสียหายที่อวัยวะสำคัญและกระทำโดยแรงมีบาดแผลฉกรรจ์ด้วยอาวุธมีดโกนชนิดพับได้อย่างที่ใช้กันในร้านตัดผมใบมีดยาว 5 นิ้วฟุต กว้าง 1 นิ้วมือเศษ ทั้งใบมีดและด้ามยาวคืบเศษ แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
of 78